บันทึกความในใจของครูอิ๊ก

เข้ารับ “เข็มเครื่องหมายเชิดชูเกียรติ” จาก พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย ผู้บัญชาการโรงเรียนนายร้อยตำรวจ ในฐานะเป็นอาจารย์พิเศษแก่ที่สอนต่อเนื่อง 5 ปี เพื่อตอบแทนคุณความดี ตามประมวลระเบียบการตำรวจ

 “เข็มเชิดชูเกียรติชั้น3”

ถือเป็นเกียรติประวัติในชีวิตอย่างสูงของ “ครูอิ๊ก” อาจารย์ณัฐวรินธร บวรภัควุฒิสิริ อาจารย์หัวสมัยใหม่สมเป็น “แม่พิมพ์” ต้นแบบที่หวังให้องค์กรตำรวจเปลี่ยนมุมมองแนวคิดทันกับโลกยุคปัจจุบัน ไม่ใช่ตั้งมั่นยึดกฎระเบียบวัฒนธรรมประเพณีเก่า

กระทั่งกลายเป็น “เต่า” ท่ามกลางกระแสสังคมที่ยังคงมองภาพลักษณ์ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ไปใน “ทางลบ”

เธอเป็นนักธุรกิจสาวผู้มาดมั่นสายตากว้างไกลเมื่อสามารถย่อโลกมาอยู่ในมือ ถือเอาตำราชีวิตในยุคดิจิตอลของสังคมโซเชียลเน็ตเวิร์กมาปูทางให้นักเรียนนายร้อยตำรวจเห็นมุมมองการทำงานในอนาคต

ดีกรีนิติศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ปริญญาโทวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

เปิดบริษัทบุกตลาดในโลกไซเบอร์เปิดมุมคิดใหม่ไม่มีตำราขาย ไม่มีในหลักสูตรปริญญาตรี ปริญญาโท หรือปริญญาเอก อาศัยประสบการณ์การเรียนรู้ กลายเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เธอเข้าไปเป็นครูบรรยายพิเศษให้นักเรียนนายร้อยตำรวจในรั้วสามพราน

“ทุกอย่างในโลกนี้เกิดจากการสร้างภาพลักษณ์ ถ้าคุณเก่ง แต่ไม่มีใครบอกว่าคุณเก่ง แล้วคุณจะดังไหม ถ้าคุณเก่งก็ต้องมีการบอกคนอื่นว่าคุณเก่ง มันถึงจะดัง เพราะฉะนั้นอิ๊กพยายามจะบอกเสมอว่า โลกมันเปลี่ยน ของดีต้องบอกต่อ ถ้าปิดทองหลังพระ ก็จบ ปัจจุบันใช้ไม่ได้ คุณก็จะถูกคนอื่นเหยียบ แล้วข้ามคุณขึ้นไป”สาวสวยที่รับบทอาจารย์พิเศษบอกให้นักเรียนนายร้อยตำรวจคิดเสมอ หัวสมัยใหม่เปิดมุมคิดให้นักเรียนนายร้อยตำรวจ

“คุณเก่งแทบตาย เก่งมาก กลับไม่มีใครรู้ว่าคุณเก่งก็จบแล้ว” เธอย้ำมาตลอด

ผ่านมา 5 ปีแล้วสำหรับชีวิตอาจารย์บรรยายพิเศษของโรงเรียนนายร้อยตำรวจ ครูอิ๊กบันทึกความรู้สึกในวันที่รับมอบเข็มเชิดชูเกียรติของสถาบัน

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา มีคนถามว่าต้องสู้กับอะไรบ้าง

1.คำสบประมาท จากคนทั่วไป

“หน้าตาแบบนี้สอนอะไรวะ”

“สอนได้หรอ”

2.คำสบประมาทจาก คนรู้จัก (ที่ผิวเผิน )

“เข้าไปสอนได้ มีคนฝากมันแน่นอน”

 3.คำสบประมาทจาก คนรู้จัก (เค้าบอกว่า รู้จักเรา แน่นอนเราไม่รู้จักเค้า หรือเราก็แยกได้ระหว่างคำว่า รู้จัก กับ คำว่าเพื่อน ( คนละประเภทกัน)

“สอนแล้วยังไงวะ ไม่เห็นมีไร เรื่องของมึง (เออเรื่องของนี่ ไม่เกี่ยวกับมึงเหมือนกัน )”

3 อย่างด้านบน บอกตรงๆไม่สนใจเลย แค่ ทำตัวเราให้ดี เอาให้จริง ว่าเรา “มีความรู้จริง” แล้วเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์

แยกของปลอมกับของจริงออกได้เอง

แต่จะรู้สึก fail เมื่อนักเรียนไม่สนใจเรียน

เรียนแล้วหลับ ไม่สนใจฟัง (ซึ่งเรื่องนี้อาจารย์ ทุกคนพูดตรงกันว่า เบื่อ)  บางครั้งสอน ค่าสอนเค้าก็ลืมจ่าย  ขับรถไปไกลมาก แล้วเจอนักเรียนไม่น่ารัก จะ “ปวดใจมาก”

การสอนเรื่อง IO ให้เด็ก มีราคาที่เค้าไม่สามารถไปเรียนที่อื่นได้ (เด็กบางคนไม่เข้าใจ)

บทบาท 2 บทบาท คือ ทำงานบริษัทตัวเอง ตอนนี้ก็ยังทำอยู่ และบทบาทที่เพิ่มมา คือ การเป็น “อาจารย์”

ขอบคุณ Energy ตัวเอง ที่ไม่เคยหมด

ขอบคุณที่รู้ตัวเองเสมอ ว่าเรื่องไหน “เราไม่เก่ง” เมื่อเรา รู้ว่าเราโง่ นั่นละเราจะหายโง่ทันที จึงพยายามเช็ก เรียนรู้ สิ่งใหม่ๆอยู่เสมอ

 ขอบคุณตัวเองล้วนๆ ที่พาตัวเองมาอยู่ตรงนี้

บันทึกไว้ วันที่ 21 มิถุนายน 2561

RELATED ARTICLES