“อาชีพสื่อมวลชน เป็นงานที่คิดว่าตัวเองถนัดที่สุดแล้ว ชอบในส่วนของเนื้องาน สาเหตุที่เลือกอาชีพนี้ เพราะเมื่อตัวเองทำงานสายนี้แล้วรู้สึกว่าเป็นตัวเองมากที่สุด ซึ่งหลังจากเรียนจบ ปริญญาตรี ก็ลองงานมาหลากหลาย ทั้งงาน Event Marketing ให้สถาบันเสริมความงามชื่อดังแห่งหนึ่ง AE บริษัทโฆษณา หลายบริษัท แต่รู้สึกว่าตัวเองไม่มีความสุขกับงานเหล่านั้น จึงเลือกมาสมัครงานข่าวเพื่อให้ตรงกับสายที่เรียน และภายหลังจากที่ได้มาทำงานข่าวด้วยตำแหน่งแรกเป็นผู้สื่อข่าวภาคสนามสายเศรษฐกิจ ก็รู้สึกว่างานสายข่าวนี่แหละน่าจะเหมาะกับเราที่สุด ต่อมาผู้ใหญ่ก็ได้ขยับให้ทำงานในตำแหน่งที่ท้าทายขึ้น ทั้งเป็นผู้สื่อข่าวภาคสนาม ผู้ประกาศข่าว รีไรเตอร์ โปรดิวเซอร์ สามารถทำงานได้ทั้งเบื้องหน้า และเบื้องหลัง” ลูกบ๊วย–สุกันยา บุญซ้วน ผู้ช่วย บก.สำนักข่าว TOP News งานหลักที่ทำตอนนี้คือทำสกู๊ปงานลูกค้า และเขียนข่าว บันทึกเสียงลงยูทูบของช่อง
กว่าจะก้าวขึ้นมาเป็นนักสื่อสารมวลชน และเป็นผู้ช่วย บก. ลูกบ๊วยจบมัธยมต้นจากโรงเรียนเมืองชุมพรวิทยา ศึกษาต่อปวช.1-3 แผนกวิชาการบัญชี วิทยาลัยเทคนิคชุมพร ปริญญาตรี จาก ม.ราชภัฏสวนดุสิต (ขณะนั้นยังเป็นราชภัฏ) สาขานิเทศศาสตรบัณฑิต พร้อมกับมีคติประจำใจ ที่ว่า “ใช้ชีวิตของคุณไปเถอะ ไม่ว่าจะดีจะร้าย เพราะสุดท้ายคุณคือคนเดียวที่จะอยู่กับมัน” ส่วนข้อคิดการทำงาน เธอให้นิยามไว้ว่า “ทำงานในส่วนที่ตัวเองรับผิดชอบให้เต็มที่ที่สุดในทุกๆวัน แม้สุดท้ายผลมันจะออกมาไม่เต็มร้อยก็ต้องยอมรับและภูมิใจที่เราได้ทำ”
หากจะถามถึงไอดอล หรือบุคคลต้นแบบในการทำงาน หรือดำรงชีวิต เธอบอกว่า ถ้ามาคิดจริงๆแล้ว ไม่มีไอดอล ไม่เคยยึดใครเป็นหลัก เพราะทุกคนย่อมมีทั้งส่วนที่เราชอบในตัวของเขา และไม่ชอบในตัวเขาเช่นกัน เพียงแค่ใช้ชีวิตในแบบของเราไป ทำให้ตัวเองมีความสุข สนุกกับงานที่ทำ ไม่เดือดร้อนใคร ไม่เบียดเบียนสังคม
แน่นอนว่าทุกคนล้วนต้องเจออุปสรรคปัญหาน้อยใหญ่ ลูกบ๊วยเองก็เช่นกัน เธอเล่าว่า ได้เรียนรู้ว่าอุปสรรคคือสิ่งที่เราต้องพบเจออยู่บ่อย ๆ และเราไม่สามารถเอาชนะมันได้ เพียงแต่เราเรียนรู้และปรับตัวที่จะอยู่กับมัน จากนั้นเมื่อนานวันไป อุปสรรคปัญหาในอดีต มันอาจจะกลายเป็นความเคยชินของเราไปแล้ว และทำให้แกร่งขึ้น ส่วนการก้าวผ่านความท้อเมื่อเจอปัญหาหรือภาวะเครียด การ “นอน” คือทางออก ซึ่งเธออธิบายว่า ทุกอย่างเราผ่านมาได้ด้วยการนอนหลับ เพราะเมื่อเราตื่นขึ้นมาความหนักอึ้งของปัญหาทุกอย่างมันจะเบาบางลง แม้มันจะไม่หายไป แต่เวลาจะทำให้ความรู้สึกแย่ๆ ลดน้อยลง และจะไม่เอามาเก็บสะสมในวันรุ่งขึ้น
นอกจากนี้สาวคนเก่งยังเล่าประสบการณ์การทำงานว่า ขอยกมาแค่ช่วงที่อยู่ในวงการสื่อสารมวลชน ในระยะเวลา 7 ปี ได้ทำอะไรหลายๆ อย่าง ทั้งผู้สื่อข่าวภาคสนาม ลงพื้นที่รายงานสดเหตุการณ์น้ำท่วม ไฟไหม้ ม็อบ คดีฆาตกรรมต่าง ๆ อีกทั้งสกู๊ปข่าวเศรษฐกิจ สังคม อาชญากรรม การเมือง เขียนข่าวลงเว็บไซต์ ยูทูบบันทึกเสียง ผู้ประกาศข่าว สิ่งที่ได้รับนอกจากประสบการณ์ คือ ความเหนื่อย ความเหนื่อยนั้นทำให้เรามีความอดทนมากยิ่งขึ้น และได้รู้ว่าแท้จริงแล้วเรามีความอดทนมากกว่าที่ตัวเองคิด
อย่างไรก็ตาม ในยุคปัจจุบันคนมักพูดถึงผู้หญิงสวยอย่างเดียวไม่พอ ต้องเป็นผู้หญิงสวยและเก่ง สำหรับลูกบ๊วยมีความเห็นกับเรื่องนี้ว่า ผู้หญิงสวย คือ ผู้หญิงหน้าสวย หุ่นสวย คือ ผู้หญิงสวยจากรูปลักษณ์จากองค์ประกอบภายนอก การแต่งตัว แต่งหน้า วางบุคลิกเป็นตัวเสริม ดังเช่นคำที่ว่า ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่ง แต่ถ้าผู้หญิงที่มีความคิด ทัศนคติดีส่วนตัวไม่เรียกว่าผู้หญิงสวย เพราะนั่นเป็นเรื่องของทัศนคติการใช้ชีวิตไม่ใช่สิ่งสวยงามที่มองเห็นได้ด้วยตา ทว่ามันคือสวยจากจิตใจ ทัศนคติ เป็นความสวยจากภายใน สุดท้ายผู้หญิงมีความสวยที่แตกต่างกันไป แล้วแต่มุมมองของแต่ละคน ส่วนผู้หญิงเก่งในความคิดเรา คือ คนที่สามารถเลี้ยงดูตัวเองได้ และสามารถทำให้ตัวเองมีความสุขได้ในทุก ๆเรื่อง ทุก ๆวันที่ลืมตาขึ้นมา
ลูกบ๊วยยังบอกถึงเป้าหมายในชีวิตว่า อยากทำให้ตัวเองมีความสุขได้ทุกวัน เพราะถ้าเรามีความสุขเราจะใช้ชีวิตได้ดีขึ้น จะสามารถดูแลคนรอบข้างได้ดีขึ้นด้วย ตอนนี้ยังถือว่าไม่ประสบความสำเร็จในชีวิต เพราะยังมีหลายครั้งที่รู้สึกดาวน์ แต่พยายามอยู่กับตัวเอง ดึงตัวเองขึ้นจากภาวะนั้นให้เร็วที่สุด แน่นอนว่า ทำได้ด้วยการนอนหลับ
สุดท้ายเธอให้มุมมองผู้หญิงในยุคปัจจุบันกับสมัยก่อน ว่า ถ้าในเรื่องของหน้าที่การงาน ต้องบอกว่าต่างจากสมัยก่อน เพราะผู้หญิงยุคนี้ไม่ได้อยู่กับเหย้า เฝ้าแต่กับเรือน แต่ผู้หญิงหลายคนกลายไปเป็นผู้นำในองค์กรต่างๆ ทำงานใช้สมอง ใช้แรงเหมือนผู้ชาย ด้วยสังคมที่เปลี่ยนไป วันเวลา ค่านิยมที่เปลี่ยนไป ทำให้ผู้หญิงเรียนรู้ที่จะทำในหลายๆอย่างมากกว่าการเป็นแม่บ้านดูแลครอบครัว แต่ที่ยังเหมือนเดิมคือ แม้จะเป็นหญิงแกร่ง หญิงเก่ง ก็ยังแฝงด้วยความอ่อนโยนในแบบฉบับผู้หญิง