ระเบิดความอึดอัดผ่านโลกโซเชียลอีกแล้ว
พนักงานสอบสวนนครบาลครวญเรื่องราวที่ประสบมา
สืบเนื่องจากการเร่งรัดให้ความสำคัญกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เขาอยู่ในส่วนของเมืองหลวง ขออนุญาตใช้คำเลี่ยงตำแหน่งตรง ๆ ระบุว่า มี “รองสมุหพระนครบาล” ฝ่ายการสอบสวน ได้ตอบสนองนโยบายของส่วนกลางดีมากจนถึงขั้นมาเร่งรัดลูกน้องทั่วพระนครอย่างโกลาหล
การประชุมเร่งรัดคดีออนไลน์จากเดิมประชุมเดือนละครั้ง มาตอนนี้ประชุมเดือนละสองครั้ง เป็นรายปักษ์ แต่มาปัจจุบันนี้ประชุมทุกสัปดาห์ เป็นการประชุมที่ไม่เกิดประโยชน์อันใดนอกจากการถ่ายทอดคำสั่งการ และคำขู่เข็ญคาดโทษต่าง ๆนานา
ไม่มีการสร้างขวัญกำลังใจ ช่วยสนับสนุนการทำงานให้แก่ชาวพนักงานสอบสวนทั่วพระนครเลย
ในการประชุมครั้งก่อน มีการบังคับให้ชาวพนักงานแต่ละสาขาต้องใช้ระบบ support ที่ศูนย์ปฏิบัติการพิเศษของสาขาใหญ่สร้างขึ้น ทั้ง ๆที่ส่วนกลางไม่ได้จะมาบังคับให้ใช้แต่อย่างใด
ชาวพนักงานทั่วพระนครต่างได้นำเรียนถึงปัญหา ความล่าช้า ไม่สัมฤทธิ์ผลของระบบ support ที่อ้างว่าสามารถประสานงานกับธนาคารภายนอกได้อย่างรวดเร็ว ให้กับ “รองสมุหพระนครบาล” ทราบแล้ว แต่ยัง “ดื้อดึง” ทะนงว่าระบบนั้นดีเลิศแล้ว ถ้ามันใช้ไม่ได้จริง ส่วนกลางก็ต้องรับผิดชอบ
ท่านรองสมุหพูดได้ว่า ส่วนกลางต้องรับผิดชอบ แต่ถ้าสำนวนคดีไปต่อไม่ได้ พวกท่านเหล่านั้นมารับผิดชอบไหมก็ไม่มี และแถมเอกสารที่ได้จากระบบ support ก็ใช้งานจริงในสำนวนอ้างขึ้นศาลไม่ได้ กลายเป็นว่า ต้องมาทำเอกสารทั้งถึงธนาคารโดยตรงเป็นกระดาษ(อันนี้ชาวพนักงานใช้คาดหวังจริงในสำนวน) และส่งเข้าในระบบ support ตามนโยบายของผู้บังคับบัญชาอีก คือ ท่านรองสมุหจะสนองนโยบายส่วนกลางโดยไม่ดูถึงความเป็นจริงที่ชาวพนักงานประสบเลย
นอกจากนี้ การประชุมทุกครั้ง แม้ว่าส่วนกลางจะนำเสนอโฆษณาความทันสมัยของเว็บรับแจ้งความที่อ้างว่าสามารถดูกระดานสถานะสถิติปัจจุบันได้อย่างแม่นยำ แต่กลับมาสั่งการให้แต่ละสาขาย่อยทำตารางใส่ข้อมูล ก็เอามาจากเว็บนั้นล่ะ (ดูในกระดานสถานะสถิติก็ได้) เอามากรอกใส่ตาราง เพื่อใช้นำเสนอในการประชุมอีก
การกระทำที่ซ้ำซ้อนอันสนองมาจากนโยบายผู้บังคับบัญชาเหล่านี้ เป็นสิ่งที่ถ่วงดุลแรงกาย แรงใจ เวลา ในการทำงานของชาวพนักงานอย่างยิ่ง แทนที่จะเอาเวลาไปทำสำนวนแบบเต็มรูปแบบกลับต้องมาเตรียมข้อมูลเสนอ ทั้ง ๆที่ข้อมูลเหล่านั้นมันเปิดดูในเว็บก็ได้แล้วแต่ไม่ทำ
กิจกรรม “ไร้สาระ” บั่นทอนเหล่านี้มันยิ่งหนักขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อไหร่หนอที่มันจะจบสิ้น ชาวพนักงานจะได้ไปรบกับมิจฉาชีพให้เต็มมือเสียที ไม่ใช่ต้องมาคอยสนองนโยบายที่ “ไร้สาระ” ของผู้บังคับบัญชาเหล่านี้
ที่พิมพ์มาทั้งหมดนี้ ขออนุญาตให้เป็นกระบอกเสียง ส่งเสียงให้ถึงบรรดาท่านๆที่อยู่บน “หอคอยงาช้าง” เหล่านั้นด้วยนะครับว่า “เบื้องล่าง” เดือดร้อนกับนโยบายการทำงานซ้ำซ้อนของท่านๆทั้งหลายมากเพียงใด
ถ้าอยากให้การปราบปราม สืบสวน สอบสวน คดีออนไลน์มีประสิทธิภาพ ควรให้เลิกทำเรื่อง “ไร้สาระ” แล้วหันไปดีลกับหน่วยงานข้างเคียง เช่น ธนาคารชาติ ธนาคารพาณิชย์ต่าง ๆ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ กระทรวงดิจิตัล ในการหาความร่วมมือสนับสนุนข้อมูล ที่ให้อำนาจไปถึงหน่วยงานย่อยให้สามารถสนับสนุนตำรวจท้องที่ให้รวดเร็วโดยพลัน
มิใช่ให้ไปกระจุกช่องรวมที่สำนักงานใหญ่เหมือนที่ระบบ support ที่ถูกสร้างขึ้นทำ
หวังว่าข้อมูลที่พิมพ์มานี้ทั้งหมดจะเป็นประโยชน์ต่ออาชีพ องค์กร และประชาชนอย่างแท้จริง