ที่โรงเรียนดาราวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รองผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโยี เดินทางไปเปิดโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการการเตรียมความพร้อมและการปฎิบัติตนเมื่อเกิดเหตุการณ์ใช้ความรุนแรง ในสถานศึกษา มี ผู้บริหาร ครู เจ้าหน้าที่และนักเรียนโรงเรียนดาราวิทยาลัยกว่า 600 คน ร่วมโครงการเป็นการต่อยอดการฝึกวิธีเอาตัวรอดในสถานการณ์ฉุกเฉินถอดบทเรียนเหตุกราดยิงที่จังหวัดหนองบัวลำภู
การฝึกอบรมแบ่งเป็น สองส่วนคือการอบรมภาคทฤษฎีโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ และการฝึกอบรมภาคปฏิบัติแบ่งเป็น 3 ฐาน และจะแบ่งบุคลากรในการฝึกซ้อม 3 กลุ่ม มีทั้งนักเรียน ครู และบุคลากรอื่นๆ ฝึกซ้อมร่วมกัน สลับหมุนเวียนกันไปในแต่ละฐาน แบ่งเป็น “หนี-ซ่อน-สู้” มีการสาธิตเหตุการณ์จริงว่าเมื่อมีคนร้ายก่อเหตุยิงกราดจะมีวิธีการในการเอาตัวรอดอย่างไร ฐานที่ 2 การปฐมพยาบาลเบื้องต้น เพื่อสร้างความรู้เบื้องต้นในการรักษาบาดแผลและให้ความช่วยเหลือผู้ประสบเหตุร้าย เพื่อลดการสูญเสีย และฐานที่ 3 คือการปฏิบัติเมื่อพบ IED ระเบิด ทำให้รู้ว่าเมื่อพบวัตถุเข้าข่ายที่จะเป็นระเบิดควรปฏิบัติตัวอย่างไร
พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้มาให้ความรู้เรื่องการรับมือเหตุกราดยิงในสถานศึกษา ้ราทำเรื่องนี้มานานแล้ว แต่ยังไม่ทั่วถึง พอมีเหตุเกิดที่จังหวัดหนองบัวลำภูได้มีการถอดบทเรียนแล้วว่า การลดความสูญเสียได้มากที่สุดคือการให้ความรู้กับเหยื่อ เพราะเหตุการณ์แบบนี้สามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่ ส่วนปัจจัยที่จะทำให้เกิดเหตุการฆาตกรรมหมู่ หรือกราดยิงนั้น (Active shooter) พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ย้ำว่า มีสามอย่างคือ ตัวคนร้ายเอง สภาพสังคมที่กดดันผู้ก่อเหตุจนเกิดความเครียด และเมื่อเกิดความกดดันมาก ทำให้เกิดความต้องการตอบโต้แบบเฉียบพลัน เป็นได้สองลักษณะคือ การยิงตัวตายและการฆาตกรรม
“หากสังคมกดดันจนตัวผู้ก่อเหตุควบคุมตัวเองไม่ได้ก็จะเลือกเป้าหมายที่เป็นกลุ่มเปราะบาง อย่างเช่นโรงเรียนหรือห้างสรรพสินค้าที่ผู้คนไม่ทันระวังตั้งตัว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการถอดบทเรียนจากกรณีที่เกิดเหตุในสหรัฐอเมริกากว่า 280 กรณี นำมาต่อยอดเพื่อให้ความรู้กับประชาชนต่อไป” พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ว่า