เมื่อวันพิธีรับ “กระบี่สั้น” ประกาศการเป็นครอบครัวนักเรียนนายร้อยตำรวจอย่างเต็มตัว
นรต.ธนากร แก้วทอง นักเรียนนายร้อยตำรวจชั้นปีที่ 1 อยากให้ผู้ชายคนหนึ่งอยู่ด้วยในวันนั้น
ผู้ชายที่มีผลต่อชีวิตเขามากที่สุดคนหนึ่ง
เจ้าตัวได้รำพันถึงเรื่อง ร.ต.ท. นิธิชัย แก้วทอง พ่อบังเกิดเกล้าที่มีเลือดผู้พิทักษ์สันติราษฎร์เต็มตัว
“ชีวิตเคยอยู่จุดที่ต่ำ แต่ก็มีพ่อที่ผมรักที่สุดมาฉุดผมขึ้นมา สอนทุกอย่างที่ผมก็ไม่อยากเป็นยกเว้นยิงปืน เพราะชอบอะไรที่เป็นทหารตำรวจ แต่ผมไม่ได้อยากเป็นอะไรแบบนั้นทั้งคู่เลย” นรต.ธนากรละเมียดวันเก่า
เขายอมรับว่า ใช้ชีวิตเป็นเด็กเลวคนหนึ่งไปวันๆ ตรงข้ามกับพ่ออย่างแรง หมวดไมค์(จะเรียกกับพ่อเล่นๆแบบนี้เสมอ)จะดังในหมู่เพื่อนๆ ที่ทำงานอย่างแรงว่าใจดี มีน้ำใจ เฮฮา ออกกำลังกาย ไม่สำมะเรเทเมา(ไม่ได้ยอ ไปถามสืบ4 กับ น.61 103ได้) ต่างจากเราจริงๆ ไม่เอาอะไรเลย
นักเรียนนายร้อยตำรวจปี 1 เคยมีความรู้สึกเบื่อพ่อเวลาเจอหน้าที่ระเบียบจัดจนน่ารำคาญ ห้องน้ำเปียกน้ำไม่ได้ ผ้าห่มไม่เรียบ มีขน กวาดฝุ่นไม่กวาดเพดาน จานมีคราบ กลับมาบ้านก็เครียดงาน บางทีโวยวาย ส่งไปเรียนพิเศษทั้งที่อยากเล่นดนตรี ขอเงินไปซื้อขนมก็ไม่มีให้ พูดอยู่ได้พ่อไม่มีเงิน แต่เงินเติมน้ำมันไปทำงานมี ไปทำงานได้2-3เดือน หายไปเป็นเดือน ทิ้งลูก ทิ้งเมีย
“ที่ฝึกให้ทำทุกอย่างเป็นเพราะจะหนีครอบครัวไปอย่างนั้นหรือ” เด็กหนุ่มคิดในตอนนั้น
ทำให้ลุกมาใช้ชีวิตแบบผิดๆ แต่ดีที่ไม่เลือกที่จะพึ่งยาเสพติด ทำเรื่องเลวๆ ขั้นที่เรียกว่า อาชญกรรมเก่งเลยแหละ ขโมยของ แอบถ่ายใต้กระโปรง จะยกพวกตีกัน เกือบบูชาซาตาน มีแต่เรื่องเดือดร้อนไปหาหมวดเขา แรกๆ หมวดก็ไม่ได้มีมาตรการรุนแรงอะไรจนทุกอย่างมันหนักเข้า เกือบซ้ำชั้น
ปมด้อยพ่อ คือ พ่ออยากเรียนหนังสือมากๆ พ่อไม่ไหว กลับบ้านมา พูดในสิ่งที่ลูกชายไม่นึกเลยจริงๆว่า พ่อจะพูด เพราะแกจะติดตลกกับลูกทุกคน”
น้ำเสียงของพ่อจริงจังว่า “จะให้พ่อทำอะไรลูกถึงจะเรียน”
แต่เขากลับสวนด้วยอารมณ์ “ก็หัดฟังพวกผมบ้าง เอาแต่ทำงานบ้าๆ จนโคตรๆ รู้บ้างมั้ยว่า ต้องมองคนอื่น”
“พ่อรักมัน ซักวันมึงจะขอโทษที่พูดกับอาชีพบ้านเราแบบนี้ (ใช่ครับ หมวดไมค์บ้างานตำรวจมากๆ) รู้มั้ยว่า แม่เสียใจ ที่ทำแบบนี้ ถ้าแม่ตายไป ลูกจะทำไง”
“ เผาสิจบ” เขายังคงดื้อด้าน
พ่อหันหน้าหนี เขาสัมผัสได้ว่า พ่อเสียใจจริงๆ จนเรื่องมันก็แดง ตอนไปขโมยไส้กรอกกิน แต่ก็ไปจบที่โรงพัก
“พ่อจับคนมาเยอะนะ แต่พ่อไม่อยากจับลูกตัวเองนะ”
แย่ไปกว่านั้น เมื่อพ่อเขาต้องเข้าไปกราบผู้กำกับ ขอขอบคุณที่ปล่อยลูกชาย พ่อกลับถึงบ้าน เขาร้องไห้หนักที่สุดในชีวิตครับ วิ่งไปกราบพ่อ พ่อเอาตรานักสืบวางกับโต๊ะพร้อมกับบอกว่า “พ่อจะสอบนายร้อย พ่อจะกลับมาอยู่บ้าน”
“แกฮึดมากครับที่จะกลับมาดูแลครอบครัวแบบจริงจัง แกเลือกที่จะเปลี่ยนตัวเอง ผันตัวเองมาอยู่กับครอบครัว นั่นแหละครับ จุดเปลี่ยนชีวิตผม ผมพอแล้วกับอะไรแบบนั้น ผมสัญญากับตัวเองมาตลอดว่า ผมจะเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อพ่อ เปลี่ยนมาตั้งใจเรียนแบบสุดขั้วเลย”
พยายามสอบทุนแลกเปลี่ยน เพราะค่อนข้างมั่นใจว่า ใช้ภาษาอังกฤษได้ดี ติดที่ว่า พ่อแม่ไม่มีทุนทรัพย์พอที่จะสนับสนุน จนพีคสุดตอน ม.6 พ่อมาเขาขอเป็นครั้งสุดท้ายในชีวิตของพ่อ
“สอบตำรวจให้พ่อนะ พ่อจะมีรางวัลให้”
แต่สำหรับรางวัลของเขา คือการที่ทำให้พ่อเห็นว่า ลูกชายกลับตัวกลับใจได้ ด้วยการสอบติดโรงเรียนนายสิบตำรวจ มอบรอยยิ้มบนใบหน้าโทรม ๆ ของพ่อในวันประดับยศ เป็นวันที่เขาได้ยินพ่อกระซิบข้างหูแม่
“แม่ๆบ้านเรามีตำรวจน้อยอีกคนละนะ”
เขายิ้มอย่างภูมิใจ เห็นพ่อดีใจ ด่านต่อไป คือ ตั้งเป้าทำงานร่วมกับพ่อ
ปรากฏว่า ผ่านไปเพียง 2วันหลังจากติดยศ พ่อเขาได้ปะทะกับผู้ร้ายมา และติดเชื้อในกระแสเลือดมาไม่มีใครคิดว่า จะเป็นอะไร หมวดไมค์ดูยังแข็งแรงดี จนหนักขึ้นเรื่อย ๆ และเห็นผลในวันที่ 9 พฤศจิกายน 2559 ต้องเข้าห้อง ICU
วันนั้น เขาจำแม่นว่า โบกรถอยู่ถนนวิภาวดีรังสิตในฐานะจราจรน้องใหม่ ร.ต.ท.ประเสริฐ สุขสุมิตร หัวหน้าชุดรีบถีบให้เขาไปดูพ่อทันทีทันใด
จวบจนเช้าวันที่ 12 พฤศจิกายน 2559 เป็นวันที่เขาถอดบั้งสิบตำรวจตรีวางข้างแขนพ่อ ก่อนที่พ่อจะทำร้ายเขาได้โหดร้ายที่สุด
เขามองว่า ขอแค่การใส่ใจจากผู้บังคับบัญชาของพ่อ แต่การตอบสนองก็เรียกได้ว่าค่อนข้างล่าช้า จนกลายเป็นหนึ่งเหตุผลที่ทำให้เขาอยากจะถอดบั้งออกและหันมาประดับดาวเพื่อมาดูแลลูกน้องแบบ ร.ต.ท.นิธิชัย แก้วทอง
“ผมไม่ได้อยากนายตำรวจชั้นสัญญาบัตรเลย มันเหนื่อยมาก มากถึงมากที่สุด แต่ถ้าพ่อรับรู้ว่ าเราตั้งใจที่จะมาอยู่จุดที่ผมอยากจะดูแลคนแบบพ่อได้ พ่อคงรู้ว่าผมจะทำให้พ่อเห็นว่า ผมอยากทำให้พ่อรู้ว่า ผมรักพ่อที่สุด”
“ผมพลาดมาแล้ว…………..ถ้าใครอ่านมาถึงจุดนี้แล้ว ผมขอนะ คุณอย่าพลาดแบบผมอีก นรกมันมีจริงครับ และผมก็อยู่ตรงนั้น ทุกครั้งที่ผมคิดถึงพ่อผมครับ”