พักชำระหนี้สหกรณ์

 

สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติเผยแพร่บัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของผู้ดำรงตำแหน่งระดับสูง

มีฮือฮากับบัญชี พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กรณีดำรงตำแหน่งครบ 3 ปี ระหว่างเป็นผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 3 ถึงปัจจุบัน

แถมเป็นสมาชิกวุฒิสภาโดยตำแหน่ง

แม่ทัพสีกากีแจ้งมีทรัพย์สิน 52,917,974 บาท ได้แก่ เงินสด 3.5 แสนบาท เงินฝาก 14,283,811 บาท เงินลงทุน 12,019,762 บาท ที่ดิน 10,535,600 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 7,596,000 บาท ยานพาหนะ 3.2 ล้านบาท (โตโยต้า แอสติมา ได้มาปี 2553 มูลค่า 2 แสนบาท บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 7 ได้มาปี 2560 มูลค่า 3 ล้านบาท) ทรัพย์สินอื่น (ราคาตั้งแต่สองแสนบาทขึ้นไป) 4,932,800 บาท

ไม่มีหนี้สิน

รายได้รวมต่อปี ประมาณ 2,082,444 บาท แบ่งเป็น เงินเดือน เงินประจำตำแหน่ง ค่าตอบแทน 1,466,154 บาท เงินเดือน/เบี้ยประชุม กรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล 573,790 บาท เงินปันผล 42,500 บาท มีรายจ่ายรวม 2,003,000 บาท เป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัว 1.5 ล้านบาท ค่าอุปการะมารดา 3.6 แสนบาท เงินบริจาคทำบุญ 143,000 บาท

เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในรอบปีภาษีที่ผ่านมา 2,082,444 บาท

ตัวเขายังไม่ขอรับเงินเดือนในตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภาแต่อย่างใด

เมื่อรวมทรัพย์สินของ น.ส.รัตนาภรณ์ สีวลีพันธ์ นายกสมาคมแม่บ้านตำรวจ ที่อยู่กินกันฉันสามีภริยา ไม่ได้จดทะเบียน จะมีทรัพย์สินทั้งสิ้น 104,166,808 บาท  

อย่างไรก็ตาม ความเป็น “ผู้นำ” และเต็มไปด้วยอำนาจ ไม่อาจทำให้เขานิ่งดูดาย ลอยชาย เสวยสุขสบายอยู่บน “บัลลังก์สูงสุด”ของกองทัพปทุมวัน

แม้ไม่มีหนี้สินติดตัว แต่เหมือนเป็น “หนี้ชีวิต” ของลูกน้องกว่า 2 แสนนายที่ต้องดูแลเอาใจใส่ บำรุงขวัญกำลังใจตอนแทนการปฏิบัติหน้าที่ทุ่มเทเพื่อองค์กรผู้พิทักษ์สันติราษฎร์

ไม่ต้องทำเพื่อตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

ห้วงวิกฤติการแพร่ระบาดบนสมรภูมิ “สงครามไวรัส” ตำรวจหลายคนตลอดจนครอบครัวย่อมได้รับผลกระทบภาระค่าใช้จ่ายแบบชักหน้าไม่ถึงหลัง

พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ได้ทำหนังสือไปถึง ประธานสหกรณ์ออมทรัพย์ หน่วยงานในสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอความร่วมมือการให้ความช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อน และแบ่งเบาภาระทางด้านการเงินให้แก่ข้าราชการตำรวจที่เป็นสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์

พิจารณากำหนดมาตรการในการให้ความช่วยเหลือข้าราชการตำรวจที่เป็นสมาชิกสหกรณ์ไม่น้อยกว่า 3 เดือน

ตามสภาพคล่องทางการเงินของแต่ละสหกรณ์ ตามกรอบแนวทางดังนี้

1.จัดทำโครงการพักชำระหนี้เงินต้นให้กับสมาชิกของสหกรณ์ ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019

2.ปรับลดอัตราการถือหุ้นรายเดือนของสมาชิกหรือกำหนดอัตราให้สมาชิก “หยุดถือหุ้นรายเดือน” ได้เป็นการชั่วคราวแล้วแต่กรณีจนกว่าจะเข้าสู่สถานการณ์ปกติ

3.จัดทำโครงการการปล่อยเงินกู้ระยะสั้น “อัตราดอกเบี้ยต่ำ” เป็นค่าใช้จ่ายในครอบครัวของสมาชิก

4.ผ่อนผันให้สมาชิก “งดส่งค่าหุ้น” เป็นการชั่วคราว

5.ลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ให้กับสมาชิกที่มีหนี้เงินกู้กับสหกรณ์

6.ปรับโครงสร้างหนี้ช่วยเหลือสมาชิก

7.จัดหาอุปกรณ์หรือเครื่องอุปโภคบริโภคต่าง ๆ ที่จำเป็น ช่วยเหลือข้าราชการตำรวจ และ ครอบครัวที่เป็นสมาชิก

หากสหกรณ์ออมทรัพย์ใด พิจารณาตามสภาพคล่องทางการเงินแล้วสามารถปฏิบัติตามกรอบแนวทางได้ ขอให้เร่งประชาสัมพันธ์ให้สมาชิกรับทราบเพื่อเข้ารับบริการจากสหกรณ์ต่อไป

ถือเป็นอีกส่วนของขวัญกำลังใจจาก “ผู้เป็นนาย” ถึง “ผู้ใต้บังคับบัญชา”

RELATED ARTICLES