สูญเสียพ่อบังเกิดเกล้าตั้งแต่ตัวเองยังเรียนอยู่ชั้น ป.6
“ปุ๊” รังสินันท์ จันทร์เพชร ลูกสาว พ.ต.อ.สมบูรณ์ จันทร์เพชร อดีตตำรวจตงฉินแห่งโรงพักท่าศาลา นครศรีธรรมราช ที่ปัจจุบันเลือกมาเป็นตำรวจตามรอยเท้าพ่อ อยู่ระหว่างอบรมเพื่อเป็นนายตำรวจสัญญาบัตร
หลังก่อนหน้าติดยศ ส.ต.ท.หญิง ตำแหน่ง ผบ.หมู่ งานธุรการฝ่ายอำนวยการ 1 กองบังคับการอำนวยการ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง
วัยเด็กเธอเรียนจบเบญจมราชูทิศ นครศรีธรรมราช ก่อนไปต่อปริญญาตรี คณะการจัดการทั่วไป มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต ตอนเรียนไม่อยากให้แม่รับภาระมาก เพราะบ้านไม่มีธุรกิจเลยไปหารายได้เสริมเป็นพนักงานเสิร์ฟอยู่ร้านพิซซ่า ดันไปเข้าตาโมเดลลิ่งชวนไปทำงานพริตตี้
“ทำไปทำมารู้สึกว่ารายได้น้อย ไม่คุ้ม คิดว่า ทำไมไม่เป็นพิธีกรรับงานเปิดตัวสินค้า เลยเปลี่ยนจากพริตตี้ไปรับงานพิธีกรแทน ประกอบกับอยากทำงานประชาสัมพันธ์อยู่แล้ว” เธอบอก
แต่พอเธอจบปริญญาตรี แม่กลับอยากให้เป็นตำรวจ ถ้าไม่อย่างนั้นจะไม่คุยด้วย ใช้สิทธิโครงการทายาทเป็นแทนบิดาที่เสียชีวิตในระหว่างปฏิบัติหน้าที่ หลังพี่สาวคนโตปฏิเสธ เธอเลยต้องเอาสิทธินั้นมาใช้แทนบรรจุลงเป็นผู้บังคับหมู่ อยู่งานกำลังพลของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผ่านไป 5 ปี ขอสมัครสอบย้ายมาสังกัดสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และพยายามสอบเป็นนายตำรวจชั้นสัญญาบัตรมาตลอด เพิ่งสมหวังเมื่อกลางปี 2554 ที่เปิดรับชั้นประทวนที่มีวุฒิปริญญาตรีสอบเป็นสัญญาบัตร อยู่ระหว่างรออบรม
“หากไม่ได้เป็นตำรวจคงทำงานท่องเที่ยว ประชาสัมพันธ์ งานโรงแรมมากกว่า เพราะชอบงานบริการอยู่ก่อนแล้ว ตอนแรกก็ไม่ชอบเป็นตำรวจ แต่เพราะพี่สาวไม่อยากเป็น พี่ไม่ชอบมากกว่า เนื่องจากเห็นว่างานตำรวจต้องทำตามคำสั่ง เป็นงานราชการ มองว่า อยากมีไอเดียเป็นของตัวเอง ไม่อยากให้ใครมาสั่งเลยขอสละสิทธิ์ให้น้องสาว คิดว่าเราจะเหมาะมากกว่า หนูก็เลยต้องเป็น”
ปุ๊เล่าว่า สมัยเด็กคลุกคลีกับพ่อมาก รู้ว่าพ่อตงฉินเกินไป เป็นคนค่อนข้างกวดขัน มีระเบียบวินัย มีแบบแผน และมักจะนำมาวางระบบให้คนในครอบครัว ความตงฉินตรงนี้เองทำให้เขาถูกฆ่าจากผู้มีอิทธิพล
ลูกสาวนายตำรวจมือปราบภูธรจำเหตุการณ์ได้ไม่ลืมว่า พ่อมียศร้อยตำรวจเอก ตำแหน่งเป็นรองสารวัตรจราจร แต่ทำงานคล้ายชุดเฉพาะกิจปราบปราม เจออะไรที่ผิดกฎหมายจะไม่ยอมอ่อนข้อ ที่ท่าศาลาสมัยนั้นเต็มไปด้วยผู้มีอิทธิพล กระทั่งไปตั้งด่านจับไม้เถื่อนของนักการเมืองพรรคใหญ่ทางภาคใต้ แม่ก็จะคอยเตือนเสมอว่า นายสั่งอะไรก็ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นบ้าง อย่าไปยุ่งกับนักการเมือง
“ก่อนพ่อตายวันเดียว ยังนั่งโต๊ะกินข้าวคุยกันอยู่เลย แม่ก็จะบอกแบบนี้ บอกหนูกับพี่ว่า ถ้าพ่อตายจะทำยังไง เพราะพวกหนูเป็นคนนอนตื่นสาย เช้าวันรุ่งขึ้น พ่อก็ถูกรถชนตายระหว่างไปทำงาน หนูได้ข้อมูลรายละเอียดว่า มันไม่ใช่อุบัติเหตุ แต่เป็นการจงใจฆ่าชัด ๆ สรุปสุดท้ายพ่อหนูก็ตายฟรี ยังดีที่ได้เลื่อนยศเป็นพันตำรวจเอก”
เธอรู้สึกเสียดายเหมือนกันที่เข้ามาเป็นตำรวจชั้นประทวนแทน เพราะสมัย พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ เป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีข่าวจะโละสิทธิทายาทตำรวจที่ไม่ได้ตายจากการปะทะ รายของพ่อเธอกลับเข้าข่าย ทั้งที่มีการระบุเสียชีวิตในขณะปฏิบัติหน้าที่จากการถูกประทุษร้าย ตอนนั้นแม่เธอก็ไม่มีความรู้ถึงให้รีบเข้ามาก่อน เธอถึงต้องเข้าไปเป็นตำรวจชั้นประทวนกลายเป็นบททดสอบความอดทน
ถึงกระนั้นก็ตาม เธอก็ไม่เคยทิ้งงานพิธีกรตามความถนัด เพราะเป็นรายได้ที่สามารถจุนเจือเลี้ยงแม่ได้สบาย ใช้เวลาวันหยุดเสาร์-อาทิตย์รับงาน ปุ๊ยอมรับว่า เงินเดือนตำรวจชั้นประทวนไม่พอ แฟลตก็ไม่มี ไม่อยากเห็นแม่ลำบากถึงต้องเลือกทำงานเสริมที่เราถนัดเอามาใช้จ่ายช่วยครอบครัว
ตำรวจสาวรายนี้รับงานพิธีกรภาคสนามมากมาย ทั้งเปิดตัวสินค้านานาชนิด เปิดตัวผลิตภัณฑ์ความสวยความงาม เคยแม้กระทั่งเป็นพิธีกรประจำบูทสินค้าในงานประกวดมิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส งานประกาศรางวัลสุพรรณหงส์ทองคำ หรือโรดโชว์ตามห้างสรรพสินค้า รับเป็นพิธีกรแม้กระทั่งงานเลี้ยงรุ่น งานแต่งงาน รวมถึงงานของต้นสังกัด และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ปุ๊ โปรโมตตัวเองในโปรไฟล์เสนองานไว้ว่า มีความรับผิดชอบ และตรงต่อเวลา เรียนรู้งานได้อย่างรวดเร็ว แก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้เป็นอย่างดี ยิ้มแย้มแจ่มใส ยินดีรับงานพิธีกรทั่วไป ทั้งพิธีกรคู่ พิธีกรเดี่ยว งานสัมภาษณ์ งานเปิดตัวสินค้า พริตตี้ และเอ็มซี สามารถออกต่างจังหวัดได้
หากใครสนใจติดต่อกับเธอได้ที่ [email protected]
