แฟ้มการสืบสวนสอบสวนคลายปมปริศนาการตายของ “น้องชมพู่” อาจเปิดแล้ว
แต่เป็นการ “เริ่มเปิดเกม” ในกระบวนการยุติธรรมขั้นตอนต่อไปที่สังคมเริ่มจับตา
“ตำรวจทำงานตามพยานหลักฐานชัดเจน ไม่ใช่ทำตามกระแสข่าว” พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติยืนยันมาตลอด
“เราทำงาน ไม่ได้ทำเพื่อจะจับใคร เราทำเพื่อหวังผลในการดำเนินคดีในชั้นศาล การสืบสวนไม่ได้มองว่า แพ้หรือชนะในคดี เราจะระมัดระวังเรื่องพวกนี้มาก เพราะหากตำรวจแพ้มักถูกบอกว่า จับแพะ ต้องดูทุกอย่างประกอบกัน ต้องดูทั้งเหตุและผล” เจ้าตัวว่า
ไม่ได้ทำอะไรนอกอำนาจหน้าที่ ตำรวจทำตามกฎหมาย หวังพิสูจน์ความจริง
ทุกอย่างต้องฟังด้วยวิจารณญาณอย่าด่วนสรุป
ตลอดขวบปีในการแกะรอยมีเรื่องราวมากมายเข้ามาอยู่ในประสบการณ์นักสืบของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข และคณะทำงาน “ดรีมทีม”
กว่าจะปะติดปะต่อ “จิ๊กซอว์” พาไปสู่การรวบรวมพยานหลักฐานเสนอศาลจังหวัดมุกดาหารขอหมายจับ นายไชย์พล วิภา หรือ “ลุงพล” ลุงเขยของเหยื่อเด็กน้อยไร้เดียงสาแห่งบ้านกกกอก ตำบลกกตูม อำเภอดงหลวง จังหวัดมุกดาหาร
คืนความยุติธรรมให้ “ครอบครัวเหยื่อ” ที่รอคอยมานานเป็นปี
อาจขัดหู ขัดตา และขัดใจบรรดา “แฟนคลับ”
ตำรวจพร้อมรับกระแสวิพากษ์วิจารณ์จากผลงานที่พวกเขาพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อไขกุญแจคลายปมการตายของ “น้องชมพู่” ให้กระจ่างสู่สังคม
จะมีสักกี่คนกี่กลุ่มออกมาเห็นใจ “ครอบครัวเหยื่อ” ที่ต้องทนทุกข์ทรมานจากการสูญเสีย
นางสาวิตรี วงศ์ศรีชา แม่ของ “น้องชมพู่” เหมือนโดดเดี่ยวเดียวดาย
พ.ต.ท.ธนกาญจน์ พระสุมาตย์ สารวัตร (สอบสวน) สถานีตำรวจภูธรกกตูม จังหวัดมุกดาหาร เป็นผู้ยื่นคำร้องขอฝากขัง นายไชย์พล วิภา ต่อศาลจังหวัดมุกดาหาร
ระบุเมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2564 เวลา 16.33 น. พนักงานสอบสวนรับตัวผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดมุกดาหารที่ จ.53/2564 กล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน “พรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ไปเสียจากบิดามารดา โดยปราศจากเหตุอันควร, ทอดทิ้งเด็กอายุไม่เกิน 9 ปี เพื่อให้เด็กนั้นพ้นไปเสียจากตน โดยประการที่ทำให้เด็กนั้นปราศจากผู้ดูแล เป็นเหตุให้เด็กถึงแก่ความตาย และกระทำการใดๆแก่ศพหรือสภาพแวดล้อมในบริเวณที่พบศพ ก่อนการชันสูตรพลิกศพเสร็จสิ้น ในประการที่น่าจะทำให้การชันสูตรพลิกศพ หรือผลทางคดีเปลี่ยนแปลงไป”
บรรยายพฤติการณ์ละเอียดยิบ
เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2563 ช่วงเวลา 09.00-09.48 น. ผู้ต้องหาได้พา “น้องชมพู่” อายุ 3 ปี 2 เดือน ลูกสาวของ นางสาวิตรี วงศ์ศรีชา มารดา และนายอนามัย วงศ์ศรีชา บิดา ไปขณะเล่นอยู่บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 73 หมู่ 2 ตำบลกกตูม อำเภอดงหลวง จังหวัดมุกดาหาร ของผู้ต้องหา ติดกับบ้านเลขที่ 77 หมู่ 2 ตำบลกกตูม โดยปราศจากเหตุอันควร
จากนั้นได้นำ “น้องชมพู่” ไปซุกซ่อน และทอดทิ้งไว้บริเวณป่าทางทิศเหนือของหมู่บ้านกกกอก ทางขึ้นเขาภูเหล็กไฟเพียงลำพังปราศจากผู้ดูแลแล้วไปทำธุระรับส่งพระ
หลังเกิดเหตุชาวบ้านช่วยกันออกติดตามหาตัว “น้องชมพู่” แต่ไม่พบตัว
ภายหลังเมื่อผู้ต้องหาเสร็จธุระส่งพระ ย้อนกลับมานำตัว “น้องชมพู่” ที่ยังไม่เสียชีวิต และพยายามเดินทางกลับบ้าน ไปซุกซ่อนและปล่อยทอดทิ้งไว้บนเขาภูเหล็กไฟเพียงลำพังอีกครั้ง
ให้พ้นไปเสียจากตนโดยปราศจากผู้ดูแล
เป็นเหตุให้ “น้องชมพู่” ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ เพราะเป็นเด็กมีอายุเพียง 3 ปี 2 เดือน ไม่สามารถออกจากบริเวณเขาภูเหล็กไฟได้จนกระทั่งหมดแรงและเสียชีวิตบนเขาภูเหล็กไฟในเวลาต่อมา
จากนั้นผู้ต้องหาได้เข้าไปกระทำการแก่ศพของ “น้องชมพู่” และสภาพแวดล้อมในบริเวณที่พบศพ โดยถอดเสื้อผ้า จัดท่าทางของศพ
เพื่อให้เข้าใจว่า มีการประทุษร้ายทางเพศต่อ “น้องชมพู่”
ใช้ของแข็งมีคมตัด สับ ฟัน ไปที่เส้นผมของ “น้องชมพู่” เพื่อนำไปประกอบพิธีกรรมตามความเชื่อทางไสยศาสตร์ อันเป็นการกระทำการแก่ศพ และสภาพแวดล้อมบริเวณที่พบศพ ก่อนการชันสูตรพลิกศพเสร็จสิ้น ในประการที่น่าจะทำให้การชันสูตรพลิกศพ หรือผลทางคดีเปลี่ยนแปลงไป
ต่อมาได้พบศพ “น้องชมพู่” นอนเสียชีวิตอยู่บนเขาภูเหล็กไฟชั้นที่ 6 อยู่ทางทิศเหนือของหมู่บ้านกกกอกไปประมาณ 1.3 กิโลเมตร ในวันที่ 14 พฤษภาคม 2563 เวลาประมาณ 19.00 น.
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมตัวผู้ต้องหาตามหมายจับนำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี ในชั้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
การกระทำของผู้ต้องหาเป็นความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 306, มาตรา 308 และมาตรา 317 และประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 150 ทวิ มีอายุความดำเนินคดี 15 ปี
ท้ายคำร้องฝากขัง พนักงานสอบสวนขอคัดค้านการประกันตัวผู้ต้องหา เนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูง หากปล่อยตัวไปเกรงผู้ต้องหาจะหลบหนีและไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน หรือก่อเหตุร้ายประการอื่น
ศาลได้พิเคราะห์คำร้องขอให้ปล่อยชั่วคราวระหว่างสอบสวน เห็นควรอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาระหว่างสอบสวน ใช้เงินสด 180,000 บาท เป็นหลักประกัน
กำหนดเงื่อนไขห้ามผู้ต้องหาหลบหนี ข่มขู่พยาน ยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน ก่อเหตุอันตรายประการอื่น ห้ามผู้ต้องหาเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากศาล แจ้งสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และแต่งตั้งให้ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 บ้านกกกอก ตำบลกกตูม อำเภอดงหลวง จังหวัดมุกดาหาร เป็นผู้กำกับดูแล
หากผู้ต้องหาผิดข้อกำหนดเงื่อนไขศาลจะพิจารณาสั่งเพิกถอนการปล่อยชั่วคราวหรือมีคำสั่งตามที่เห็นสมควร
นางสาวิตรี วงศ์ศรีชา แม่ของ “น้องชมพู่” ลงจากศาลด้วยสีหน้าเรียบเฉยน้อมรับการพิจารณาของศาลทุกประการ
น้ำตาของเธอเหือดแห้งไปนานแล้ว แต่ยังคงไหลอาบท่วมอยู่ในหัวใจ
เป็นแค่จุดเริ่มต้นบนกระดานของกระบวนการยุติธรรม
