คนร้ายอาละวาดก่อเหตุโจรกรรมรถจักรยานยนต์ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครฝั่งตะวันออก สมุทรปราการและฉะเชิงเทราแทบไม่เว้นวัน
สร้างความเดือดร้อนแก่สุจริตชนเป็นจำนวนมาก
พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 กำชับ พล.ต.ต.ชุมพล พุ่มพ่วง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ พ.ต.อ.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ พ.ต.อ.ภูริส จินตรานันท์ ผู้กำกับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ ระดมกำลังประสานข้อมูลตำรวจท้องที่
หลังจาก พ.ต.ต.ชินทัตต์ วิเชียรเจริญ สารวัตรสืบสวน สถานีตำรวจภูธรบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ กับพวกแกะรอยได้เบาะแสคนร้ายใช้รถเก๋งยี่ห้อ โตโยต้า รุ่นโซลูน่า สีน้ำตาล หรือสีบรอนซ์ทอง และรถเก่ง ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่นซิตี้ สีบรอนซ์ทอง เป็นพาหนะก่อเหตุ
ใช้ป้ายทะเบียนปลอมสับเปลี่ยนหมุนเวียนไป มีผู้ร่วมกระบวนการประมาณ 2-5 คน ชำนาญเส้นทางในเขตพื้นที่บางเสาธงเป็นอย่างดีถึงพยายามหลบมุมกล้องวงจรปิดตลอดจนเส้นทางหลบหนี
การสืบสวนนานอยู่หลายเดือนราบว่า แก๊งคนร้ายซุกซ่อนตัวอยู่โรงแรมแห่งหนึ่งในพื้นที่ตำบลบางวัว จังหวัดฉะเชิงเทรา แต่คลาดกันหวุดหวิด
เที่ยวนี้ พ.ต.อ.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ ส่ง พ.ต.อ.ภูริส จิตรานันท์ ผู้กำกับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ เข้ามาช่วยแนะนำแนวทางการสืบสวนให้นายตำรวจหนุ่มรุ่นน้องและเรียกประชุมวางแผนไล่ล่าตัวคนร้ายมาดำเนินคดี
ไม่นานพิสูจน์ทราบตัว นายปราโมทย์ หรือ โมทย์ อุบลแย้ม อายุ 39 ปี ร่วมกับ นายเจี๊ยบ ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง หลบหนีมาซ่อนตัวอยู่หมู่บ้านศรีเทพไทย ในบ้านเลขที่ 164/15 ซอย 41 หมู่ 2 ตำบลบางสมัคร อำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา
ก่อนทำรายงานการสืบสวนเสนอผู้บังคับบัญชาและพนักงานสอบสวนยื่นคำร้องขอศาลเพื่อออกหมายจับผู้ต้องหาต่อศาลจังหวัดสมุทรปราการ
แบ่งกำลังเฝ้าสังเกตการณ์และตามสะกดรอยผู้ต้องสงสัยขับรถยี่ห้อโตโยต้า รุ่นโซลูน่า สีน้ำตาล หรือสีบรอนซ์ทอง ออกจากบ้านไปก่อเหตุหอพักวรดา หมู่บ้านเคหะเมืองใหม่บางพลี ซอย 18 ตำบลบางเสาธง อำเภอบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ
สุดท้ายจับกุมนายปราโมทย์ หรือ โมทย์ อุบลแย้ม อายุ 39 ปี และนายสุรศักดิ์ หรือ เจี๊ยบ เพ็ชรรัตน์ อายุ 41 ปี คารถจักรยานยนต์ที่เพิ่งลักมาได้ไม่ทันข้ามวัน
ทั้งสองให้การยอมรับว่า ร่วมกันก่อเหตุลักรถจักรยานยนต์ในพื้นที่อำเภอบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการและพื้นที่ข้างเคียงมาหลายครั้ง แบ่งหน้าที่กันทำอย่างชัดเจน หากใครเป็นคนขับรถยนต์อีกคนจะเป็นคนลักทรัพย์
ใช้วิธีการหักคอ และต่อสายไฟตรงเข้าเครื่องไม่ผ่านสวิตช์ปิดเปิด
จากนั้นจะส่งภาพถ่ายรถจักรยานยนต์ของกลางไปให้นางสุคนธ์ หรือเจ้ หรืออ้อย กุดหินนอก เสนอนายทุนตีราคาแล้วจะนั่งรถตู้ประจำทางมาจังหวัดสระแก้ว นำรถจักรยานยนต์ขึ้นส่งมอบให้นายทุนที่ชายแดนกัมพูชาเขตติดต่อจังหวัดสระแก้ว
ต่อมาฝ่ายหญิงร่วมแก๊งถูกควบคุมตัวยอมรับว่า นำรถของกลางไปส่งนายทุนกัมพูชาเขตติดตามสระแก้วจริง
ปิดเกมแก๊งลักรถจักรยานยนต์ประวัติโชกโชนได้อีกกลุ่ม