ที่วัดตะคร้อ ตำบลด่านจาก อำเภอโนนไทย จังหวัดนครราชสีมา พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 พร้อมด้วย พล.ต.ต.บุญจันทร์ นวลสาย รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 พล.ต.ต.วัชรินทร์ บุญคง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา และนายธงชัย โอฬารพัฒนะชัย นายอำเภอโนนไทย พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำชุมชน และประชาชนในพื้นที่ร่วมพิธีปิดโครงการ “ประชารัฐร่วมใจ ต้านภัยยาเสพติด ตำรวจภูธรภาค 3 (ปักกลด2) และได้ส่งมอบหมู่บ้านปราศจากยาเสพติดให้แก่ชุมชนดูแลอย่างยั่งยืน เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิรวราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 66 พรรษา 28 กรกฎาคม 2561
ทั้งนี้ 236 สถานีตำรวจภูธ ในสังกัดตำรวจภูธรภาค 3 ได้จัดพิธีปิดโครงการพร้อมกันเพื่อสร้างหมู่บ้านชุมชนเข้มแข็ง ปราศจากยาเสพติดอย่างยั่งยืน และสร้างความร่วมมือที่ดีระหว่างตำรวจกับประชาชนตลอดไป ตามจุดมุ่งหมายของโครงการ หลังจากโครงการ “ประชารัฐร่วมใจ ต้านภัยยาเสพติด หรือโครงการปักกลด” ระยะเริ่มแรก ให้ตำรวจทุกโรงพักในสังกัดตำรวจภูธรภาค 3 คัดเลือกพื้นที่ชุมชนของตีวเองที่มีปัญหายาเสพติดระดับรุนแรงมากที่สุด แล้วนำมาวิเคราะห์ วางแผนในการแก้ไขปัญหา สถานีตำรวจละ 1 หมู่บ้าน รวม 8 จังหวัด รวมทั้งหมด 236 หมู่บ้าน โดยให้โรงพักส่งตำรวจ 4 นาย บูรณาการกับฝ่ายปกครอง ทหาร สาธารณสุข และท้องถิ่น ที่เข้าเสริมการทำงานลงในพื้นที่เข้าไปฝังตัวอยู่ในชุมชนไม่น้อยกว่า 30 วัน ตลอด 24 ชั่วโมง และพักอาศัยอยู่ที่วัดหรือศาลาประชาคมในหมู่บ้าน สร้างความ สนิทสนมคุ้นเคย มาช่วยแก้ปัญหาบรรเทาความเดือดร้อนด้วยความจริงใจ จะต้องทำให้ชาวบ้านไว้เนื้อเชื่อใจ ให้ได้ข้อมูลและแก้ไขปัญหายาเสพติดร่วมกัน ตำรวจทั้ง 4 นาย เดินเคาะบ้าน ลงไปพูดคุยกับชาวบ้าน
พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า ปัญหายาเสพติด ตำรวจต้องเข้าไปช่วยแก้ไข คอยเป็นพี่เลี้ยง ค้นหาผู้ติดยาเสพติด และส่งเข้าศูนย์คัดกรองเพื่อบำบัดฟื้นฟู หาข้อมูลผู้ค้า และปราบปรามขบวนการค้ายาเสพติด โดยรายงานหัวหน้าโรงพักพิจารณาส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสนับสนุนภารกิจ ไปให้ความรู้เรื่องยาเสพติดและกฎหมายเบื้องต้นแก่ชาวบ้าน โดยเฉพาะเด็ก เยาวชน ร่วมกับผู้นำชุมชน ชาวบ้าน ประเมินผลร่วมกันว่าชุมชนมีความพร้อมในการแก้ไขปัญหายาเสพติด กลายเป็นชุมชนเข้มแข็งปลอดยาเสพติดหรือไม่ ชาวบ้านให้ความร่วมมือในการปกป้องหมู่บ้านหรือชุมชนอาชญากรรมและยาเสพติดลดลงหรือไม่ หากประเมินไม่ผ่าน จะต้องลงพื้นที่แก้ไขใหม่ หากประเมินผ่าน จะมอบพื้นที่ชุมชนเข้มแข็งให้ชาวบ้านดูแลกันเอง ให้เกิดความต่อเนื่องยั่งยืน มีช่องทางติดต่อสื่อสารระหว่างตำรวจกับประชาชน ก่อนที่ตำรวจจะขยายโครงการไปปักกลดที่ชุมชนอื่นจนครบเป้าหมาย โครงการนี้ได้รับงบประมาณสนับสนุนจากผู้ว่าราชการจังหวัด หรือองค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่น เพื่อเป็นเบี้ยเลี้ยงให้ผู้ปฏิบัติวันละ 100 บาทต่อคน รวมประมาณ 15,000 บาท ต่อชุมชนต่อเดือน
