นังสือในความทรงจำ “In Memories”
พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยชินดา และ ดร.บุษยา ชัยจินดา ทำแจกเป็นที่ระลึกเกษียณตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแหงชาติ และนายกสมาคมแม่บ้านตำรวจ ที่ครองหัวโขนมายาวนาน 5 ปีเต็ม ตั้งแต่ พุทธศักราช 2558-2563
“ในที่สุด วันเกษียณอายุราชการก็เดินทางมาถึงตามระบบของการรับราชการ” อดีตแม่ทัพสีกากีเปิดตัวไว้ในบทนำ
“ผมก็เป็นคนหนึ่งในนั้น ดังคำว่า งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา และไม่มีงานเลี้ยงใด ไม่มีวันเลิกรา ผมเตรียมตัวและปฏิบัติตัวอย่างเงียบ ๆ สันโดษมาเป็นเวลานานพอสมควรในการใช้ชีวิตที่เรียบง่ายในอาชีพตำรวจ ไม่เคยจัดงานวันเกิดของผมและภรรยา รวมถึงลูก ๆ ไม่เคยจัดงานปีใหม่ หรือวันสำคัญอื่น ๆ ทั้งที่บ้านหรือตามโรงแรม”
เขาให้เหตุผลเพราะกลัวหลังจากเกษียณอายุราชการไปแล้ว ถ้าจัดงานแล้วพรรคพวกเพื่อนฝูง แขกเหรื่อจะไม่มา หรือมาน้อยแล้วกว่าการจัดงานในขณะที่อยู่ในตำแหน่งหรือรับราชการอยู่
“ผมก็จะคิดมาก ทำใจไม่ได้ แต่จริง ๆ แล้วล้วนเป็นสัจธรรมทั้งนั้น”
ทุกท่านจงจำไว้เอาไว้จะเหลือเพียงความทรงจำ คือ “ตำแหน่ง” กับ “ตำนาน”
“ตำแหน่ง” คือ การทำงานและผลงานในตำแหน่งที่ได้รับการแต่งตั้ง
“ตำนาน” คือ ความทรงจำในผลงานต่าง ๆ ที่เราได้สร้างเอาไว้ตอนอยู่ในตำแหน่งเพื่อให้คนรุ่นหลังได้จดจำ
ตลอด 5 ปีตามนามเรียกขาน “พิทักษ์ 1” พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา บันทึกเรื่องราวอย่างละเอียดเสมือนแสดงความในใจไว้ใน “In Memories” บนเวทีนาฏกรรมชีวิต เมื่อก้าวขึ้นนั่งตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนที่ 11
“ผู้บังคับบัญชาต่อทำตัวเหมือนปุ๋ยอย่าทำตัวเป็นยาฆ่าแมลง” ปฐมวลีบทเริ่มต้นที่ผู้ใต้บังคับบัญชาหลายคนไม่เคยลืม
เจ้าตัวยอมรับว่า ปากกับใจตรงกัน เป็นคนตรงไม่มีอ้อมค้อม ถ้ากล้าขอ ก็กล้าให้ ใครไม่ดีก็ดุด่าว่ากล่าว จบแล้วก็เลิกกัน ไม่ติดใจ ไม่อาฆาตพยาบาท ไม่จดจำ ไม่ผูกใจเจ็บ
พิษมรสุมทางการเมืองมากมายตลอดชีวิตในเครื่องแบบสีกากีเป็นบทเรียนทำให้เขาแข็งแกร่ง
“ผมไม่เคยร้องเรียน ฟ้องร้อง หรือท้อแท้ และไม่เคยปริปากบ่น แต่กลับตั้งใจทำงานในตำแหน่งที่รับการแต่งตั้ง”
การทำงานตลอดระยะเวลา 5 ปี พล.ต.อ.จักรทิพย์บอกว่า ภาคภูมิใจที่ได้มีโอกาสช่วยเหลือบำบัดทุกข์บำรุงสุข แก้ไขปัญหาความเดือดร้อนต่าง ๆ ให้กับพี่น้องประชาชน ทำให้ประชาชนมีความเชื่อมั่นในองค์กรตำรวจมากขึ้น
ขณะเดียวกัน ยังภาคภูมิใจที่ได้ทำงานกับพี่ ๆ เพื่อน ๆ น้อง ๆ ในคดีสำคัญต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นแล้ว ทำให้คดีนั้นประสบความสำเร็จ สามารถคลี่คลายคดีสืบสวนติดตามจับกุมคนร้าย นำตัวเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ดำเนินคดีตามกฎหมายได้
“เพราะทุกคน ผมไม่สามารถทำคนเดียวได้ แต่เป็นความสำเร็จร่วมกันของทีมงานทุกคน” อดีตผู้นำปทุมวันว่า
ผลงานสร้างชื่อใน “In Memories” ของเขาจากตำแหน่ง รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล สู่ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
มีตั้งแต่รับคำชื่นชมเป็นสุภาพบุรุษแก๊สน้ำตากับกลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2551 ตามด้วยระดมทีมปิดคดีพม่าฆ่าข่มขืนแหม่ม เกาะเต่า จังหวัดสุราษฎร์ธานี เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2557 นำทีมรวบ 2 อุยกูร์วางบึมศาลพระพรหมเอราวัณ แยกราชประสงค์ ระหว่างวันที่ 17-18 สิงหาคม 2558
นำทีมนักสืบไขคดีวางระเบิดโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2560 บินด่วนปิดคดีฆ่ายกครัว 8 ศพจังหวัดกระบี่ เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2560
ระดมค้นหาและช่วยเหลือ 13 หมูป่าติดถ้ำหลวงขุนน้ำ-นางนอน จังหวัดเชียงราย เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2561
อำนวยการลูกทีมวิสามัญฆาตกรรมแก๊งคนร้ายปล้นรถขนเงินในย่านเพชรเกษม เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2562 ก่อนสืบสวนขยายผลออกหมายจับ 21 ผู้ก่อความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ขึ้นมาป่วนกรุงเมื่อวันที่ 1-2 สิงหาคม 2562
คุมนักสืบคลี่คลายคดีโจรปล้นฆ่าชิงทองกลางเมืองลพบุรี เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2563
อีกทั้งรับผิดชอบแผนปฏิบัติการสยบจ่าทหารคลั่งกราดยิงผู้คนที่จังหวัดนครราชสีมา เมื่อวันที่ 8-9 กุมภาพันธ์ 2563
ชีวิตหลังเกษียณอายุราชการ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ตั้งใจอยากจะบวชสักระยะ หลังจากนั้นคงใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัวเดินทางท่องเที่ยวกับภรรยาและลูก ๆ
เพราะฉะนั้น ถึงไม่แปลกเท่าไหร่ที่เห็นเขาเดินเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์อุปสมบทที่วัดหงส์รัตนารามราชวรวิหาร แขวงอรุณราชวราราม เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร สวมผ้าเหลืองทันทีที่วางหัวโขนถอดเครื่องแบบสีกากีตามที่ได้ตั้งใจไว้
ครองฉายา ” จินตชโย”
ผู้ชนะจิตใจยิ่งใหญ่
