“เหมือนมีความสุขที่ได้ช่วยคน”

นักศึกษาสาวสวยหัวใจงามแถมเคยประกวดนางงามเวทีใหญ่เข้ารอบ 10 สุดท้ายพ่วงท้ายตำแหน่ง“นางงามที่อุทิศตนเพื่อสังคม”

“เรย์ กุลธิดา พรพิชยานุรักษ์” เกิดในครอบครัวพ่อแม่ค้าขาย แต่อุทิศตนช่วยเหลือสังคมเป็นอาสามูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ทำเอาเธอซึมซับเข้าเส้นเลือดตั้งแต่วัยเด็ก เกิดที่โรงพยาบาลหัวเฉียว เริ่มเรียนที่ศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียนโรงพยาบาลทหารเรือ  แล้วย้ายเรียนประถมโรงเรียนมณีวิทยา ไปจบชั้นประถม 6  ที่โรงเรียนภาษานุสรณ์ธนบุรี

ต่อมาครอบครัวย้ายไปอยู่อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี เรียนต่อมัธยมต้นโรงเรียนนันทนวรวิทย์ มัธยมปลายโรงเรียนบางบัวทอง เธอเล่าว่า ตอนเด็กเคยฝันอยากเป็นหมออยากรักษาคน พอโตขึ้นความคิดก็เริ่มเปลี่ยน ปัจจุบันอยากเป็นนักข่าว คิดมาตอนเรียนมัธยมปลายเพราะเป็นคนชอบเดินทางเลยรู้สึกว่า อยากเป็นผู้สื่อข่าว อิสระดี ท้าทายดี ได้ไปโน่นดี

ด้วยเหตุนี้เธอจึงเลือกเรียนคณะนิเทศศาสตร์ สาขาวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์มหาวิทยาลัยรังสิต เพื่อวางแนวทางเดินตามความฝันในอนาคต ปัจจุบันอยู่ชั้นปี 2 ขณะเดียวกัน ยังใช้เวลาว่างไปทำงานเป็นอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งต่อยอดจากพ่อแม่ “ความจริงช่วยงานมานาน พออายุ 18 ปีก็เลยไปสมัครเองเต็มตัว เป็นในนามอาสาศิลปิน เขาจะให้ทำงานแค่ประชาสัมพันธ์ แต่เรย์ว่ามันน่าเบื่อ เลยลงมานั่งรถกู้ภัยประจำตามจุดรหัสศิลปิน 286”

ก่อนหน้าตั้งแต่สมัยวัยเด็ก ตัวเธอถือเป็นนักกิจกรรมตัวยงของโรงเรียน เป็นทั้งลีดเดอร์ ถือป้าย รำไทย เป็นรองดาวคณะปี 1 กระทั่งกระโดดเข้าเวทีประกวดนางงาม มีทั้ง Miss Teen Thailand 2012, Candy Teen Talent 2012, Miss Grand Thailand 2013, Miss Gossip Girl 2013 ล่าสุดประกวด Miss Thailand World 2014  ติดเป็น 1 ใน 10 คนสุดท้ายความรางวัลนางงามที่อุทิศตนเพื่อสังคม นอกจากนี้ยังมีงานการแสดง เดินแบบ ถ่ายโฆษณา มิวสิกวิดีโอ งานพิธีกรรายการ ฝากผลงานในละครเรื่องโก๊ะ 7 ของช่อง 7 สี ละครเรื่องรักนี้เพื่อเธอ รับบทมะปราง เป็นนางเอกของเรื่อง

การทำงานอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นักศึกษาสาวสวยผ่านเวทีประกวดนางงามยืนยันว่า ใช้เวลาว่างลงทำงานช่วยเหลือผู้ประสบภัยจริง ถามว่า ไม่กลัวหรือ คิดว่า ไม่มีอะไรน่ากลัว เจอคนเจ็บ เจอเลือด เจออะไร ก็ไม่กลัว บางครั้งเจอคนตาย เราก็ไม่กลัว ทั้งที่คนกลัวผีมาก แต่คิดว่า เป็นคนละส่วนกับคนตาย ความรู้สึก คือ สงสารซะอีก เป็นอารมณ์ความเห็นใจมากกว่าจะกลัว  ยอมรับว่า กลัวผี แต่ก็ไม่ได้กลัวคนตาย เพราะเขาก็เป็นเหมือนเรา แค่เขาไม่หายใจแล้ว อาจเพราะเราจำจากนั่งรถไปทำงานกับพ่อแม่ตอนยังเด็กเลยชินตา

“ที่ได้มาช่วยป่อเต็กตึ๊ง มีความรู้สึกว่า ถ้าเรย์เป็นอย่างเขาบ้าง ก็คงอยากได้รับความช่วยเหลือ เรย์เคยช่วยคน แต่ไม่เคยมีใครตาย ส่วนมากเป็นคนเจ็บ ก็ช่วยได้เยอะเหมือนกัน พ่อแม่วางมือไปแล้ว เหลือแค่เรย์ ทำคนเดียว ไปติดรถกับพวกพี่ ๆ เขา”

เจ้าของรหัสศิลปิน 286 ยืนยันว่า คงจะทำไปเรื่อยๆ ไม่รู้ว่าจะเลิกทำเมื่อไหร่ และยังไม่คิดจะเลิก อาทิตย์หนึ่งก็จะออกทำงาน 2-3 วัน เพราะเรียนหนังสือด้วย เรียนทุกวัน ถ้าว่างจะออกตอนกลางคืน 2-3 ทุ่มก็ออกแล้ว วันไหนไม่ไหวก็กลับตี 2-3 เราเป็นคนไม่เที่ยว พ่อแม่สนับสนุนเต็มที่                ถามว่า ถ้าเรียนจบแล้วไม่เข้าวงการนักแสดงหรือ ความจริงในอนาคตหลังจากเรียนจบ ก็อยากไปสอบผู้ประกาศ อยากเป็นผู้สื่อข่าว

“เรย์ไม่ได้ชอบไปเป็นดารา แต่ถ้ามีงานก็ไปได้ ไปกับกลุ่มศิลปิน มีกิจกรรมในมูลนิธิ อาทิ งานทิ้งกระจาด มีขึ้นเวทีร้องเพลง แต่เรย์จะไปแอบอยู่กับงานแจกของ แจกข้าวอยู่ข้างหลัง ที่ไม่ไปเป็นดารา คงเพราะไม่ได้ชอบทางนั้นด้วยแหละ ไม่สวยด้วย ไม่มีใครมาทาบทาม ปีการศึกษาหน้าคิดว่าคงจะไปฝึกงานที่เดอะเนชั่น ชอบข่าวอาชญากรรม เพราะเรย์ว่า มันน่าสนุกดี น่าตื่นเต้น” นักศึกษาสาวหัวใจอาสาว่า

“เหมือนมีความสุขที่ได้ช่วยคน ก็ไม่รู้เหมือนกัน เหมือนกับเราได้บุญ เหมือนทำแล้วมันสบายใจ มันปลื้มใจตัวเองที่ได้ทำ สุขในใจเรา เราได้ทำเพื่อคนอื่น และอย่างที่สอง คือ ได้เห็นคนอื่นมีความสุข เรามีความสุขไม่พอ คนอื่นก็มีความสุขด้วยอีก เรย์เลยคิดว่ามันเป็นสิ่งที่ดี ได้จากตรงนี้หลายอย่าง ทั้งมิตรภาพ เพราะว่าคนในหน่วยงาน ไม่ว่าจะหน่วยงานนี้หรือหน่วยงานไหน ถ้าเราเห็นเขาทำอย่างนี้เหมือนกัน ช่วยคนอื่นเหมือนกัน เราก็จะมองว่าเขาเป็นคนดีเหมือนกัน”

เจ้าตัวบอกอีกว่า สิ่งที่ได้จากการเป็นอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งอีกอย่าง คือเราได้ข้อคิดเตือนใจในการใช้ชีวิต มีโอกาสเจอคนป่วย คนตายตลอดเวลา ทำให้เราต้องระลึกเสมอ ชีวิตคนเรามันสั้น ต้องใช้ชีวิตอย่างมีสติ ใช้ชีวิตอย่างระมัดระวัง เพราะเราไม่รู้ว่าเราจะตายเมื่อไหร่ คือ สิ่งที่ทำตรงนี้ มันสะท้อนเราให้เรามีสติในการใช้ชีวิตมากขึ้น

นอกจากงานอาสาสมัครกู้ภัยป่อเต็กตึ๊งช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์แล้ว สาวเรย์ทำหน้าที่กู้ภัยหมาแมวอีกด้วย เด็กสาวเล่าว่า เกิดจากตอนน้ำท่วม ที่บ้านซื้อเรือเอาไว้ใช้ พอน้ำลดเลยประกาศบริจาค มีหน่วยงานกู้ภัยหมาแมวมาขอรับบริจาค คุยกันได้ทราบว่าทำมูลนิธิเหมือนกัน เขาเลยชวนว่า สนใจมาเข้าร่วมหน่วยงานกู้ภัยหมาแมวไหม ถึงคนร่วมกิจกรรมอยู่ในทีม แบ่งพื้นที่รับผิดชอบ วันไหนว่างจะออกไปช่วยหมาแมวจรจัดไปไว้ที่บ้านที่รับการช่วยเหลือ รับเลี้ยง คือต้องมีจิตใจที่รักสัตว์  คิดว่ามันโอเคนะกับการที่เราทำอะไรเพื่อคนอื่น

เธอยังสนับสนุนพระราชบัญญัติคุ้มครองสัตว์ที่เพิ่งมีผลบังคับใช้ว่า แม้จะเป็นหมาเป็นแมว มี 4 ขา แต่ก็เป็นชีวิตหนึ่ง เราลองมาคิดว่า ถ้าเรามีคนมาทำไม่ดีกับเรา มาทำร้ายเรา เราก็ไม่อยากให้มันเกิดขึ้น เพราะเราก็เจ็บเป็นเหมือนกัน หมาแมวก็เจ็บเป็น โดนตีมันยังร้องเลย มันก็เหมือนเรา  เชื่อว่า มีคนสนับสนุนเกี่ยวกับเรื่องนี้เยอะ เพราะคนรักสัตว์ก็มีเยอะ

ท้ายสุด เรย์ยกให้แม่เป็นต้นแบบการดำเนินชีวิตของเธอ “เมื่อก่อนบ้านเรย์จะฐานะไม่ดี คุณแม่เป็นเด็กต่างจังหวัด เข้ามาทำงานในกรุงเทพฯ ขยันทำงานมาก เป็นคนที่ไม่ยอมใครง่ายๆ หัวไว ไม่ยอมให้ใครมากดขี่ มาข่มเหง คุณแม่จะเป็นคนช่างสังเกต จำสิ่งที่คนอื่นทำ และนำมาปรับใช้ อย่างเมื่อก่อนเราจะเป็นลูกจ้างเขา พอตอนนี้มาก็เป็นเจ้าของธุรกิจขายวัสดุก่อสร้างเอง เหมือนคุณจำๆ มา และเอาสิ่งที่ผ่านมาในชีวิตมาใช้กับการทำงาน”

สาวอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งย้ำว่า นับเป็นความโชคดีที่มีทั้งพ่อและแม่ที่คอยสนับสนุนและส่งเสริมให้ทำในสิ่งที่รัก ยิ่งเรื่องการประกวดนางงาม การทำงานระหว่างเรียน พ่อแม่ไม่เคยบังคับอะไร  พ่อแม่จะสนับสนุนมากกว่าว่า ชอบอะไรก็ไปทำ ถ้าไม่ลองทำดู หรือไม่ลองเสี่ยงดู โอกาสที่จะประสบความสำเร็จก็ไม่มี แต่ว่า ถ้าเราลองดู มันก็ยังมีโอกาสอยู่ สักครึ่งหนึ่งที่เราจะประสบความสำเร็จ ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตาม ทั้งเรื่องเรียน กิจกรรม การทำงาน พ่อแม่จะสนับสนุนหมด

 

 

 

 

RELATED ARTICLES