สมรภูมิใต้ยังคงคุกรุ่นด้วยไฟอารมณ์ของคนคิดต่าง
ขณะที่ ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ กลายเป็นตำนาน “ย่อยสลายหายไปแล้ว” แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจทหารยังคงต้องเสียสละปฏิบัติหน้าที่ปกป้องรักษาแผ่นดินเกิดด้วยชีวิต
อย่าถามว่าความสงบจะจบลงเมื่อใด เพราะมันไม่ง่ายอย่าง “พ่นน้ำลาย”พ้นจากปาก
วันก่อน นายอรุณ ศรีใส นายอำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส เป็นประธานประชุมประจำเดือนกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ที่ห้องประชุมอำเภอระแงะ มีการพูดถึงหัวข้อ “กับดักความรุนแรง” โดย พ.อ.อิสรา จันทะกะยอม ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 45 กล่าวเนื้อความที่น่าสนใจและมีประโยชน์ไม่น้อย
พ.ต.อ.สุรพงษ์ ชาติสุทธิ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรระแงะ ขออนุญาตนำมาขยายความเผยแพร่ในโลกโซเชียล ยกเอาเหตุการณ์คนร้ายก่อเหตุกราดยิงใส่ตำรวจโรงพักระแงะเมื่อเช้าวันที่ 30 มีนาคม 2560 ทำให้มีตำรวจเสียชีวิต 1 นาย และบาดเจ็บหลายนาย รวมถึงตัวเขาด้วย
การติดตามสืบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน ทุกมิติสามารถพิสูจน์ทราบตัวบุคคล และมีพยานหลักฐานทั้งจากทางนิติวิทยาศาสตร์ ลายนิ้วมือแฝง ตลอดจนข้อมูลทางเทคนิค พยานบุคคลนำไปสู่การจับกุมผู้ร่วมก่อเหตุได้ทั้งหมดถึง 10 คน และออกหมายจับ ป.วิ อาญา คนร้ายที่หลบหนีอยู่ อีก 4 คน
ที่น่าสนใจ คือ ทุกคนล้วนทำหน้าที่ “ดูต้นทาง” ในเส้นทางที่คนร้ายมาก่อเหตุทั้งไป และกลับ บางคนเป็นคนขับรถที่ใช้ก่อเหตุมาส่งให้ทีมยิง
จากความพากเพียรทุ่มเทของทีมงานสืบสวน ตลอดจนความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่นำมาใช้ในการรวบรวมพยานหลักฐานสามารถมีพยานหลักฐานเพียงพอในการยืนยันการทำความผิดของผู้ต้องหาทุกคนในคดี แม้จะทำหน้าที่เพียง นำรถมาส่ง ดูต้นทาง หรือดูลาดเลาเจ้าหน้าที่
กฎหมายระบุชัดว่า “ต้องรับโทษเสมือนตัวการ” และถูกแจ้งข้อหา “ร่วมกัน” โดยการแบ่งหน้าที่กันทำ
ขณะที่ผู้สั่งการ “ไอ้โม่ง” ลอยนวล ส่วนคนก่อเหตุที่ลงมือลั่นไกยิงใส่ตำรวจหลบหนีหัวซุกหัวซุนตามป่าเขา
ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรระแงะจะชี้ให้เห็นว่า คดีที่ผ่านมา ศาลพิพากษาลงโทษจำคุก ผู้ที่มาร่วมทำความผิดในลักษณะนี้มาแล้วทุกคดี แต่ละคนรับโทษหลายปี คนดูต้นทางอยู่ในเรือนจำ แต่คนที่เดือดร้อน คือ ครอบครัว พ่อ แม่ ลูกเมีย
อย่างน้อย 10 ครอบครัวที่ต้องทรมานเดินทางไปเยี่ยม ไปส่งข้าว ส่งน้ำ บางครอบครัวขาดกำลังหลักไปเพราะการเข้าร่วมก่อเหตุโดยไม่ยั้งคิด เพียงความคึกคะนอง หลงคำชักชวนที่มีข้ออ้างต่าง ๆ
ดังนั้น การหยุดการก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่ สามารถทำได้ด้วยความร่วมมือของทุกภาคส่วน
ที่สำคัญ คือ ประชาชนต้องไม่ให้ความร่วมมือกับกลุ่มคนร้าย
ฝากเตือนเยาวชน และผู้ปกครอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำทางธรรมชาติต่าง ๆ ไปย้ำเตือน อย่าหลงเชื่อการชักจูงให้มาร่วมก่อเหตุ แม้แต่จะดูต้นทาง หากไม่อยากต้องเดือดร้อนจากการถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย
ระวังอย่าติดกับดักความรุนแรง !!!