หากจะคิดแสวงหาผลประโยชน์ อย่ามาเป็นกต.ตร

ต.ตร. ย่อมาจาก คณะกรรมการตรวจสอบและติดตามการบริหารงานตำรวจ ซึ่งมีที่มาสืบเนื่องจากเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 (มาตรา 76) ที่มุ่งส่งเสริมให้ประชาชนมีบทบาทและภารกิจในการตรวจสอบการใช้อำนาจของรัฐ ดังนั้นเพื่อให้ประชาชนมีโอกาสเข้ามามีส่วนร่วมในการตรวจสอบติดตามการบริหาร งานของตำรวจในทุกระดับ ตลอดจนให้ข้อเสนอแนะในการกำหนดนโยบายการพัฒนาและบริหารงานรัฐบาล เพื่อปรับปรุงกิจการตำรวจให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น มีการกระจายอำนาจและเปิดโอกาสให้สังคมมีส่วนร่วมในการตรวจสอบและติดตามการ บริหารงานตำรวจ และให้ข้อเสนอแนะอย่างเป็นระบบ โดยมี กต.ตร. ฉะนั้นสาระสำคัญของการทำหน้าที่คือต้องปรับทัศนคติของตำรวจ ประสานให้ประชาชนในพื้นที่มีความรู้ความเข้าใจ แล้วให้ประชาชนมามีส่วนร่วม และเป็นเจ้าของกิจการอย่างยั่งยืน

คุณพีรวัฒน์ สุรเศรษฐ ผู้บริหารห้างเพชรหลี่เส็ง หรือ L.S. Jewelry Group ดำเนินธุรกิจอัญมณีมากว่า 85 ปี เขาเป็นผู้บริหารรุ่นที่ 3 ถือเป็นอีกหนึ่งนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ และมีจิตอาสาทำงานตอบแทนแผ่นดิน คืนสิ่งดีๆสู่สังคม ด้วยการเสียสละมาทำหน้าที่เป็นตัวแทนภาคประชาชน ในฐานะ ประธาน กต.ตร.บก.น.1 นอกจากนี้ ยังทำหน้าที่เพื่อสังคมอีกอย่าง อาทิ ที่ปรึกษากองบังคับการปราบปราม ที่ปรึกษาสมาพันธ์นักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ที่ปรึกษาสมาคมผู้สื่อข่าวและช่างภาพอาชญากรรมแห่งประเทศไทย ที่ปรึกษาสมาคมผู้ค้าอัญมณีไทยและเครื่องประดับ ที่ปรึกษาสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ(องค์การมหาชน) ที่ปรึกษาสมาคมธุรกิจทองคำ นอกจากนี้ยังได้รับเกียรติจาก พล.ต.อ.สุวิระ ทรงเมตตา ที่ปรึกษา(สบ 10) เชิญให้ไปเป็นที่ปรึกษา สำหรับช่วยตรวจสอบกลุมอาชญากรรมข้ามชาติที่เข้ามาก่อเหตุเกี่ยวกับทรัพย์ เช่น ยกเซฟ ขโมยเอาทรัพย์สิน จึงต้องการผู้เชี่ยวชาญในการตรวจสอบทรัพย์สินจำพวกเครื่องประดับอัญมณีที่ได้จากการโจรกรรม

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

คุณพีรวัฒน์ บอกว่า ในปีนี้ตัวเองได้รับเลือกเป็น ประธาน กต.ตร.บก.น.1 หลังจากก่อนหน้านี้เคยทำงานเป็น กต.ตร. ของ สน.ชนะสงครามอยู่ 2 สมัย และยังดำรงตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิ(ด้านความมั่นคง) ของ บก.น.1 ต้องขอบคุณที่ผู้ใหญ่ให้ความไว้วางใจ และรู้สึกภูมิใจที่มีส่วนทำงานเพื่อประโยชน์ของสังคมส่วนรวม โดยองค์กร กต.ตร. เป็นองค์กรที่ประชาชนมีส่วนร่วม ดังนั้นจึงเหมาะสมที่จะให้องค์กรนี้มีบทบาทในการเป็นแกนกลางดึงชุมชนและท้องถิ่นเข้ามามีส่วนร่วมในการตรวจสอบ สนับสนุน กิจการการดำเนินงานของตำรวจ สร้างความสมดุลให้กับสังคม ทุกภาคส่วนมีโอกาสร่วมปรึกษาหารือเกี่ยวกับปัญหา รวมทั้งร่วมกันหาทางออก การแก้ไขปัญหาต่างๆในสังคมในท้องถิ่นนั้นๆ ตนได้มีการพูดคุยกับ ประธาน กต.ตร. ทั้ง 9 สถานีในสังกัด บก.น.1 ว่า จะร่วมกันขับเคลื่อนเปิดโอกาสให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม กำหนดนโยบาย การตัดสินใจการทำงานของตำรวจ ไม่ว่าจะเป็นการป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดทางอาญา การรักษาความสงบเรียบร้อย ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ความมั่นคงของราชอาณาจักรและงานอื่นๆที่เกี่ยวเนื่องกัน ตลอดจนนำแนวทาง 5ส. มาใช้ในการยกระดับการบริการแก่พี่น้องประชาชนที่มาติดต่อราชการในสถานนีตำรวจทุกแห่ง คือ สะสาง สะดวก สะอาด สุขลักษณะ และ สร้างนิสัย โดยให้นำไปปฏิบัติให้ประชาชนเกิดความประทับใจ

“ผมรู้สึกภูมิใจที่ได้รับโอกาสอันดีมาทำงานตรงนี้ เพราะแม่ผมสอนไว้เสมอว่า เราได้จากสังคมก็ต้องคืนให้กับสังคม ทุกคนในครอบครัวจะคิดและทำแบบนี้ น้องชายผมก็เช่นเดียวกัน คือ นายธัชวิน สุรเศรษฐ ก็มาทำงานเพื่อสังคมเช่นกัน ตอนนี้ก็ดำรงตำแหน่ง รองประธาน กต.ตร. บก.น.1 และเป็นที่ปรึกษาองค์กรต่างๆเหมือนกับผม เรามีความเต็มใจมาทำงานตรงนี้ ไม่มีใครบังคับ เพราะเห็นว่าเป็นโอกาสที่ดีในการตอบแทนทำประโยชน์กลับคืนสู่สังคม เมื่อมีโอกาสเราจะทำ ไม่เป็นการเหนือบ่ากว่าแรง และรู้สึกดีที่ผู้ใหญ่ไว้วางใจ ขณะเดียวกันบทบาทหน้าที่ของ กต.ตร.ก็เป็นสิ่งที่ดี เชื่อมความสัมพันธ์สร้างความเข้าใจซึ่งกันและกันระหว่างตำรวจกับชาวบ้าน ถือเป็นตัวจักรอันนึงที่ขับเคลื่อนให้สังคมมีความน่าอยู่ ช่วยยกระดับการบริการประชาชนของตำรวจ มีบุคลิกยิ้มแย้ม กริยาสุภาพอ่อนโยน กระตือรือล้น ให้เกียรติกับประชาชนทุกระดับชั้น ไม่ว่าจะฐานะหรืออาชีพแบบไหน ต้องปฏบัติอย่างเท่าเทียม เมื่อได้ใจชาวบ้าน เขาก็จะให้ความร่วมมือในทุกๆ ทั้งการแจ้งเบาะแส เป็นหูเป็นตาช่วยระวังภัย เป็นตาสับปะรด ประหนึ่งกล้องวงจรปิดเคลื่อนที่ ที่กระจายอยู่ทุกแห่งในพื้นที่รับผิดชอบ” คุณพีรวัฒน์ นักธุรกิจจิตอาสาอธิบาย

ปัจจุบันผู้บังคับบัญชาระดับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ให้ความสำคัญกับ กต.ตร. เป็นอย่างมาก เพราะถือเป็นประโยชน์ที่ให้ประชาชนมามีส่วนร่วมในการตรวจสอบติดตามการทำงานของตำรวจ โดยเฉพาะท่าน พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. ที่เป็นผู้รับผิดชอบดูแลและยกระดับงาน กต.ตร. ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และยังมี พล.ต.อ.สุวิระ ทรงเมตตา ที่ปรึกษา(สบ 10) ช่วยขับเคลื่อน รวมถึงนายตำรวจท่านผู้ใหญ่อื่นๆอีกหลายท่าน ที่ใส่ใจและให้ความสำคัญในเรื่องนี้ หากไม่มีบุคคลเหล่านี้แล้วงานของ กต.ตร. สำหรับภาพรวมทั่วประเทศคงไม่สำเร็จลุล่วง ในส่วนของ บก.น.1 ก็นำโดย พล.ต.ต.ชัยพร พานิชอัตรา รอง ผบช.น. และ พ.ต.อ.มนต์ชัย ศรีประเสริฐ รองผบก.น.1 ที่คอยขับเคลื่อนการดำเนินการตามนโยบายของ บช.น. โดยเฉพาะนโยบายของ พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ เรื่องการติดตั้งกล้องซีซีทีวีบริเวณด้านหน้าที่พักอาศัยของ กต.ตร. การติดตั้งไฟส่งสว่างในชุมชน และการรณรงค์ให้ติดตั้งแอพพลิเคชั่น Police I lert you รวมถึงการประสานงาน ควบคุม ติดตาม และตรวจสอบ การดำเนินกิจกรรมของ กต.ตร.สน. และ บก. โดยมี กต.ตร.กทม. เป็นผู้แนะนำ และให้คำปรึกษา โดยการนำโครงการหรือการดำเนินกิจกรรมที่เกิดผลสัมฤทธิ์ที่ดีโดยภาคประชาชน มาเป็นต้นแบบปฏิบัติ เช่นโครงการชุมชนสีขาวปลอดยาเสพติด และ โครงการเยาวชนสัมพันธ์ฯ

คุณพีรวัฒน์ ย้ำว่า ผู้ที่จะมาทำหน้าที่ กต.ตร. อันดับแรกต้องมีจิตอาสา เสียสละเป็นต้นทุน มีความสุขกับการทำงานเพื่อสังคม ไม่เป็นนักธุรกิจสีเทาหรือดำ หากคิดจะมาแสวงหาผลประโยชน์จากหมวก กต.ตร.ที่สวมอยู่ อย่ามา หากเป็นนักธุรกิจต้องประสบผลสำเร็จระดับหนึ่ง เพื่อจะได้สนับสนุนงบประมาณได้อย่างไม่ขัดสนและลำบากใจ ไม่ใช่แค่สนับสนุนแค่เงิน ต้องช่วยคิด ช่วยทำ และอย่าเหมารวมว่า กต.ตร.เป็นกระเป๋าตังค์ตำรวจ เพราะงบที่สนับสนุนไม่มีใครบังคับ เต็มใจให้เพื่อสร้างประโยชน์แก่สาธารณะ มีน้อยให้น้อย มีมากให้มาก แบบที่ไม่เดือดร้อนตัวเองและผู้อื่น ซึ่งถ้าหากทุกคนคิดได้เหมือนกันแบบนี้สังคมจะน่าอยู่ยิ่งขึ้น

RELATED ARTICLES