“ปัจจุบันทำงานเกี่ยวกับการดูและระบบส่งข่าวของสถานีโทรทัศน์แห่งหนึ่ง เมื่อก่อนเคยคิดว่างานแบบนี้ยากมาก กลัว และจะหนีห่างทุกครั้ง แต่เมื่อได้มาเรียนรู้และลงมือทำก็ได้รู้ว่าไม่ได้ยากอย่างที่คิด เพียงแค่ต้องตั้งใจฝึกฝนมากกว่าปกติ เพราะเป็นคนที่ไม่มีพื้นฐานทางด้านเทคโนโลยีเลย ค่อยๆปรับมาเรื่อย ๆจนตอนนี้ก็ทำมาเกือบ 8 ปีแล้ว สนุกมากๆนะ ได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆอยู่ตลอด ตื่นเต้นกับความล้ำของเทคโนโลยีใหม่ๆเสมอ อาจมีงงบ้างในบางครั้งเพราะรายละเอียดของงานค่อนข้างเยอะ แต่ก็ตั้งใจที่จะเรียนรู้มัน และได้พี่ ๆในแผนกคอยให้คำปรึกษาแนะนำ ทำให้สามารถทำงานออกมาจนสำเร็จได้ แต่ในบางครั้งก็มีผิดพลาดบ้าง ก็แค่ยอมรับ ขอโทษในสิ่งที่เราทำผิดไป และแก้ไขทำให้มันถูกต้อง ความผิดพลาดมันทำให้เรียนรู้และโตขึ้นในอีกระดับ” คุณกิ๊ฟ –เกษอนงค์ พิพัฒน์เพิ่มพูน พนักงานสาวดูแลระบบส่งข่าว ของสถานีโทรทัศน์ เกริ่นถึงการทำงานอย่างอารมณ์ดี
สาวสมัยใหม่อัธยาศัยดีคนนี้จบมัธยมต้นจากโรงเรียนเมืองปราณบุรี ประจวบคีรีขันธ์จบมัธยมปลายจากโรงเรียนหัวหิน สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยกรุงเทพ คณะมนุษยศาสตร์ เอกภาษาไทย ดีกรีเกียรตินิยมอันดับ 2 เหตุผลที่เลือกงานนี้ เธอบอกว่า ไม่ได้อยากจะทำงานนี้แต่แรก เป็นความโชคดีและโอกาสมากกว่า เพราะมีพี่ๆที่เคยฝึกงานด้วยชักชวนมาให้ลองทำ เพราะขาดคนพอดี เห็นว่าพี่ๆ ไว้ใจ อยากให้มาทำ เลยลองทำดูก็ได้ เป็นที่มาที่ได้มาทำงานนี้จากความกลัวกลายมาเป็นชอบ
คุณกิ๊ฟมีคติประจำใจ คือ ทำวันนี้ให้ดีที่สุด คิดว่า คนเราควรอยู่กับปัจจุบัน อะไรที่มันผ่านไปแล้ว ถือ เป็นบทเรียน พอวันใหม่เราแค่เริ่มทำวันนี้ให้ดีที่สุดก็พอจะได้ไม่ต้องมานั่งเสียใจภายหลังว่า รู้งี้ทำแบบนั้นดีกว่า รู้งี้ทำแบบนี้ดีกว่า ส่วนข้อคิดในการทำงาน ไม่หยุดที่จะพัฒนาตัวเอง ต้องบอกก่อนว่า มาทำงานเกี่ยวกับระบบส่งข่าว เริ่มต้นจากศูนย์เลยไม่มีพื้นฐานมาก่อน อาศัยเรียนรู้จากพี่ๆตอนฝึกงาน และพี่ๆในแผนก จนสามารถดูแลระบบได้ด้วยตัวเอง แต่ก็ยังไม่ได้เก่งมากเท่าไหร่ เพราะยังต้องพัฒนาตัวเองต่อไปให้เก่งขึ้นให้ทันพี่ๆในแผนก ดังนั้นการไม่หยุดพัฒนาตัวเอง เป็นคติในการทำงานของเรา
“ไอดอลของกิ๊ฟ คือ เตี่ยหนูเองค่ะ เตี่ยเป็นคนที่ขยันทำงานมากที่สุดในโลก ไม่เที่ยว ไม่ดื่ม และไม่มีหนี้ ตั้งใจทำงานตื่นตั้งแต่เช้ามืดกว่าจะกลับเข้าบ้านก็ 3-4 โมงเย็น เตี่ยสามารถเก็บเงินปลูกบ้านเองได้โดยที่ไม่ต้องกู้ธนาคาร ที่บ้านพื้นฐานไม่ได้เป็นคนรวย แต่เตี่ยขยันทำงานเก็บเงินมาตั้งแต่หนูยังไม่เกิด จนทุกวันนี้ ยังขยันทำงานเก็บเงินอยู่เหมือนเดิม มีเงินส่งเสียหนูกับพี่สาวได้เรียนกันจนจบป.ตรี ทุกวันนี้หนูบอกให้หยุดทำเดี๋ยวหนูเลี้ยงเองก็ยังไม่ยอมหยุด ขยันสุดๆ สงสัยจะชอบมีตังค์เยอะๆ หนูก็พยายามเดินตามรอยนะคะ ถึงแม้ว่าจะยังทำไม่ได้เท่าที่เตี่ยเป็น และยังสอนให้หนูรู้จักใช้เงินให้เหมาะสม ไม่ใช้จ่ายฟุ่มเฟือยเกินตัว หนูก็พยายามเก็บเงินเผื่อวันหนึ่งที่เราอยากจะได้อะไรก็จะได้ซื้อเลย ไม่ต้องไปกู้หนี้ยืมสินให้เป็นภาระตัวเอง ” คุณกิ๊ฟ พูดด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
เธอบอกอีกว่า จริงๆเป็นคนไม่ค่อยมีปัญหาอะไรเท่าไหร่ แถ้ามีปัญหาจะนอยด์ก่อนเลยเป็นอันดับแรก จากนั้นจะตั้งสติคิดหาวิธีว่าจะแก้ไขมันยังไง ถ้าเกิดเรื่องแบบนี้ต้องทำยังไง อย่างแรก หาคนที่ไว้ใจได้ที่สุดบอกเล่าปัญหาที่เกิดขึ้น ขอคำแนะนำจากเขาว่า ควรทำอย่างไรดี จะหาคนที่รับฟัง 2-3 คน และนำคำแนะนำของเขาเหล่านั้นมาพิจารณาปรับใช้ให้เหมาะกับเราที่สุด ปัญหาบางอย่างไม่สามารถแก้ได้ด้วยเวลาระยะสั้น บางอย่างต้องรอให้เวลาเป็นตัวช่วยในการแก้ปัญหา บางอย่างที่เราคิดว่าเป็นปัญหาจริง ๆมันอาจไม่ใช่ปัญหาก็ได้ เพราะบางอย่างเราไม่เคยเจอเราก็จะจับต้นชนปลายไม่ถูก แต่พอเวลาผ่านไปลองนึกย้อนดูว่าจริง ๆมันก็ไม่ใช่ปัญหา หรือเป็นปัญหาเล็ก ๆที่ไม่แก้ก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าแก้ได้มันก็ดี
“สำหรับการให้กำลังใจตัวเองก็คือ จะไปยืนอยู่หน้ากระจก แล้วก็คุยกับตัวเองในกระจกว่า ไม่เป็นไรนะ หนูเก่งจะตาย เดี๋ยวหนูก็จะผ่านมันไปได้ เรื่องแค่นี้เอง เรื่องใหญ่กว่านี้เรายังผ่านมาได้เลย แล้วทำไมแค่นี้เราจะผ่านไปไม่ได้ พรุ่งนี้จะต้องดีกว่านี้แน่ ๆ แล้วก็ยิ้มให้ตัวเองในกระจก ” เจ้าตัวแนะเคล็ดที่ไม่ลับในการให้กำลังใจตัวเอง
คุณกิ๊ฟยังมีมุมมองเกี่ยวกับผู้หญิงสวยและเก่งว่า ความสวยของผู้หญิงไม่ได้อยู่ที่รูปลักษณ์ภายนอกอย่างเดียว แต่ควรออกมาจากภายในสู่ภายนอกมากกว่า หมายถึงว่า ผู้หญิงจะสวยสวยได้ที่ความคิด ทัศนคติ จริงอยู่ว่าเรื่องรูปลักษณ์เป็นส่วนหนึ่งอยู่แล้ว แต่ในเรื่องของความคิด ทัศนคติ จะทำให้ผู้หญิงสวยยิ่งขึ้นไปอีกหลายร้อยเท่า อีกอย่างที่ทำให้ผู้หญิงสวยก็คือ เสน่ห์ แต่ละคนก็แตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็นรอยยิ้ม การพูดจา บุคลิกภาพ ถ้าคนภายนอกมองไปที่ผู้หญิงเหล่านั้นก็จะสัมผัสได้เองแบบธรรมชาติ เสน่ห์ไม่ใช่สิ่งที่ปรุงที่แต่งขึ้นมา แต่มีติดตัวมาในทุก ๆคน อยู่ที่ว่าทุกคนจะทราบไหมว่าเสน่ห์ของตัวเองคือ อะไร
“สำหรับผู้หญิงเก่งในความคิดของหนู คือ ผู้หญิงที่รู้จักจัดการชีวิตของตัวเองได้เป็นอย่างดี พึ่งพาตัวเองได้โดยไม่ต้องขอความช่วยเหลือจากใครบ่อย ๆ ผู้หญิงเก่งจะต้องมีทั้งความเป็นผู้นำ และผู้ตามที่ดีด้วย เข้าใจโลกเข้าใจชีวิตว่า ควรจะเป็นไปอย่างไร มีความเข้มแข็งและแข็งแกร่งแต่ไม่ใช่การแข็งกระด้าง อ่อนแอได้แต่ก็สู้ได้เช่นกัน”
ส่วนเป้าหมายในชีวิต เธอว่า ประสบความสำเร็จแล้ว เพราะมีงานทำ มีเงินเดือน มีบ้าน มีรถ อาจจะไม่ได้มีมากมายเหมือนคนอื่น แต่พอใจกับสิ่งที่มี ที่หามาด้วยน้ำพักน้ำแรงของตัวเอง จริง ๆเป็นคนไม่ค่อยคิดถึงอนาคตเท่าไหร่ใช้ชีวิตไปวันๆ พอมาอายุขึ้นเลข 3 ก็แอบมีคิดบ้างว่า อนาคตต่อไปจะเป็นยังไง คิดไว้ว่าอนาคตอันใกล้นี้อาจจะลาออกจากงานที่ทำ เพื่อกลับไปสานต่อกิจการของที่บ้าน เพราะตอนนี้พ่อกับแม่ก็อายุเยอะขึ้นแล้ว ก็ไม่อยากให้กิจการที่บ้านต้องหยุดลงด้วย
“อาจจะกลับไปสานต่อและพัฒนากิจการที่มีให้ดีขึ้น เพื่อที่พ่อแม่ของหนูก็จะได้เกษียณตัวเองและใช้ชีวิตที่สบายๆบ้าง อีกอย่างก็คือหนูจะได้กลับไปอยู่ดูแลพ่อกับแม่ด้วย อยากให้พวกท่านได้ใช้ชีวิตสบายๆ ไปเที่ยวเล่นเหมือนกับคนอื่นเขาบ้าง พวกท่านทำงานมาทั้งชีวิต หนูก็เลยอยากจะตอบแทนพวกท่านบ้าง”
ทิ้งท้าย คุณกิ๊ฟอธิบายถึงความแตกต่างของหญิงในยุคปัจจุบันกับอดีตว่า คิดว่าต่างนะคะ เพราะผู้หญิงในยุคก่อนอาจจะต้องเรียบร้อยเหมือนผ้าพับไว้ ไม่มีสิทธิที่จะคิดหรือทำอะไรตามใจตัวเองได้ ไม่มีความมั่นใจในตัวเอง ไม่กล้าตัดสินใจ ไม่มีปากไม่มีเสียงที่จะคิดหรือทำอะไรด้วยตัวเอง ต้องเป็นช้างเท้าหลังตลอดเวลา ต้องคอยฟังคำสั่งจากผู้ชาย หากทำอะไรเกินหน้าเกินตาผู้ชายก็อาจจะโดนตำหนิ ต้องให้ผู้ชายเป็นผู้นำตลอดส่วนตัวเองต้องเป็นผู้ตามอยู่เสมอ
“เวลาผ่านไป ยุคสมัยก็เปลี่ยน ทำให้ผู้หญิงมีความมั่นใจในตัวเองมากขึ้น กล้าคิด กล้าตัดสินใจ บางครั้งก็สามารถเป็นช้างเท้าหน้าให้กับครอบครัวด้วย ผู้หญิงและผู้ชายมีความเท่าเทียมกันมากขึ้น ผู้หญิงสามารถทำอะไรก็ได้ที่เหมือนกับที่ผู้ชายทำ ทั้งการทำงานหาเงินมาเลี้ยงดูตัวเอง การซื้อของ การตัดสินใจในเรื่องสำคัญๆ โดยที่ไม่ต้องรอให้ใครมาสั่งหรือบังคับ”