ไม่รู้ป่านนี้มีทัวร์ลง พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน มากน้อยแค่ไหน
บทความแสดงความเห็นเกี่ยวกับคดี ผู้กำกับโจ้-พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล อดีตผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองนครสวรรค์ ของตำนานมือสอบสวนนครบาล ดุเด็ดเผ็ดร้อน สะท้อนความจริง
ในฐานะกรรมการปฏิรูปประเทศ ด้านกระบวนการยุติธรรม ระบายความรู้สึกอึดอันยาวเหยียดฝากไปถึงอดีตนายตำรวจคนหนึ่งที่ไปร่วมสังฆกรรมยำองค์กรเก่าผ่านรายการข่าวช่องหนึ่ง
สรุปความจากประเด็นสำคัญพอสังเขป
พล.ต.ท.อำนวยมองพิธีกรและผู้ร่วมรายการแสดงความรู้ทางกฎหมาย การสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานแบบ “ทะลุฟ้าทะลุดิน” ราวกับอาจารย์คณะนิติศาสตร์สอนระดับปริญญาเอก
เขียนนิยายเป็นฉาก
ไม่มีอะไรจะต่อว่า จะกล่าวหา จะให้ร้ายแล้ว หมดมุกก็ยังอุตส่าห์กล่าวหาผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติว่า ทำไมขณะแถลงข่าวไม่ถือโทรศัพท์เอง (ร.ต.ท.หญิง ภัทรศยา ฤกษ์รัตน์ ถือโทรศัพท์เพื่อให้เสียงเข้าไมค์) ไม่ใช่โดยเฉพาะคำพูด สีหน้า ท่าทาง น้ำเสียงของพิธีกรมันบ่งบอก
ตอกย้ำ ซ้ำเติม
“ส่วนอดีตนายตำรวจคนนี้ ถ้ากระผมไม่รู้จักมาก่อนจะไม่เชื่อเลยว่าเป็น อดีตตำรวจ เพราะออกมาพูดทุกครั้งไม่เคยเลยที่จะพูดถึงตำรวจในแง่ดี สร้างสรรค์… ติเพื่อก่อ… เอาเถอะถึงจะพูดแต่แง่ลบก็ขอให้พูดความจริงก็ยังพอรับได้”
ไม่ใช่ทำตัวเป็นคนขายน้ำแข็งหลอด
พล.ต.ท.อำนวยคงหมายความถึงคำว่า “ปั้นน้ำเป็นตัว”
เขาเลยไม่แน่ใจว่านายตำรวจคนนั้นกินบำนาญตำรวจอยู่หรือไม่ ?
ช่วยย้ำเตือนตามประสานักกฎหมายว่า คดีนี้ไม่ต้องเป็นกังวล ไม่ต้องสร้างประเด็น ไม่ต้องชี้นำ ไม่ต้องมาตั้งข้อรังเกียจ ตั้งข้อสงสัย จีบปากจีบคอ แสดงอาการ น้ำเสียง ท่าทางใดๆ ให้เกิดข้อสงสัยขึ้นในสังคมอีกเลย
ติดตามจับกุมผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีได้ครบถ้วนยังถูกกล่าวหาว่า จัดฉาก สร้างนิยาย เล่านิทาน พล็อตเรื่องขึ้นมา การแถลงข่าวก็เป็นลักษณะของการปกป้อง ไม่เปิดโอกาสให้สอบถามผู้ต้องหาได้อย่างเต็มที่ ให้โอกาสผู้ต้องหาแก้ตัว
อะไรต่อมิอะไรจิปาถะ
ในฐานะคณะกรรมการปฏิรูปประเทศ ด้านกระบวนการยุติธรรม พล.ต.ท.อำนวยขอขอบคุณ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นายตำรวจรุ่นน้องที่ได้ดำเนินการแถลงข่าวให้เป็นไปตามแผนการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม
ยึดหลักห้ามจัดให้มีการนำผู้ต้องหามาแถลงข่าว เพราะจะเป็นการประจานผู้ต้องหา ตามหลักกฎหมายสากล “ผู้ต้องหาทุกคนยังต้องถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ จนกว่าจะมีคำพิพากษาถึงที่สุดว่าเขาเป็นผู้กระทำผิด ดังนั้นจะปฏิบัติกับเขาเยี่ยงผู้กระทำผิดมิได้”
เป็นหนึ่งในแผนการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม
ข้อยกเว้นที่จะให้มีการแถลงข่าวได้นั้นจะต้องเป็นกรณีที่ “มีความจำเป็น เพื่อประโยชน์สาธารณะ” อย่าให้มีลักษณะของการประจานผู้ต้องหา
เช่น คนร้ายวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งลักทรัพย์บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป 2 ห่อ แล้วจับมานั่งแถลงข่าวให้เสียชื่อเสียงแก่ตัวผู้ถูกจับและวงศ์สกุล
ส่วนการที่ร้อยตำรวจโทหญิงนั่งถือโทรศัพท์แทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติจนเป็นประเด็น ทั้ง ๆ ที่ไม่ควรเป็นประเด็นนั้น(น่าจะหาประเด็นอื่นไม่ได้แล้ว)
พล.ต.ท.อำนวยบอกให้ทราบว่า ร้อยตำรวจโทหญิงคนดังกล่าวเป็นทีมงานประชาสัมพันธ์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีหน้าที่โดยตรงในการจัดแถลงข่าวในครั้งนี้ การถือโทรศัพท์เพื่อให้เสียงในการแถลงข่าวออกไปสู่สาธารณะเป็นการปฏิบัติการตามหน้าที่ทีมงานโฆษก
ถ้าผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติไปทำเองเท่ากับผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติไปแย่งงานในหน้าที่ของเด็กในทีมงานโฆษกทำไม่ใช่หรือ
“หรือเป็นเพราะหลังการแถลงข่าวแล้วร้อยตำรวจโทหญิงคนนั้นเกิดโด่งดังขึ้นมาในโลกโซเชียล เลยไปอิจฉาเขาหรือไง โชว์แค่ครึ่งใบหน้าเท่านั้นเอง บอกให้ก็ได้ชื่อหมวดไวกิ้ง ร้องเพลงเพราะ ยิงปืนแม่น” อดีตผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ขยายความแทน
อีกหลายประเด็นที่เจ้าตัวออกมาแสดงทัศนะช่วยแก้ต่างให้สำนักงานเก่า
ด้วยเหตุผลสำนักงานตำรวจแห่งชาติมีหน้าที่หลักในการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม/อำนวยความยุติธรรมในทางอาญา ถือเป็น “ต้นทางแห่งความยุติธรรม” นับได้ว่าเป็นองค์กรที่มีความสำคัญของบ้านของเมืองนี้
ขอทุกคนที่จะต้องช่วยกันจรรโลงไว้ให้มีความมั่นคง น่าเชื่อถือศรัทธา หาใช่มาคอยเหยียบย่ำ ซ้ำเติม สาดสี ตีไข่ ใส่ความให้เสื่อมเสีย
สร้างความไม่น่าเชื่อถือ ไม่น่าศรัทธา
ท้ายสุดยังฝากเรียนอดีตนายตำรวจบุคคลที่กล่าวถึงข้างต้น และอีกคนหนึ่งข่าวว่าเป็น “นายดาบ”ตำรวจอยู่ทางภาคใต้ลาออกไปเล่นการเมืองท้องถิ่นที่ออกมาให้สัมภาษณ์ ออกมาให้ข่าวว่าวิธีการเอาถุงครอบศีรษะเขาทำกันมา 30 ปีแล้ว
“ไอ้คำว่าเขา มันคือคุณคนเดียวไม่เกี่ยวกับคนอื่นนะ ผมก็ไม่เคยทำอย่ามั่ว…”
ขอให้พูดความจริงบ้าง ไม่ขอให้พูดชม แต่อย่าพูดเท็จเท่านั้นพอ
ตำนานนายพลมือสอบสวนทราบดีกว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ท่านผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ทีมงานโฆษกตำรวจ ชุดสืบสวนสอบสวนคดีนี้ คงไม่มีใครออกมาชี้แจง และกลายเป็นว่า การนิ่งเฉยเท่ากับเป็นการรับสารภาพ
ยิ่งทำให้สังคมเคลือบแคลงสงสัยมากขึ้น
“กระผมจึงขอออกมาชี้แจงทำความเข้าใจแทนองค์กรตำรวจอันเป็นที่รักยิ่งโดยสุจริตใจ”
ขอความเป็นธรรมให้ตำรวจด้วยครับ