กระจอกข่าวยืนยันนั่งยันแล้วว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีจะจรลีมานั่งหัวโต๊ะรับบทประธานประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจเพื่อถกบัญชีแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจระดับ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ถึง ผู้บังคับการ วาระประจำปี 2562
ในวันพฤหัสบดีที่ 29 หรือวันศุกร์ที่ 30 สิงหาคม 2562
ท่ามกลางกระแสกะเก็ง “ตัวเต็งตำแหน่งสำคัญ” กันตามสื่อวงการตำรวจ
หลังจาก พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานการประชุมจัดข้อมูลประกอบการคัดเลือกแต่งตั้ง
แม้ก่อนหน้า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ประเดิมประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ วันระเบิดป่วนกรุง ปรับปรุงแก้ไขกฎกรรมการข้าราชการตำรวจใหม่ว่าด้วย “ลำดับอาวุโส”
แต่หลักเกณฑ์ในการวัดเส้นทางความเจริญก้าวหน้า สุดท้ายคำว่า “อาวุโส” แทบไม่มีความหมาย
ว่ากันว่าวาระการแต่งตั้งโยกย้ายระดับนายพลครั้งนี้มีตำแหน่งว่าง 178 ตำแหน่ง และจะมีการโยกย้ายสลับระนาบเดียวกันกว่า 300 ตำแหน่ง
ระดับ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีเก้าอี้ว่าง 3 ตำแหน่ง
จะมีการผลักดัน พล.ต.ท.ศักดา ชื่นภักดี ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 36 อาวุโสลำดับ 2 เกษียณอายุราชการปี 2564 ข้ามหัว พล.ต.ท.ศตวรรษ หิรัญบูรณะ เพื่อนนักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 36 ที่อาวุโสลำดับ 1 พร้อมกับ พล.ต.ท.มนู เมฆหมอก นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 38 อาวุโสลำดับ 3 เกษียณอายุราชการปี 2564
เก้าอี้ว่างอีก 1 ตำแหน่ง พล.ต.ท.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 36 อาวุโสลำดับ 10 ท้ายสุดในบัญชีที่จะเกษียณอายุราชการปี 2565 กระโดดขึ้นไปนั่งเก้าอี้จ่อปลายยอดบัลลังก์รหัส “พิทักษ์ 1” ในอนาคต
ถ้าเป็นไปตามบัญชีที่ว่านี้สิ้นเดือนกันยายน 2563 จะเหลือกลุ่มผู้ลุ้นชิงชัยตำแหน่ง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แทน พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ที่เกษียณอายุราชการอยู่ถึง 5 คน
ประกอบด้วย พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ จเรตำรวจแห่งชาติ นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 36 พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 37 พล.ต.ท.ศักดา ชื่นภักดี นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 36 พล.ต.ท.มนู เมฆหมอก นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 38 และ พล.ต.ท.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 36
ถึงชั่วโมงนั้นต้องวัดพลัง ความใกล้ชิดขั้วอำนาจ มากกว่าดีกรีความสามารถที่ทำมาตลอดชีวิตเครื่องแบบสีกากี
ส่วนระดับ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีการคาดกันว่า พล.ต.ท.วิรุฬ เอี่ยมไพจิตร์ หัวหน้าจเรตำรวจ และ พล.ต.ท.เพิ่มพูน ชิดชอบ จเรตำรวจ พล.ต.ท.อิทธิพล พิริยะภิญโญ ผู้บัญชาการประจำสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ น่าจะได้ขยับขึ้นตามบัญชีอาวุโส
ที่เหลือนอกจาก พล.ต.ท.จารุวัฒน์ ไวศยะ ผู้บัญชาการสำนักงานกฎหมายและคดี พล.ต.ท.ชินภัทร สารสิน ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ให้จับตา พล.ต.ท.ไกรบุญ ทรวดทรง ผู้บัญชาการสำนักงานยุทธศาสตร์ตำรวจ อาวุโสลำดับ 11 ที่จะเกษียณอายุราชการปี 2568
เก้าอี้ระดับ “ผู้บัญชาการ” ขับเคี่ยวกันสนุก หลังแม่ทัพหน่วยสำคัญพากันเกษียณอายุราชการเปิดทางให้นายตำรวจใกล้ชิด “ขั้วอำนาจ” ได้ตั๋วเข้าชิงชัย
ลุ้นเสียบตำแหน่งใหญ่ มีทั้ง พล.ต.ต.อาชวันต์ โชติกเสถียร รองผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด อาวุโสลำดับ 1 นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 36 รอนั่งบัญชาการหน่วยปราบยานรกก่อนเกษียณอายุราชการปี 2563 พล.ต.ต.ชวลิต แสวงพืชน์ รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 36 อาวุโสลำดับ 2 มองหาเก้าอี้ตัวเลขพื้นที่ภูธร พล.ต.ต.ภคพงศ์ พงษ์เภตรา รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 38 อาวุโสลำดับ 10 มีสิทธิหยิบเก้าอี้สำคัญเมืองหลวง เช่นเดียวกับ พล.ต.ต.อภิชาติ ศิริสิทธิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 36 และ พล.ต.ต.ภาณุรัตน์ หลักบุญ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 41
กลุ่มรอขยับปรับเก้าอี้พื้นที่ใหม่ อาทิ พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 38 พล.ต.ท.ธนา ชูวงศ์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 42 พล.ต.ท.สมชาย พัชรอินโต ผู้บัญชาการโรงเรียนนายร้อยตำรวจ นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 36
ทั้งนี้ทั้งนั้นอยู่ในกำมือของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีจะ “ตาดี” หยิบเลือกใช้ “ขุนทัพ”ให้ถูกกับหน้างานเพื่อวางรากฐานอำนาจได้แค่ไหน
