เริ่มต้นนับปีงบประมาณ 2562 การเริ่มต้นเก้าอี้ใหม่ของชีวิตราชการหลายคน
กองบัญชาการตำรวจนครบาลเปลี่ยนแปลงขุมกำลังระดับผู้บริหารหลายตำแหน่ง สู่ยุค พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น นั่งเก้าอี้ น.1
มี พล.ต.ต.คัชชา ธาตุศาสตร์ รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว พล.ต.ต.สุคุณ พรหมายน รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 พล.ต.ต.ธิติ แสงสว่าง รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 พล.ต.ต.ดาวลอย เหมือนเดช รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 พล.ต.ต.ชัยพร พานิชอัตรา รองผู้บัญชาการกองกฎหมายและคดี พล.ต.ต.ชูฉัตร ธารีฉัตร ผู้กำกับการสืบสวนสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และพล.ต.ต.ธีรศักดิ์ สุริวงศ์ ผู้บังคับการตำรวจจราจร โยกมาเป็นรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล
ผสมผสานทีมงานเก่าที่ยังหลงเหลืออยู่อย่าง พล.ต.ต.ภคพงศ์ พงษ์เภตรา พล.ต.ต.มนตรี ยิ้มแย้ม พล.ต.ต.ภาณุรัตน์ หลักบุญ พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก และ พล.ต.ต.นิตินันท์ เพชรบรม
ส่วนระดับผู้บังคับการ มี พล.ต.ต.พัฒนา เพศยนาวิน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ คืนถิ่นกลับมาเป็นผู้บังคับการตำรวจนครบาล 6 พล.ต.ต.ธนธัช น้อยนาค ผู้บังคับการอำนวยการตำรวจภูธรภาค 9 เป็นผู้บังคับการประจำกองบัญชาการตำรวจนครบาล พ.ต.อ.สำราญ นวลมา รองผู้บังคับการตำรวจสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ ขึ้นเป็นผู้บังคับการตำรวจสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ พ.ต.อ.นิธิธร จินตากานนท์ รองผู้บังคับการตำรวจสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ เลื่อนเป็นผู้บังคับการตำรวจจราจร พ.ต.อ.ไพโรจน์ สุขรวยธนโชติ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุพรรณบุรี เป็นผู้บังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน
ขณะที่ พล.ต.ต.เสนิต สำราญสำรวจกิจ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 ยังอยู่ตำแหน่งเดิม เช่นเดียวกับ พล.ต.ต.เอกชัย บุญวิสุทธิ์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 พล.ต.ต.สมนึก น้อยคง ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 3 พล.ต.ต.ธีระพงษ์ วงษ์รัฐพิทักษ์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 4 พล.ต.ต.มงคล วรุณโณ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 พล.ต.ต.บุญญฤทธิ์ รอดมา ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 7 พล.ต.ต.สัมฤทธิ์ ตงเต๊า ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 8 พล.ต.ต.กัมปนาท โสภโณดร ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 9 พล.ต.ต.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผู้บังคับการสืบสวนตำรวจนครบาล และพล.ต.ต.กิตติพันธุ์ จุนทการ ผู้บังคับการอำนวยการ
ทั้งหมดคือ “ขุนทัพใหม่”ตำรวจเมืองหลวงประจำปีงบประมาณ 2562 ภายใต้การขับเคลื่อนของ พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล
กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ถึงเวลา “ถ่ายเลือด” สลับร่างขุมกำลังระดับสั่งการไม่ต่างกัน เมื่อเข้าสู่ยุค พล.ต.ต.สุทิน ทรัพย์พ่วง นั่งเป็นผู้นำหน่วย
เที่ยวนี้แม้จะมีแค่ พล.ต.ต.กมล เหรียญราชา ผู้บังคับการกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ พล.ต.ต.สิทธิชัย โล่กันภัย ผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมือง 3 เลื่อนเป็นรองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง แต่น่าจะนำพาทัพตามนโยบายสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ไม่ยาก
เมื่อรองแม่ทัพชุดเดิมที่เหลือยังมี พล.ต.ต.ชาญ วิมลศรี พล.ต.ต.ชวลิต แสวงพืชน์ พล.ต.ต.ธนัง บุรานนท์ พล.ต.ต.อภิชาติ ศิริสิทธิ์ พล.ต.ต.สมชาย เกาสำราญ พล.ต.ต.ประเสริฐ พัฒนาดี เป็นหลักช่วยประคับประคองอยู่
ด้านระดับผู้บังคับการคุมหน่วยพิเศษเฉพาะทางปรับเปลี่ยนไม่น้อย
พล.ต.ต.ชำนาญ ชำนาญเวช ผู้บังคับการกองสรรพาวุธ โยกมาเป็นผู้บังคับการรถไฟ พล.ต.ต.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บังคับการกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เป็นผู้บังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช รองผู้บังคับการปราบปราม ขึ้นเป็นผู้บังคับการปราบปราม ขยับ พล.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด ผู้บังคับการปราบปราม เป็น ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำผิดอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ พ.ต.อ.วิวัฒน์ ชัยสังฆะ รองผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค เป็นผู้บังคับการกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ พ.ต.อ.ศิร์ธัชเขต ครูวัฒนเศรษฐ์ รองผู้บังคับการปราบปราม ขึ้นเป็น ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค และพ.ต.อ.ไพบูลย์ น้อยหุ่น รองผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เป็น ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ต.อ.ญัฐศักดิ์ เชาวนาศัย รองผู้บังคับการตำรวจทางหลวง เป็นผู้บังคับการอำนวยการ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พ.ต.อ.พิทักษ์ อุทัยธรรม รองผู้บังคับการปราบปราม เป็นผู้บังคับการประจำกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง
ร่วมขับเคลื่อน พล.ต.ต.ชัช สุกแก้วณรงค์ ผู้บังคับการตำรวจทางหลวง พล.ต.ต.ธนพล ศรีโสภา ผู้บังคับการตำรวจน้ำ พล.ต.ต.ปัญญา ปิ่นสุข ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิด เกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และ พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บังคับการถวายความปลอดภัยและปฏิบัติการพิเศษ หน่วยงาน “น้องใหม่ป้ายแดง” ของกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง
ประเดิมเคาะระฆังรอยลผลงานทัพใหม่ของหน่วยหลัก “นครบาล –สอบสวนกลาง” ต่อไป
