ตม.แถลงผลงานจับ 2 คดีสำคัญ

พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจตนเข้าเมือง มอบหมายให้ พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง รองผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พร้อมด้วย พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พ.ต.อ.สถิตย์ พรมอุทัย รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พ.ต.อ.ณภัทรพงศ สุภาพร ผู้กำกับการปฏิบัติการอาชญากรรมพิเศษ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตรวจคนเข้าเมือง พ.ต.อ.ชย พานะกิจ ผู้กำกับการ(สอบสวน)กลุ่มงานสอบสวน กองบังคับการสืบสวนสอบสวนสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง แถลงผลทลายเว็บพนันออนไลน์ ROYAL CLUB และ BET MOVE สัญชาติเกาหลี เงินหมุนเวียนเดือนละกว่า 100 ล้านบาท

หลังจากกองกำกับการปฏิบัติการอาชญากรรมพิเศษ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ร่วมกับศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เข้าตรวจค้นอาคารแห่งหนึ่งในพื้นที่ หมู่ 9 ตำบลหนองปรือ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี และห้องเลขที่ 290/54 นอร์ทชอร์ คอนโดมิเนียม หมู่ 9 ตำบลหนองปรือ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี จับกุมชาวเกาหลีใต้ 11 คน ร่วมกันจัดให้เล่นพนันออนไลน์โดยผิดกฎหมายและเป็นบุคคลต่างด้าวทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต เป็นนายจ้างรับบุคคลต่างด้าวเข้าทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต ยึดของกลาง 60 รายการ แบ่งเป็น คอมพิวเตอร์ จำนวน 10 เครื่อง หน้าจอคอมพิวเตอร์ จำนวน 19 จอ คอมพิวเตอร์แบบพกพา จำนวน 2 เครื่อง โทรศัพท์มือถือจำนวน 18 เครื่อง และ บัตรส่งรหัส otp จำนวน 11 ใบ

พฤติการณ์ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ทำการสืบสวนทราบว่าได้มีบุคคลสัญชาติเกาหลีใต้เข้ามาอาศัยประเทศไทยเป็นฐานในการทำพนันออนไลน์ ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสืบสวนจนทราบว่าได้มีการตั้งจุดที่กรุงเทพมหานครและย้ายไปที่อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี ร่วมกับคนไทยใจัดตั้งฐาน จัดตั้งระบบและนำคนเกาหลีใต้เดินทางเข้ามาที่ประเทศไทยเพื่อทำงานในเว็บพนันดังกล่าว

อีกราย พ.ต.อ.ชิตเดชา สองห้อง ผู้กำกับการ 1 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตรวจคนเข้าเมือง 1 กับพวกจับกุม นายลาจอส อายุ 48 ปี สัญชาติฮังการี เป็นคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด หลังได้รับแจ้งจากสายลับพบเห็นชายชาวต่างชาติมีตำหนิรูปพรรณคล้ายกันกับผู้ต้องหาตามประกาศทางเว็บไซต์ของตำรวจประเทศฮังการี กระทำความผิดฐานปลอมแปลงเอกสาร และฉ้อโกงเงินประกันภัย อาศัยในย่านถนนเพชรบุรีตัดใหม่ แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร จึงประสานสถานเอกอัครราชทูตฮังการี ประจำประเทศไทยยืรยันเป็นบุคคลคนเดียวกัน พบด้วยว่า กองการต่างประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีหนังสือ ที่ 0002.4/4127 ลงวันที่ 13 กรกฎาคม 2554 แจ้งว่า เป็นผู้ต้องหาที่ทางการฮังการีต้องการตัวตามหมายจับของศาลฮังการีในความผิดฐานปลอมแปลงเอกสาร และฉ้อโกงเงินประกันภัย เป็นเงินจำนวน 401,394,145 โฟรินต์ฮังการี หรือคิดเป็นเงินไทยกว่า 42 ล้านบาท

 

RELATED ARTICLES