วันที่ 25 มี.ค.67 พล.ต.ต.วัชรินทร์ พูสิทธิ์ ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พ.ต.อ.อรุณ วชิรศรีสุกัญญา รองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พ.ต.อ.วิศิษฐ์ พลบม่วง ผู้กำกับการ1กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พ.ต.ท.ธานุพันธ์ สุระสะ สารวัตรกองกำกับการ1กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นำกำลังจับกุม นางสาวอภิษฎา ยังอยู่ อายุ 24 ปี ตามหมายจับศาลอาญาจังหวัดสมุทรปราการ ที่ 775/2566 ลงวันที่ 25 ก.ย.66 ข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน, มีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ” และหมายจับคดีลักษณะดังกล่าวรวม 3 หมาย ได้บริเวณที่พักย่าน ซอยสนามจันทร์8 ตำบลสนามจันทร์ อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม
ทั้งนี้เมื่อเดือนสิงหาคม2566 นางสาววิภาพร ราชา อายุ 45 ปี ได้พบโฆษณาปล่อยเงินกู้ออนไลน์จึงได้กดลิงค์แล้วกรอกข้อมูลส่วนตัวยื่นกู้เงินจำนวน 100,000 บาท เพื่อนำเงินมาช่วยครอบครัวที่ถูกฟ้องร้องจะถูกยึดบ้าน หลังจากลงทะเบียนเสร็จแล้ว กลุ่มคนร้ายได้แจ้งว่า เงินกู้ได้รับการอนุมัติแล้ว แต่ให้โอนเงินจำนวน 10% ของยอดเงินที่ยื่นกู้ หรือจำนวน 10,000 บาท เพื่อสร้างเครดิตในระบบธนาคาร จึงจะสามารถถอนเงินได้ ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงได้โอนเงินตามคำแนะนำของคนร้าย แต่แล้วกลุ่มคนร้ายไม่โอนเงินกู้ให้กับผู้เสียหายแต่อย่างใด อีกทั้งยังหลอกลวงให้ผู้เสียหายโอนเงินไปแก้ไขข้อขัดข้องของระบบอีกหลายครั้งรวมเป็นเงินจำนวน 1,700,000 บาท เมื่อผู้เสียหายรู้ตัวว่าถูกหลอก จึงเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรบางแก้ว
ต่อมาวันที่ 28 ส.ค.66 นายสาณิช ดอกไม้ อายุ 41 ปี สามีของ นางสาววิภาพร เกิดความครียดจากเรื่องดังกล่าว จึงได้ก่อเหตุใช้มีดอีโต้ฆ่า นางสาววิภาพร ภรรยา และ ลูกชายอีก 2 คน รวม 3 ศพ ภายในบ้านพักใน ตำบลบางแก้ว อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ จากนั้นปาดคอตัวเองหวังตายตาม แต่อาการสาหัส สาเหตุเกิดจากปัญหาหนี้สินที่สามี ไปค้ำประกันรถยนต์ ของอดีตนายจ้าง และเจ้าของรถไม่ยอมส่งรถ จนโดนฟ้องร้องถึงขั้น ถูกกรมบังคับคดีจะมายึดบ้านขายทอดตลาด แต่ได้เคลียร์กันแล้วเตรียมหาเงินไปจ่าย แต่ต้องมาประสบปัญหากับภรรยาที่ไปกู้เงินในแอปฯเพื่อต้องการเงินแค่ 1 แสนบาท จนถูกหลอกให้โอนเงินไปหลายครั้ง เสียเงินไปประมาณ 1.7 ล้านบาท ที่ต้องไปกู้เงินเพื่อน รวมทั้งเงินเก็บที่เตรียมไว้เคลียร์หนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงรวบรวมหลักฐานก่อนออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องไว้กระทั่งตามจับกุม นางสาวอภิษฎา ผู้ต้องหารายนี้ได้ดังกล่าว
สอบสวนผู้ต้องหา ให้การปฏิเสธว่า เมื่อกลางปี 66 ได้เดินไปทำงานที่ประเทศเพื่อนบ้าน ระหว่างนั้นได้มีคนจ้าง 500 บาทให้ เปิดบัญชีธนาคาร ซึ่งไม่ทราบว่าถูกนำมาใช้หลอกหลวงเหยื่อ จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรบางแก้ว ดำเนินคดีต่อไป
