ส่งท้ายปีสีกากีเปื้อนมลทิน

 

“นิ้วไหนไม่ดีก็ต้องตัดทิ้ง” วาทะแห่งปีของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข แม่ทัพปทุมวันจำเป็นต้องกลืนเลือดจากผลพวงของวีรกรรม พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล อดีตผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองนครสวรรค์

“ เป็นเรื่องที่น่าเสียใจ ที่จะต้องมีคนที่ต้องสูญเสียไป ฝากเป็นอุทาหรณ์ให้กับเพื่อนข้าราชการตำรวจทุกคนดูไว้เป็นตัวอย่าง ทำอะไรที่ไม่ดีไม่มีทางที่จะพ้นไปได้เลย แล้วสิ่งที่ตามมามันเสียหาย” เจ้าสำนักระบายความรู้สึก

“นิ้วไหนไม่ดีก็ต้องตัดทิ้ง คนส่วนใหญ่จะได้เดินต่อได้ ผมเชื่อว่าตำรวจส่วนใหญ่ยังดีอยู่ แต่คนที่ทำไม่ดี คนเลวๆ ก็ต้องรับผลกรรมที่ได้ทำลงไป เราไม่สามารถเอาคนแบบนี้ไว้ได้ เพราะไม่อย่างนั้นที่เหลือเดินไม่ได้”

การกระทำของ ผู้กำกับโจ้-พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล พ่นพิษทำลายภาพลักษณ์องค์กรตำรวจย่อยยับ

ถูกบันทึกเป็น  “ปีอัปยศ” ของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์จากเรื่องราวฉาวสะเทือนวงการสีกากี ทั้งที่เป็น ความผิดของคนกลุ่มเดียว แต่โดนเหมารวมไปท่วมทั่วทุ่งปทุมวัน

“ตำรวจเลว ตำรวจชั่ว” เสียงสาปส่งสาดเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย

บทเรียนราคาแสนแพงแลกด้วยอนาคตชีวิตในเครื่องแบบของนายหนุ่มตำรวจไฮโซ นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 57 ที่อยู่ใน “กลุ่มดาวรุ่ง” นำรุ่นต้องจบเห่รวดเร็วก่อนวัย

เซฟเฮาส์กับเรื่องราว “ความลับแตก” ไม่เท่าบรรยากาศ “แตกความสามัคคี”ภายในโรงพัก

“มังกรพลัดถิ่น ฤาจะสู้กับงูดินเจ้าที่” อีกประโยคเด็ดของปีสะท้อนการบริหารงานที่ล้มเหลวในโรงพักเมืองนครสวรรค์

เข้าตำราหยิกเล็บเจ็บเนื้อ

พฤติกรรมของฉากอำมหิต “คลุมถุงดำ” กระจายว่อนไปทั่วโลก เป็นเรื่องที่ ผู้กำกับโจ้-พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล ต้องยอมรับผลแห่งการกระทำที่ถูกตีตราเป็น “โจรผู้ร้ายในเครื่องแบบ”

ปลุกอารมณ์สาปแช่งพิพากษาผิดข้อหาฉกรรจ์

เจ้าตัวเจอคำสั่งให้ออกจากราชการ พร้อมหมายจับ ความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด ร่วมกันตั้งแต่ห้าคนขึ้นไปข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใดไม่กระทำการใดหรือจำยอมต่อสิ่งใดโดยใช้กำลังประทุษร้าย

หนักสุดคือ “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยทรมาน หรือโดยกระทำทารุณโหดร้าย”

ท่ามกลางภารกิจล่าแทบพลิกแผ่นดิน นายตำรวจหนุ่มตัดสินใจโผล่เข้ามอบตัว

“ผมทนไม่ไหวแล้ว ผมเครียด ผมอยากฆ่าตัวตาย”

“มึงคิดให้ดี” พล.ต.ต.เอกรัตน์ ลิ้มสังกาศ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 เตือนสติ  “ถ้ามึงตาย สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะเสียหาย แล้วลูกน้องมึงล่ะ รวมทั้งครอบครัววงศ์ตระกูลอีกด้วย จะเสื่อมเสียชื่อเสียงไปตลอด”  

พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เข้าสอบปากคำอดีตผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองนครสวรรค์ ในทันทีที่พาตัวเข้ากองบังคับการปราบปราม

ผู้กำกับคนดังเอ่ยปากรับอย่างลูกผู้ชายในความผิดพลาดทำผู้ต้องหาตายคาเซฟเฮาส์

ผมทำไปโดยไม่ถูกต้อง แต่สิ่งที่ทำเพื่อต้องการเอาข้อมูลยาเสพติดที่ทำลายประชาชนในจังหวัดนครสวรรค์” เขาระบายความในใจผ่านการโฟนอินระหว่างการแถลงข่าว

“ผมขอรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว ลูกน้องไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง” เจ้าตัวแอ่นอกย้ำ

“ผมยอมรับผิด ยอมรับสิ่งที่จะเกิดขึ้น ไม่ว่าศาลจะตัดสินอย่างไรจะจำคุกผมตลอดชีวิต ผมขอให้การว่า ผมไม่ได้มีเจตนาฆ่าน้อง เจตนาตั้งใจที่จะทำงานเพื่อประชาชนไม่ให้ลูกหลานคนนครสวรรค์ติดยา ต้องกราบขอโทษประชาชนทุกคน ผมตั้งใจทำงานจริง ๆ แต่พลาดไป กราบขอโทษพ่อแม่ผู้ตาย เพราะไม่มีเจตนา และใจจริงก็ทราบว่า ไม่ได้ตาย เพราะการที่เราไปคลุมหัวเพื่อต้องการเอาข้อมูลยาเสพติด และกราบขอโทษท่านผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและตำรวจทุกคนด้วย”

“ องค์กรตำรวจยังมีคนดี ๆ เยอะ ผมผิดเอง” อดีตผู้กำกับถุงดำลั่นประโยคสุดท้ายก่อนสิ้นอิสรภาพ

 “เด็กรุ่นใหม่อายุยังน้อย ความหุนหันพลันแล่นมันสูง ดังนั้นการควบคุมอารมณ์ต้องมีสูงมาก ความผิดพลาดจะไม่มี” พล.ต.ต.ปรีชา ธิมามนตรี ตำนานนักสืบระดับปรมาจารย์เป็นห่วงสำนักงานเก่า

ถ้าวันหนึ่งก้าวพลาดขึ้นมาจะตีกลับเป็นทวีคูณ

ทิ้งบทเรียนราคาแสนแพงแห่งปีของวงการตำรวจ

 

 

RELATED ARTICLES