พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง สั่งการ พล.ต.ต.มานะ กลีบสัตบุศย์ ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พ.ต.อ.อรุณ วชิรศรีสุกันยา รองผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พ.ต.อ.วิศิษฏ์ พลบม่วง ผู้กำกับการ 1 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พ.ต.อ.วิญญู แจ่มใส ผู้กำกับการ 2 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พ.ต.อ.วันพิชิต วัฒนศักดิ์มณฑา ผู้กำกับการ 6 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พ.ต.ท.เอกพล ปัญจมานนท์ สารวัตรกองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ประสาน พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผู้บังคับการปราบปราม นำกำลัง พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น ผู้กำกับการ 2 กองบังคับการปราบปราม พ.ต.ต.ธานุพันธ์ สุระสะ สารวัตรกองกำกับการ 2 กองบังคับการปราบปราม และหน่วยงานคุ้มครองสัตว์ป่าของสหรัฐอเมริกา จับกุม นายบุน ชิง เตา อายุ 58 ปี ชาวมาเลเซีย ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 391/2565 ลง 29 มิถุนายน 2565 ข้อหา “สมคบคิดร่วมกันกระทำความผิดค้าสัตว์ป่า สนับสนุนการฟอกเงินและอำพรางการฟอกเงิน” ได้ที่โรงแรมเอสซี ปาร์ค แขวงและเขตวังทองหลาง กรุงเทพมหานคร
สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้รับประสานข้อมูลจากทางหน่วยงานคุ้มครองสัตว์ป่าของสหรัฐอเมริกาว่า นายบุน ชิง เตา ผู้ต้องหารายนี้เป็นตัวการสำคัญระดับเจ้าพ่อของขบวนการค้าซากสัตว์ป่าคุ้มครองหรือสัตว์ป่าสงวนเครือข่ายใหญ่ระดับโลก เชื่อมโยงกับขบวนการลักลอบค้านอแรด งาช้าง และสัตว์ป่าหายากแอฟฟริกาข้ามชาติอีกมากมาย รวมถึงยังเป็นหัวใจสำคัญที่คอยทำหน้าที่ฟอกเงินให้กับขบวนการค้าสัตว์ป่าต่างๆทั่วโลก กลายเป็นเป้าหมายรายสำคัญของทางการสหรัฐอเมริกาที่ต้องการตัว แต่เนื่องจากนายบัน ชิง เตา มักไม่มีที่อยู่อาศัยเป็นหลักแหล่ง เดินทางไปประเทศต่างๆทั่วโลกตลอดเวลาเวลา โดยเฉพาะในพื้นที่แถบทวีปแอฟริกา ยากต่อการติดตามตัว กระทั่งทราบเบาะแสว่าเจ้าตัวได้เดินทางเข้ามาในพื้นที่ประเทศไทยเพื่อติดต่อธุรกิจบางอย่าง จึงร่วมกันวางแผนสืบหาเบาะแสจนสามารถตามจับกุมตัว
สอบสวนนาย บุน ชิง เตา ให้การปฏิเสธ อ้างไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการดังกล่าว และการเดินทางเข้ามาภายในประเทศไทยเพื่อมาเจรจาติดต่อเรื่องธุรกิจน้ำมันกัญชา ส่วนที่ต้องเดินทางเข้าออกพื้นที่แอฟริกาบ่อยครั้งเป็นการไปเที่ยวพักผ่อนเพียงเท่านั้น แต่เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ เนื่องจากตรวจสอบประวัติพบว่า เมื่อปี 2558 นายบุน ชิง เตา เคยถูกตำรวจไทยจับกุมตัวหลังพบพยานหลักฐานว่าเป็นนายทุนคนสำคัญติดต่อซื้องาช้างมาจากทวีปแอฟริกา และนำงาช้างดังกล่าวเข้ามาในประเทศไทยผ่านทางอำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา ให้กลุ่มผู้ร่วมขบวนการนำไปส่งต่อลูกค้าในพื้นที่ประเทศไทย เบื้องต้นจึงนำตัวส่ง อัยการสูงสุด ดำเนินการตามขั้นตอนส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนกลับไปดำเนินคดีที่สหรัฐอเมริกาต่อไป
