พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผู้บัญญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด สั่งการให้ พ.ต.อ.อดิศ เจริญสวัสดิ์ รองผู้บังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 3 พ.ต.อ.ธีระ ทองระยับ รองผู้บังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 3 พ.ต.อ.สุรพล ขาวคม รองผู้บังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 3 พ.ต.อ.อาทร ชิ้นทอง รองผู้บังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 3 พ.ต.อ.กฤษณ์ มณีรมย์ ผู้กำกับการ 1 กองบังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 3 พ.ต.ต.รัฐกิจ ทองน้อย สารวัตรกองกำกับการ 1 กองบังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 3 หัวหน้าหน่วยปราบปรามยาเสพตืดสุวรรณภูมิ พร้อมด้วย พ.ต.ต.ชาตรี ดีทองอ่อน สารวัตรกองกำกับการ 1 กองบังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 3 ร่วมกับหน่วยสกัดกั้นยาเสพติดท่าอากาศยาน ตรวจยึดยาเสพติดไอซ์ 236 กรัม บรรจุซุกซ่อนในขวดครีมนวดผม กำลังจะส่งไปประเทศนิวซีแลนด์ได้ที่จุดรับฝากศูนย์กระจายสินค้าดอนเมือง บริษัทขนส่งพัสดุระหว่างประเทศ แขวงสนามบิน เขตดอนเมือง กรุงเทพมหานคร
วันเดียวกัน ขณะที่ชุดปฏิบัติการกำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่ช่องทางออก C ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ตำบลราชาเทวะ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ได้ร่วมกันตรวจพบ นายฮาบิบ จาฟารี กวาลาละ อายุ 45 ปี ชาวแทนซาเนีย เดินทางเข้าประเทศไทยโดยสายการบินเอธิโอเปียแอร์ไลน์จากเมืองแอดดิสอาบาบา ท่าทางพิรุธน่าสงสัย จากการตรวจด้วยเครื่องตรวจพบสิ่งแปลกปลอมภายในช่องท้องเชื่อว่าเป็นยาเสพติด นำตัวไปสอบสวนหลังให้ขับถ่ายออกมา พบเป็นก้อนบรรจุโคเคน 53 ก้อน น้ำหนัก 865 กรัม จึงร่วมกันจับกุมส่งสถานีตำรวจภูธรท่าอากาศยานสุวรรณภูมิดำเนินคดีต่อไป
ทั้งนี้ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันปราบปรามยาเสพติด สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และพล.ต.ท.ธนา ชูวงศ์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะรองผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันปราบปรามยาเสพติด สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้นโยบายกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด สืบสวนสกัดกั้นขบวนการค้ายาเสพติดที่ลักลอบนำเข้ามาในประเทศและส่งยาเสพติดไปให้ลูกค้าในต่างประเทศ ใช้ช่องทางของระบบขนส่งสินค้าทางอากาศระหว่างประเทศให้เป็นรูปธรรมอย่างต่อเนื่อง เชิญนายเฮอร์เบิต วงศ์ภูษณชัย กรรมการผู้จัดการบริษัท DHL(ประเทศไทย) จำกัด บริษัทขนส่งสินค้าทางอากาศและทางน้ำระหว่างประเทศ พร้อมคณะ มาหารือความร่วมมือแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร การให้ความร่วมมือในด้านเครื่องมือ อุปกรณ์และเทคโนโลยีในการตรวจจับและสกัดกั้นการซุกซ่อนยาเสพติดมาในระบบขนส่งสินค้า รวมทั้งหารือแนวทางการทำงานร่วมกันในระยะยาวต่อไป
ทั้งสองหน่วยได้ร่วมกันตรวจจับการลักลอบนำยาเสพติดซุกซ่อนในพัสดุที่ส่งออกไปต่างประเทศ ผ่านระบบขนส่งของ DHL ใช้เครื่องมือตรวจจับยาเสพติดที่ทันสมัยตรวจจับยาเสพติดที่ซุกซ่อนอยู่ในพัสดุประเภทต่างๆได้อยู่เสมอ เช่น ยาเสพติดซุกซ่อนอยู่ในซองกาแฟกึ่งสำเร็จรูป ในซองบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ซุกซ่อนในเสื้อผ้า ซุกซ่อนในกล่องเครื่องใช้ไฟฟ้า เป็นต้น ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2564 – ปัจจุบัน จับกุมยาเสพติดที่ซุกซ่อนมาในพัสดุที่นำเข้าและส่งไปยังต่างประเทศได้อย่างต่อเนื่อง มียาเสพติดที่ตรวจยึด ได้แก่ ไอซ์ 1,472,420 กรัม โคเคน 36,031 กรัม คีตามีน 33,273 กรัม เฮโรอีน 2,660 กรัม ยาบ้า 156,049 เม็ด ยาอี 2,900 เม็ด ฝิ่น 16 กรัม ทั้งนี้เกิดจากความร่วมมือกันระหว่างกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติดและบริษัทขนส่ง DHL ทำให้สืบสวนติดตามจับกุมผู้ส่งยาเสพติดซุกซ่อนในพัสดุได้ 22 คน พร้อมต่อยอดประสานความร่วมมือเพื่อเพิ่มความเข้มในการสกัดกั้นการลักลอบส่งยาเสพติดผ่านระบบขนส่งต่อไป
