หลังจากเกิดเหตุการณ์ความไม่ปลอดขึ้นภายในบริเวณศาลต่าง ๆ ทั่วประเทศ ส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ในกระบวนการยุติธรรม
นายสราวุธ เบญจกุล เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม ได้มีหนังสือด่วนที่สุดถึงหัวหน้าหน่วยงานในสังกัดสำนักงานศาลยุติธรรม
ว่าด้วยเรื่อง มาตรการรักษาความปลอดภัยในบริเวณศาล
เนื้อหาสาระแบ่งเป็น เกี่ยวกับอาคารและสถานที่ ปรับปรุงห้องขังสองชั้นทั้งหมดและมีความแข็งแรงเพื่อป้องกันผู้ต้องขังหลบหนี อีกทั้งป้องกันมิให้มีการส่งสิ่งของต้องห้ามแก่ผู้ต้องขัง ขอให้ศาลพิจารณา จัดช่องทางพิเศษ สำหรับนำตัวผู้ต้องหาขังจากห้องขังของศาลมาสู่ห้องพิจารณาโดยไม่ผ่านประชาชนที่อยู่ในบริเวณศาล
หากศาลจะพิจารณาพิพากษาคดีสำคัญเมื่อใด ควรติดต่อประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่ เพื่อเพิ่มมาตรการในการรักษาความปลอดภัยในบริเวณศาลให้มากยิ่งขึ้นกว่าปกติ ใช้ดุลพินิจอนุญาตให้เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำศาลที่มีหน้าที่ควบคุมผู้ต้องขังพกอาวุธในบริเวณศาลได้
ใช้ดุลพินิจอนุญาตไว้ล่วงหน้าให้เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำศาลตรวจคนตัวบุคลได้ทันทีทันใด หากมีเหตุอันควรสงสัยว่า บุคคลที่อยู่ในศาลนั้นจะมีอาวุธติดตัวมา และอนุญาตให้จับกุมเช่นว่าแล้วนั้นไว้แล้วจึงรายงานให้ศาลทราบในภายหลัง
ให้ศาลติดประกาศเรื่อง การห้ามพกพาอาวุธหรือสิ่งของผิดกฎหมายเข้ามาในบริเวณศาลและให้บุคคลที่มาศาลประพฤติตนให้เรียบร้อยเพื่อเป็นการเตือนบุคคลที่อาจไม่ทราบข้อห้ามของศาล
หากผู้พิพากษาใดมีความรู้สึกว่า ไม่ปลอดภัยทั้งในขณะอยู่ที่ศาลหรือบ้านพัก ให้มีหนังสือลับแจ้งผู้พิพากษาผู้บริหารศาล ผู้อำนวยการสำนักอำนวยการประจำศาล หรือผู้อำนวยการสำนักงานประจำศาลเพื่อแจ้งเจ้าพนักงานตำรวจท้องที่จัดการระมัดระวังรักษาความปลอดภัยให้เป็นพิเศษ
ขอให้ศาลใช้ดุลพินิจตรวจสอบกรณีที่มีการอ้างผู้ต้องขังเป็นพยาน หรือกรณีจำเลยถูกคุมขังอยู่ให้ส่งประเด็นไปสืบพยานที่ศาลอื่นว่า พยานนั้น ๆ มีตัวตนหรือไม่ เพื่อป้องกันมิให้มีการกล่าวอ้างลอย ๆ เพื่อหาโอกาสให้ผู้ต้องขังที่ถูกต้องเป็นพยานหรือจำเลยหลบหนี
ส่วน เกี่ยวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำศาล หรือเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ต้องจัดเจ้าหน้าที่ให้มีจำนวนเพียงพอที่จะรักษาความปลอดภัยในบริเวณศาล คัดเลือกบุคคลที่มีสมรรถภาพ มีประสบการณ์ในงานตำรวจมากเพียงพอที่จะสามารถปฏิบัติหน้าที่ให้สำเร็จลุล่วงไปด้วยความเรียบร้อย
กำชับเจ้าหน้าที่เข้มงวดในการตรวจสอบความเรียบร้อยของเครื่องพันธนาการที่ใช้แก่ผู้ต้องขัง และกาตรวจค้นตัวผู้ต้องขัง รวมถึงตรวจตราดูแลความเรียบร้อยในห้องขังของศาลก่อนนำผู้ต้องหาขังเข้าไปควบคุมไว้ เข้มงวดตรวจสอบสิ่งของผู้ที่นำมามอบให้ผู้ต้องขังมากยิ่งขึ้น อีกทั้งสอดส่องดูแลบุคคลที่มาศาลป้องกันมิให้พกพาอาวุธ หรือสิ่งของผิดกฎหมายเข้ามาในบริเวณศาล
ขอเจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องที่ให้ความร่วมมือกับศาล หากได้รับคำร้องขอให้เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยแก่ผู้พิพากษา และในบริเวณศาล แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องที่ติดต่อประสานงานกับเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์เพื่อขอทราบประวัติและข่าวสารต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับผู้ต้องขังที่พฤติการณ์ไม่น่าไว้วางใจ
เกี่ยวกับ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบข้อบังคับ เชื่อฟังคำสั่งผู้บังคับบัญชาอย่างเคร่งครัด อยู่ปฏิบัติหน้าที่ในจุดหรือบริเวณภายในและภายนอกอาคารที่กำหนดจะละทิ้งหน้าที่ไปก่อนผู้เข้ารับเวรต่อเนื่องไม่ได้ เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากผู้บังคับบัญชา
ตื่นตัว รวดเร็ว พร้อมที่จะเผชิญเหตุการณ์ในทุกรูปแบบ เตรียมเครื่องมือ อุปกรณ์ที่จำเป็นต้องใช้ในการปฏิบัติงานที่ให้นำติดตัวไปและพร้อมใช้งานตลอดเวลา ดูแลรักษาเครื่องแบบ อุปกรณ์เครื่องมือให้อยู่ในสภาพดีเสมอ
ดูแล ป้องกัน รักษาทรัพย์สินของบุคลากร อาคาร สถานที่ของศาลยุติธรรม สำนักงานศาลยุติธรรมให้รอดพ้นจากการโจรกรรม อัคคีภัย และเหตุร้ายอื่น ๆ รวมทั้งดูแลรักษาความปลอดภัยของประชาชนที่เข้ามาติดต่อราชการในบริเวณศาลยุติธรรมและสำนักงานศาลยุติธรรม
ด้าน การเยี่ยมและของเยี่ยมสำหรับผู้ต้องขังขณะอยู่ที่ศาล ให้เรือนจำหรือทัณฑสถานงดเยี่ยม รับฝากสิ่งของจากญาติผู้ต้องขังทุกศาลที่เรือนจำรับผิดชอบอยู่ จัดทำประกาศแจ้งให้ญาติผู้ต้องขังทราบว่า หากมีความประสงค์จะเยี่ยม หรือฝากสิ่งของให้กับผู้ต้องขังขอให้ติดต่อผู้ต้องขังที่เรือนจำโดยตรง
จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบและถือปฏิบัติโดยเคร่งครัด
