นายอภิวัฒน์ กุลคำ อยู่บ้านเลขที่15/7 ถนนเลี่ยงเมือง 2 ตำบลบางแห อำเภอเมืองอ่างทอง พร้อมด้วย นายชวินทร์ เฮียงโฮม อยู่บ้านเลขที่ 7 หมู่17 ตำบลนาโพธิ์ อำเภอกุดรัง จังหวัดมหาสารคาม นายชยพล เวียงเดช อยู่บ้านเลขที่ 182/48 หมู่ 4 ตำบลป่าสัก อำเภอเมืองลำพูน เดินทางเข้าพบ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นำพวงมาลัยไหว้กราบขอขมาที่นำชื่อไปแอบอ้างพิมพ์นามบัตรแจกขอรับการสนับสนุนค่าโฆษณาหน้าหนังสือพิมพ์ มี พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รองผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พล.ต.ต.วริศร์สิริภ์ ลีละสิริ ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรทางเทคโนโลยี 2 พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 พ.ต.อ. อภิชาติ จำปาศรี ผู้กำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 2 ร่วมเป็นสักขีพยาน
สืบเนื่องจากวันที่ 11 ตุลาคม 2565 มีกลุ่มบุคคลอ้างตัวเป็นผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์อาชญากรรมหมายเลข 1 พิมพ์นามบัตรนำชื่อ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุเป็นประธานที่ปรึกษาของหนังสือพิมพ์ที่ไม่เป็นความจริงไปขอรับการสนับสนุนค่าโฆษณาในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ และขอนแก่น พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งการให้กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยีตรวจสอบดำเนินคดีตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ต่อมา กลุ่มบุคคลผู้เกี่ยวข้องทั้ง 3 รายทราบข่าวและเกิดความสำนึกผิดได้ขอมอบตัวเพื่อมอบพวงมาลัยแสดงการขอโทษที่กระทำไปโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ และยินดีรับผิดตามกระบวนการของกฎหมายต่อไป
พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวว่า พฤติกรรมของทั้งสามรายมีการไปเรียกเก็บค่าสปอนเซอร์เพื่อให้สนับสนุนโฆษณาหนังสือพิมพ์ของตัวเอง ตนได้อบรมแนะนำไม่ให้กระทำเช่นนี้อีก พร้อมระบุถ้าคนเราจะดีต้องดีด้วยตัวของเราเอง ไม่ใช่ทำแบบนี้ ส่วนตัวไม่ติดใจเอาความในการกระทำครั้งนี้ พร้อมให้อภัย ได้ทำการลงบันทึกประจำวันเป็นหลักฐานว่า ไม่ดำเนินคดี
