ที่กองบังคับการปราบปราม พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พ.ต.อ.มนตรี เทศขัน รองผู้บังคับการปราบปราม พร้อมด้วย พ.ต.อ.วิวัฒน์ จิตโสภากุล ผู้กำกับการ 3 กองบังคับการปราบปราม และเจ้าหน้าที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยี แถลงผลปฏิบัติการล่า “คริส” (The Scammer) จอมโจรโคตรปลอมยุค 4G ตรวจค้นเป้าหมาย 5 จุด ในพื้นที่อำเภอหนองแค จังหวัดสระบุรี จับกุม น.ส.สุนันทินี สาเกทอง อายุ 33 ปี และน.ส.รัชนี สกุลเอื้อ อายุ 63 ปี ที่บ้านเลขที่ 89/83 หมู่บ้านศศิธร 22 หมู่ 11 ตำบลหนองไข่น้ำ อำเภอหนองแค จังหวัดสระบุรี ข้อหาร่วมกันฉ้อโกง โดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น พร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง แท็บเล็ต 1 เครื่อง อมพิวเตอร์ 1 เครื่อง สมุดบัญชี 1 เล่ม บัตรเอทีเอ็ม 1 ใบ และเอกสารที่น่าเชื่อว่าเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด
สืบเนื่องจากมีครอบครัวผู้เสียหายเข้ามาร้องขอความเป็นธรรม หลังถูกกลุ่มมิจฉาชีพหลอกลวงเอาเงินด้วยการสร้างเรื่องราวอันเป็นเท็จ ใช้ความเชี่ยวชาญทางด้านเทคโนโลยี และโซเชียลมีเดีย ตัดต่อข้อความ ไฟล์เสียง แอบอ้างเป็นบุคคลใกล้ชิดข้าราชการในหน่วยงานรัฐ หน่วยงานเอกชน ปลอมแปลงเอกสารราชการ เอกสารสำคัญ ปลอมแปลงภาพ ข้อความ และ ข้อความเสียง เพื่อความสมจริง และสร้างความน่าเชื่อถือจนทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อ มอบทรัพย์สินให้คนร้ายหลายครั้ง รวมจำนวนทั้งสิ้นกว่า 2,690,000 บาท
หลังรับเรื่องตำรวจกองปราบปรามนำกำลังลงพื้นที่สืบสวน ตามรอยจากเฟซบุ๊กชื่อว่า Chrysilla Celandina Celia นำภาพดารานางแบบชาวต่างชาติหน้าตาดีมาแอบอ้างตั้งเป็นรูปโปรไฟล์ สร้างเรื่องราวว่า มีฐานะร่ำรวย อาศัยอยู่ต่างประเทศ อ้างเป็นหลานผู้พิพากษา หรือไม่เป็นหลานของนักธุรกิจยานยนต์ย่านสาทร มีความสนิทสนมกับข้าราชการตำรวจระดับผู้บัญชาการ รวมทั้งยังเป็นเพื่อนกับพนักงานอัยการ รู้จักกับทนายความชื่อดัง มีผู้ติดตามตัวในโซเชี่ยลมีเดียกว่า 20,000 คน หาเหยื่อผ่านแอปพลิเคชั่นหาคู่ออนไลน์ เลือกเหยื่อจากครอบครัวที่ค่อนข้างมีฐานะจนพบลูกชายครอบครัวผู้เสียหายเมื่อปลายปี 2562 แชตพูดคุยกันจนสนิทสนมรู้จักทุกคนในครอบครัว ก่อนจะวางแผน ยุยง ปลุกปั่น สร้างเรื่องราว ปลอมแปลงแชต ตัดต่อคลิปเสียง ลวงคนในครอบครัวผู้เสียหายให้เกิดความบาดหมาง หวาดระแวงกันเองในครอบครัว อาทิ หลอกพ่อเหยื่อนำรถไปจำนำตลาดมืดจรต้องยอมจ่ายค่าไถ่รถคืน และสร้างเรื่องระบุพ่อติดหนี้พนันหลอกเอาเงินเพิ่มเติมอีก อีกทั้งปลอมเอกสารเอกสารราชการของศาลและอัยการ ทำทีว่าได้มีการฟ้องร้องผู้เสียหายต่อศาลแพ่ง ปลอมแปลงหมายเรียกและหมายจับของศาลขึ้นทั้งฉบับ ตัดต่อคลิปเสียง อ้างว่ามีเจ้าหน้าที่เข้าไปติดตามจับกุมผู้เสียหายที่บริเวณหน้าบ้านพัก ต้มจนครอบครัวเหยื่อแทบสิ้นเนื้อประดาตัว
พฤติการณ์เหล่านี้ถือเป็นภัยต่อสังคมและเศรษฐกิจ เพื่อป้องกันมิให้ประชาชนคนอื่นๆตกเป็นเหยื่อกลุ่มมิจฉาชีพกลุ่มนี้อีก พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง มอบหมายให้ พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผู้บังคับการปราบปราม ประสานร่วมกับกองบังคับการปราบปรามกระทำผิดอาชญากรรมทางเทคโนยี และสถานีตำรวจนครบาลภาษีเจริญ รวบพยานหลักฐานนายร่วม 2 เดือนสาวไปถึงผู้กระทำความผิด สอบปากคำยังให้การภาคเสธ อย่างไรก็ตาม จากการขยายผลตรวจสอบพยานหลักฐานที่ยึดได้พบว่าผู้ต้องหาทั้งคู่เป็นแม่ลูกกันมีการตัดต่อรูปภาพของผู้บังคับบัญชาระดับสูงของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานอัยการ และหน่วยงานราชการอื่นๆ ไว้ด้วยกันหลายภาพ จำนวนนั้นมีรูปภาพของ พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลางรวมอยู่ด้วย
