เบี้ยเลี้ยงที่หายไป

 

ยังคงมีเสียงสะท้อนคร่ำครวญของบรรดา “มดงาน” ผ่านโลกออนไลน์ระบายความรู้สึกอัดอั้น

บางคนว่านโยบาย Police 4.0 ทุกอย่างต้องรายงานผ่านไลน์ไม่พอ ต้องลงข้อมูลในแอปพลิเคชัน ตรวจตู้แดง ลงระงับเหตุ ลงข้อมูลจุดตรวจเยี่ยม แต่ไม่พ้นต้องมานั่งทำเอกสารอีก

สรุปต้องทำ 2   รอบ โทรศัพท์มือถือ หรือสัญญาณเน็ตก็เติมเอง

สงสารป๋า ๆ ทำก็ไม่ค่อยเป็น ทำไปทำมาเครื่องค้าง ส่วนตำรวจเด็ก ๆ พอทำได้ แค่สงสัยทำไมผู้บังคับบัญชามีแต่สั่งไม่มีงบประมาณ ตำรวจผู้ปฏิบัติชั้นผู้ต้องกลับต้องซื้อทุกอย่างที่ใช้ในการทำงาน เพื่อทำอาชีพอื่นยังงง

ทำไมซื้อเองหมด

หมดใจครับ

หลายคนเบื่อระบบทุกที เข้าใจความรู้สึกรุ่นพี่ลาออกไปทำอย่างอื่น ใจรักในอาชีพตำรวจ แต่สิ่งที่ได้ทำไม่คุ้มค่าเสียเลย

ผู้เป็นนายบางคนนอกจากนิยม “สั่งแห้ง” ยังชอบทำให้ซับซ้อนยุ่งยากกับงานเอกสาร เวลาลูกน้องมีปัญหา “นายหนีหมด” มีแค่ชั้นประทวนด้วยกันคอยแก้ปัญหา

ส่วนชั้นผู้น้อยอีกรายสงสัยผู้เป็นนาย “อมเบี้ยเลี้ยงหรือเปล่า”

ฝากเป็นกระบอกเสียงสะท้อนถึงผู้บังคับบัญชาผู้มีอำนาจ

“ไม่ต้องจัดสวัสดิการให้ตำรวจชั้นผู้น้อยเพิ่ม แค่ทำให้ตำรวจชั้นผู้น้อยได้รับเงินเบี้ยเลี้ยงตามสิทธิที่ทำงาน ไม่ใช่ตำรวจชั้นผู้น้อยทำงาน แล้วทางกองบังคับการต้นสังกัดทำเรื่องเบิกกับผู้บังคับบัญชา”

ทำให้มีไม้น้อยทนไม่ได้กับระบบ บอกว่า ไม่จำเป็นต้องให้จิตแพทย์มาให้คำปรึกษาแก้ปัญหาความเครียด แค่ช่วยตรวจสอบการเบิกจ่ายงบประมาณถึงมือผู้ปฏิบัติเต็มเม็ดเต็มหน่วยหรือไม่

ตรงเวลาจริงไหม

ยกตัวอย่าง ชุดควบคุมฝูงชนออกรับมือกับ “ม็อบทะลุแก๊ส” ทุกวันได้เบี้ยเลี้ยงบ้างไหม หรืออีกหลายภารกิจยังคงเหมือเดิม

ร้องเรียนไปก็หายเข้ากลีบเมฆ

เหมือนเบี้ยเลี้ยงโควิด นายตำรวจบางคนรวยขึ้น แต่ลูกน้องที่ร้องเรียนโดนย้ายหน้าที่ เงินก็ไม่ได้รับ ล้วนมีนายตำรวจระดับผู้ใหญ่อยู่เบื้องหลังวังวน

เขียนแผนตั้งด่านความมั่นคง ชุดควบคุมฝูงชนออกทำงานแทบทุกวัน (รวมเงินเบี้ยเลี้ยงรับเสด็จ แต่ห้ามออกสื่อ) เงินโควิดรอบสอง ตั้งแต่ด่านเคอร์ฟิว กองบังคับการต้องทำเบิก ทำไปทำมาเงินเข้าบัญชี รองผู้บังคับการ ที่คุมภารกิจ

ทำตารางเวรของตำรวจชั้นผู้น้อยทำงานแทบ 24 ชั่วโมงจัดกำลังพลลงไปให้มากคนเพื่อได้ทำเบิกยอดจากกรมบัญชีกลาง แต่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติออกทำงานเกือบทุกวัน เหนื่อยก็เหนื่อย เบี้ยเลี้ยงที่ทำเบิกกับเงินที่เฉลี่ยให้ลูกน้องผู้ปฏิบัติกลับไม่ตรงตามข้อเท็จจริง

หากผู้บังคับบัญชาผู้มีอำนาจต้องการหลักฐานจริง และมีความจริงใจต้องการแก้ไขจริง ลองให้กรมบัญชีกลางเปิดเผยตัวเลขที่กองบังคับการเบิกเงินว่า ตัวเลขเท่าไรแล้วหายไปไหน

ทำไมหล่นหายไม่ถึงมือผู้ปฏิบัติเต็มเม็ดเต็มหน่วย

 

RELATED ARTICLES