ไล่ล่านักฆ่าข้ามชาติ

 

กลายเป็น การบ้านข้อใหญ่ ที่สำคัญของตำรวจไทย

ไขปมคดีสังหาร นายจิมมี่ ซิงห์ ซานดู อายุ 32 ปี ชาวอินเดียถือสัญชาติแคนาดา ที่ถูก 2 มือปืนต่างชาติรัวยิงดับ ขณะขับรถเอ็มจีสีแดง ทะเบียนป้ายแดง ก-7221 ภูเก็ต เข้ามาจอดหน้าวิลล่าเอ เดอะบีช ฟรอนต์ โฮเทล ภูเก็ต หมู่ 5 ถนนวิเศษ ตำบลราไวย์ อำเภอเมืองภูเก็ต

วิลล่าหรูติดชายทะเลอันดามัน

สะเทือนลั่นสะท้านเป็นข่าวดังข้ามโลก

สำนักข่าว แวนคูเวอร์ ซัน แคนาดา ยังรายงานถึงเหตุฆาตกรรมอุกอาจบนเกาะท่องเที่ยวใหญ่สุดในเมืองไทย อ้างการเปิดเผยของ ส.ต.อ.เบรนดา วินเพนนี เจ้าหน้าที่ฝ่ายปราบปรามแก๊งอาชญากรสังกัดหน่วยตำรวจเฉพาะกิจแคนาดา ระบุผู้ตายอยู่ใน “บัญชีดำ” ของตำรวจแคนาดา

นายจิมมี่ ซิงห์ ซานดู มีฉายาในวงการว่า “สไลซ์”  หรือ “ไอ้หน้าบาก” เนื่องจากแก้มขวามีรอยแผลเหมือนถูกมีดกรีด เป็นสมาชิกแก๊ง “เดอะ ยูเอ็น” หนึ่งในกลุ่มอาชญากรหลักในรัฐบริติช โคลอมเบีย ประเทศแคนาดา

เกิดที่อินเดีย ก่อนย้ายมาอยู่เมืองแอบบอตส์ฟอร์ด ประเทศแคนาดา ตอนอายุ 7 ขวบ และถือสัญชาติแคนาดาในเวลาต่อมา

มีประวัติก่ออาชญากรรมคดีทำร้ายร่างกายอย่างต่อเนื่อง รวมถึงพัวพันในคดีเด็ดปีก นายแมตต์ แคมพ์เบล หัวหน้าแก๊ง “แมงป่องแดง” ก่อนถูกเนรเทศออกนอกประเทศเมื่อปี 2559

เดือนมิถุนายนอีก 2 ปีถัดมา ถูกจับกุมข้อหาฐานตั้งโรงงานผลิตยาเค ยึดโรงงาน 14 แห่ง ในรัฐกัว ทางภาคตะวันตกของอินเดีย ของกลาง เคตามีน 308 กิโลกรัม สารตั้งต้น 2,000 กิโลกรัม

ประกันตัวหลบหนีออกจากอินเดียเดินทางไปมาระหว่างนครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ กับประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างต่อเนื่อง

พร้อมระบุด้วยว่า แก๊งอาชญากรในรัฐบริติช โคลอมเบียของแคนาดา ไม่ว่า เดอะ ยูเอ็น แมงป่องแดง รวมถึงบราเธอร์ คีพเปอร์ส ทำสงครามระหว่างแก๊งอย่างต่อเนื่องตลอดหลายปีที่ผ่านมา มีเหยื่อเสียชีวิตหลายสิบคน

เสียชีวิตของ นายจิมมี่ ซิงห์ ซานดู บรรดาสมาชิกแก๊งคู่อริต่างโพสต์ข้อความแสดงความยินดีฉลองต่อการถูกฆ่าอย่างโหดเหี้ยมในเมืองไทย

มือปืนวิ่งออกจากพุ่มไม้เข้ากระหน่ำยิงจนร่างพรุนร่วม 20 นัดแล้ววิ่งหลบหนีไป หลังจากเหยื่อเดินทางเข้าประเทศเมื่อวันที่ 27 มกราคม 2565 และเพิ่งมาเปิดวิลล่าหรูที่เกิดเหตุได้แค่ 2 วัน

คำถาม คือ ทีมสังหารรู้ความเคลื่อนไหวได้อย่างไร และทำไมตำรวจไทยไร้ข้อมูล

ทั้งที่ก่อนหน้านี้ทางการแคนาดแจ้งเตือนว่า นายจิมมี่ ซิงห์ ซานดู เป็น “บุคคลเฝ้าระวัง”จะเดินทางเข้าประเทศไทย โดยใช้หนังสือเดินทางปลอม แต่ยังไม่มี “หมายแดง” ของอินเตอร์โพล

ตรวจสอบข้อมูลย้อนหลังพบว่า ผู้ตายเดินทางด้วยเครื่องบินส่วนบุคคลมาจากประเทศมาเลเซียเข้าไทยไปพักโรงแรมแห่งหนึ่งในหาดป่าตอง ตามโครงการ “ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์” กำหนดอยู่ถึงวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2565 แต่ย้ายออกไปที่วิลล่าเกิดเหตุแทน

หนังสือเดินทางของผู้ตายมีการเดินทางเข้าออกประเทศไทยหลายครั้งในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ช่วงแรกใช้หนังสือเดินทางระบุเป็นคนสัญชาติอินเดีย ต่อมาเปลี่ยนแปลงชื่อใช้หนังสือเดินทางแคนาดาเข้าประเทศไทย

ทว่า ระบบไบโอเมตริกซ์ ของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองไม่พบข้อมูลการเปลี่ยนแปลงเอกสารหนังสือเดินทาง

ยังไม่ทราบแน่ชัดด้วยว่า อดีตมาเฟียสัญชาติแคนาดาเข้ามาทำอะไรในเมืองไทย ก่อนโดน “คำสั่งตาย” ที่คาดว่ามาจากกลุ่มอริข้ามชาติ

เป็นเหตุผลที่ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ต้องบินด่วนไปพูดคุยกับตัวแทนทูตแคนาดาในการประสานข้อมูลประวัติผู้ตายเพิ่มเติม พร้อมเรียกประชุมทีมคลี่คลายคดี อาทิ พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง รองผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พล.ต.ต.สันติ ชัยนิรามัย รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พล.ต.ต.นภันต์วุฒิ เลี่ยมสงวน ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 8  พล.ต.ต.เสริมพันธุ์ ศิริคง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต  และทีมงานสืบสวนสอบสวนที่เกี่ยวข้อง

คือ การบ้านข้อใหญ่ ต้องเร่งสะสาง

สร้างความเชื่อมั่นแก่นักท่องเที่ยวต่างชาติบนเกาะภูเก็ต