ต้องรอเวลาผ่านไปขวบปี
พล.ต.ต.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 42 ถึงทำคะแนนสอบผ่านการแสดงวิสัยทัศน์ต่อสภาการศึกษาโรงเรียนนายร้อยตำรวจเพื่อดำรงตำแหน่ง “ผู้บัญชาการโรงเรียนนายร้อยตำรวจคนใหม่”
หลังจากปีที่แล้วพลาดเก้าอี้ให้ พล.ต.ท.นิรันดร เหลื่อมศรี จเรตำรวจ นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 43 ปาดหน้าคว้าตำแหน่ง “ครูใหญ่ในรั้วสามพราน” ไปแบบเฉียดฉิว
เที่ยวนี้เขาเสนอตัวเข้าประชันบนเวทีอีกครั้ง มีผู้สมัครคัดเลือกแข่งอีก 2 คน คือ พล.ต.ต.วีระพล กุลบุตร รองผู้บัญชาการโรงเรียนนายร้อยตำรวจ นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 38 และพล.ต.ต.วรายุทธ สุขวัฒน์ รองผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 38 เช่นกัน
ทันทีที่ พล.ต.ท.นิรันดร เหลื่อมศรี จ่อขยับจะขึ้นเป็นผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แต่ “ขาลอย” ต้องโยกไปนั่งผู้บัญชาการศึกษา เปิดตำแหน่ง “ครูใหญ่” ให้ต้องมีการแสดงวิสัยทัศน์คัดเลือกผู้เหมาะสมเมื่อต้นเดือนสิงหาคม 2564
“ด็อกเตอร์หวาน” พล.ต.ต.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร เอาชนะใจกรรมการ ผ่านเกณฑ์ทำคะแนนสูงสุดไปนั่งเก้าอี้ “ครูใหญ่คนใหม่” แทน
รับบทผู้นำเบ้าหลอมนักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่นต่อไปให้ออกไปเก็บกวาด “ขยะสังคม” ด้วยอุดมการณ์และจิตวิญญาณความเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ที่กำลังระส่ำระสายกลายเป็น “ภาพติดลบ” จากสายตาประชาชนทั่วไป
มองตำรวจเป็นยักษ์เป็นมาร เป็นอันธพาลและโจรในเครื่องแบบ
นายตำรวจหนุ่มศิษย์เก่าโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย ลูกชาย พล.ต.ท.ธรรมนิตย์ ปิตะนีละบุตร นายพลตำรวจมือปราบที่เพิ่งล่วงลับ พกดีกรี “รองศาสตราจารย์” จบปริญญาเอกด้านกฎหมายจากประเทศสหรัฐอเมริกา
หลังสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนนายร้อยตำรวจ เลือกลงเป็นรองสารวัตรสืบสวน สถานีตำรวจภูธรอำเภอเมืองฉะเชิงเทรา แล้วถึงบินไปศึกษาต่อปริญญาโทที่สหรัฐอเมริกายาวจนได้ปริญญาเอก ก่อนกลับมาเป็นอาจารย์สอนโรงเรียนนายร้อยตำรวจนานกว่า 15 ปี
ติดยศนายพลตำแหน่งผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมือง 6 เป็นผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครนายกแล้วขึ้นเป็นรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2
เจ้าตัวเคยทำคะแนน TOEIC (Test of English for International Communication) เป็นแบบทดสอบสำหรับวัดระดับความรู้ทักษะการใช้ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวันสูงสุดลำดับ 1 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อสมัยสังกัดสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง
รับรางวัล “เกียรติยศจักรดาว” ของโรงเรียนเตรียมทหารประจำปี 2560 สาขาพัฒนาสังคม
วาดหวังอยากกลับไปรับใช้สถาบันเก่า
ถือว่าเหมาะสมนั่ง “เก้าอี้ครูใหญ่” ไปสร้างเบ้าหลอมนักเรียนนายร้อยตำรวจในรั้วสามพราน
วางรากฐานทางความคิดตลอดจนค่านิยมที่ต้องเปลี่ยนแปลงตามโลกปัจจุบัน
ที่สำคัญต้องไม่ใช่อยู่แค่ปีเดียวแล้ว จากลา เหมือนกติกาก่อนหน้าบังคับ “กฎเหล็ก” ต้องเป็นผู้บัญชาการโรงเรียนนายร้อยตำรวจอย่างน้อย 3 ปีถึงขยับได้
เพื่อความต่อเนื่องในหลักสูตรของสถาบันอันทรงเกียรติ
