เริ่มนับหนึ่งใหม่แล้วเมื่อไหร่มันจะถึงสิบ

 

 

วันสุดท้ายจริง ๆ แล้วของชีวิตข้าราชการตำรวจที่ครบอายุเกษียณราชการ

หลายทำงานตรากตรำมาตลอด 40 กว่าปี หลังเวลาเที่ยงคืนของคืนนี้จะได้ถึงเวลาพักผ่อนเต็มที่ ไม่ต้องมีเรื่องราวหน้าที่มากังวลใจ

หัวโขนถอดทิ้งไปปล่อยให้คนใหม่มาสวมแทน

แต่น่าเสียดายระบบข้าราชการเมืองไทย ส่วนใหญ่มักไม่เอาใจใส่กับ นโยบายคนเก่า กลับเอาแนวคิดใหม่มาใส่ผู้ใต้บังคับบัญชา อวดว่า ผู้นำที่มานั่งทำงานใหม่ มี “ไอเดียสดใส” กว่าคนเก่า แม้แนวนโนบายของเดิมที่วางไว้ดีอยู่แล้ว

ไม่เลือกจะเดินมุ่งหน้าสานต่อให้ถึงจุดหมายปลายทาง

ยุค พล.ต.ท.ทวี ทิพย์รัตน์ เป็นรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล วาง “กฎเหล็ก” ระบบสายตรวจชูมอตโต 3 นาทีต้องถึงที่เกิดเหตุ” เล่นเอาตำรวจสายตรวจผู้ปฏิบัติต้องตื่นตัวกระตือรือร้นตลอดเวลา เพราะว่าผู้เป็นนายเอาจริง

ส่วน พล.ต.ท.วรรณรัตน์ คชรักษ์ เมื่อนั่งแม่ทัพเป็นผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ไล่จี้ผู้กำกับการโรงพักต้องอยู่ทุกครั้งเวลามีคดีอุกฉกรรจเกิดขึ้น

ห้ามเอาเวลาราชการไปออกรอบเล่นกอล์ฟ

บรรดานักหวดวงสวิงหงอยกันเป็นแถว

ผ่านมาถึงสมัย พล.ต.ท.กฤษฎา พันธุ์คงชื่น ขณะเป็นรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาลคุมงานสืบสวนที่ตัวเองถนัด ตัดสินใจออกระเบียบทำ “ตราสืบสวนนครบาล” อย่างเป็นทางการเป็นกระเป๋าไว้ใส่บัตรประจำตัว เฉกเช่น ตำรวจสากล เป็นของถูกต้องตามระเบียบ มีเลขกำกับเฉพาะของใครของมัน

ใครพ้นตำแหน่งหน้าที่ต้องทำเรื่องคืนให้ต้นสังกัด

ป้องกันการแอบอ้างเป็นตำรวจนอกเครื่องแบบ “บินหากิน” มั่วไปหมด

เจ้าตัวยังเป็นผู้ริเริ่มเว็บไซต์ www.thaispypolice.com รวบรวมประวัติหมายจับไว้ให้ตำรวจทั่วประเทศสืบค้นเป็นข้อมูลติดตามคนร้าย คล้ายกับที่ พล.ต.อ.วินัย ทองสอง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นำแนวคิดริเริ่มตั้ง ศูนย์ตรวจสอบข้อมูลอาชญากรรมผ่านโปรแกรม PDC (Police Data Center)  เสมือนเป็น“กูเกิลตำรวจ”ในปัจจุบัน

ขณะที่ พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล มอบหมาย พล.ต.ต.ชัยพร พานิชอัตรา รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ทำโครงการ “บ้านสีขาว ประชาร่วมใจ ปลอดภัยยาเสพติด” ติดสติกเกอร์หน้าบ้านตามชุมชนนับหมื่นหลังคาเรือนทั่วกรุงว่า ปลอดเชื้อยานรก แน่นอน

มีใครจะ “การันตี” ได้หรือไม่ว่า โครงการดี ๆ สารพัดเหล่านี้จะยังคงอยู่ ไม่ “ยุบหาย” กลายเป็นฝุ่นละอองสูญเปล่าเหมือนหลายโครงการดังกล่าวที่ยกตัวอย่างมาข้างต้น

เพียงเพราะใจ ผู้เป็นนายคิดต่าง ทั้งที่ผลงานตกเป็นผลประโยชน์ของประชาชน

สร้างสรรค์ความคิดใหม่ เลือกทำลาย “มรดกอันมีค่า” ของเก่า

เอาตัวเองเป็นใหญ่มาเริ่มนับหนึ่งใหม่แล้วเมื่อไหร่มันจะถึงสิบ !!!

 

RELATED ARTICLES