ที่กองบังคับการปราบปราม พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมด้วย พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ รองผู้บังคับการปราบปราม พ.ต.อ.ปทักข์ ขวัญนา ผู้กำกับการ 4 กองบังคับการปราบปราม พ.ต.ท.เอกสิทธิ์ ปานสีทา รองผู้กำกับการ 4 กองบังคับการปราบปราม แถลงผลจับกุม นายคำดี ร่มทอง อายุ 35 ปี ที่บ้านพักในตำบลดอนจิก อำเภอพิบูลมังสาหาร จังหวัดอุบลราชธานี ตามหมายจับศาลอาญาที่ จ.1507/2565 ลงวันที่ 27 กรกฎาคม 2565 ข้อหา “กรรโชกทรัพย์, รีดเอาทรัพย์และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูล คอมพิวเตอร์ใดๆ ที่มีลักษณะอันลามก” พร้อมของกลาง โทรศัพท์มือถือ 5 เครื่อ ซิมการ์ด 7 อัน บัตรเอทีเอ็ม ธนาคารกสิกรไทย 1 ใบ
สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้มีข่าวอดีตนักการเมืองท้องถิ่นรายหนึ่งในจังหวัดเพชรบูรณ์เสียชีวิตโดยการผูกคอฆ่าตัวตาย ทางญาติติดใจสาเหตุเข้าร้องเรียนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามตรวจสอบหาข้อเท็จจริงหาเบาะแสจนพบโทรศัพท์มือถือของผู้ตายที่บริเวณบ่อปฏิกูลข้างบ้าน จากการตรวจสอบโทรศัพท์พบผู้ตายได้ติดต่อกับผู้ต้องสงสัยรายหนึ่งให้ลบคลิปลับของผู้ตาย และมีการโอนเงินไปยังบัญชีธนาคารหนึ่งอยู่ตลอด เจ้าหน้าที่รสืบสวนทราบว่าคนร้ายใช้วิธีสร้างบัญชีเฟซบุ๊กปลอม ใช้ภาพหญิงสาวหน้าตาดีเป็นภาพโปรไฟล์ ไปพูดคุยกับเหยื่อเชิงชู้สาว หลอกให้เหยื่อวิดีโอคอล ในลักษณะอนาจาร แล้วนำคลิปมาข่มขู่ผู้เสียหาย สร้างบัญชีเฟซบุ๊กปลอมขึ้นมาอีกบัญชี ทักไปหาผู้เสียหายอ้างว่า พบคลิปหลุดอยู่ในทวิตเตอร์ แอบอ้างว่ารู้จักกับเจ้าหน้าที่ หรือช่างที่สามารถลบคลิปได้ แล้วใช้บัญชีเฟซบุ๊กปลอมอีกบัญชี ปลอมเป็นเจ้าหน้าที่ หรือช่าง หลอกว่าสามารถลบคลิปได้โดย 3 วิธี ประกอบด้วย อัดคลิปเปลือยกายในลักษณะเดิมเพื่อใช้อัพโหลดทับคลิปเก่า จ้างตัดต่อคลิปให้มีลักษณะคล้ายกับคลิปเดิม และใช้การปล่อยไวรัสเข้าไปลบคลิปซึ่งมีค่าดำเนินการซื้อไวรัส
คนร้ายข่มขู่จะให้เหยื่อโอนค่าดำเนินการครั้งละ 300-15,000 บาท เว้นช่วงก่อนติดต่อไปเรียกเงินเหยื่อเพิ่มเติม เหยื่อบางรายต้องจ่ายเงินต่อเนื่องเป็นเวลากว่า 3 ปี จากการตรวจสอบข้อมูลบัญชีธนาคารของคนร้าย พบว่าในห้วงระยะเวลา 3 เดือนล่าสุด มีเงินเข้าบัญชีประมาณ 460,000 บาท ส่วนเหยื่อรายที่เสียชีวิตนั้น คนร้ายหลอกเอารหัสเฟซบุ๊กของผู้ตาย ข่มขู่ให้ผู้ตายวิดีโอคอลเปลือยกาย เรียกเงินเป็นค่าดำเนินการลบคลิปเป็นเวลากว่า 2 ปี เป็นจำนวนเงินกว่า 200,000 บาท เมื่อผู้ตายไม่ยอมทำตาม คนร้ายส่งคลิปเปลือยของผู้ตายไปให้กับเพื่อนผู้ตายในเฟซบุ๊กกว่า 20 คน ทำให้ผู้ตายเกิดความเครีย ก่อเหตุสลดดังกล่าว เจ้าหน้าที่รวบรวมพยานหลักฐานจนทราบว่าคนร้ายคือ นายคำดี ผู้ต้องหารายนี้จึงขออนุมัติศาลอาญาออกหมายจับไปคุมตัวพร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือ 5 เครื่อง มีคลิปเปลือยกว่า 1,000 คลิป และมีประวัติการสนทนากับเหยื่อกว่า 10 คน
จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ก่อเหตุดังกล่าวจริง ที่ผ่านมาประกอบอาชีพพนักงานรักษาความปลอดภัย และพนักงานล้างรถ มีความรู้ด้านคอมพิวเตอร์ เลือกเป้าหมายเป็นชายที่ค่อนข้างมีอายุ และยังมีเหยื่ออีกประมาณ 3 รายเป็นข้าราชการ ส่วนเงินที่ได้จากการกระทำความผิดนั้นเอาไปใช้เล่นการพนันออนไลน์ นอกจากนี้ ผู้ต้องหายังเคยถูกดำเนินคดีที่สถานีตำรวจภูธรตระการพืชผล จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อประมาณ 2 ปีที่ผ่านมาในคดีลักษณะเดียวกันอีกด้วย
