มีข้อเขียนของ พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน อดีตผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 กรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม
ว่าด้วย “2499 อันธพาลครองเมือง…. สู่ 2565”
เจ้าตัวว่า ” ปุ๊ ระเบิดขวด” “ดำเอสโซ่” “แดงไบเล่ย์” เป็นชื่อคนส่วนหนึ่งของกลุ่มคนที่ได้ชื่อว่าเป็น “อันธพาลครองเมืองยุค 2499” คนที่อายุน้อยกว่า 66 ปี จะเกิดไม่ทัน
“ปีนั้นกระผมเองอายุแค่ 1 ขวบ ชงนมกินเองยังไม่ได้เลย ไม่ได้มีโอกาสสัมผัส… แต่เมื่อศึกษาประวัติความเป็นมา จึงทราบว่าทั้งถูกทางการปราบปราม และเข่นฆ่ากันเองจนสูญพันธุ์ไปในที่สุด”
บทบาทของกลุ่มอันธพาลครองเมืองก็จะเกี่ยวข้องทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังของ ธุรกิจสีเทา – สีดำ คอยปกป้องให้ความคุ้มครอง ออกหน้าท้ารบแทนธุรกิจเหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็นบ่อนการพนัน โรงยาฝิ่น ซ่องโสเภณี โรงกัญชา(ขออภัยยุคนั้นยังไม่มี)
66 ปีผ่านไป อันธพาลครองเมืองที่คอยปกป้องคุ้มครอง อยู่เบื้องหน้า เบื้องหลัง ธุรกิจสีเทา-สีดำ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจของคนไทยหรือคนต่างชาติจะยังมีอยู่อีกหรือ ยังออกมาแบกหน้าท้าทายอำนาจรัฐได้อีกหรือ
นี่มันปี พ.ศ.ไหนแล้วล่ะ
เรื่องนี้น่าจะเป็นบทพิสูจน์ฝีมือของสอง รอง ผบ.ตร. ได้เป็นอย่างดี เพราะทั้งสองท่านต่างก็มีทั้งกำลังภายนอกและกำลังภายในไม่ยิ่งหย่อนกว่ากัน และคาดหวังที่จะ “ชิงธง” ตำแหน่ง ผบ.ตร. ในอีกสิบเดือนข้างหน้านี้ด้วยกันทั้งสองคน
บททดสอบนี้ยังถือว่าเล็กไปสำหรับตำแหน่งใหญ่ที่ทั้งสองท่านต้องการ แต่ก็พอเป็นบททดสอบให้สังคมได้รับรู้ได้บ้าง
รีบแสดงฝีมือออกมาอย่าให้เกิดเป็น ” 2565 อันธพาลครองเมือง” ขึ้นอีกก็แล้วกัน
พระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2565 มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 17 ตุลาคม 2565 เป็นต้นมา มีบทบัญญัติที่จะแก้ไขปัญหาความทุกข์ร้อนของประชาชนโดยเฉพาะแหล่งอบายมุขต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นบ่อนการพนัน สถานบริการแหล่งมั่วสุมยาเสพติด ค้ามนุษย์อันเป็นบ่อเกิดของแก๊ง ก๊วนอันธพาลครองเมือง
สร้างองค์กรอิสระคือ “คณะกรรมการพิจารณาเรื่องร้องเรียนตำรวจ” หรือ ก.ร.ตร. ขึ้นไว้เพื่อให้เป็นองค์กรอิสระที่ประชาชนจะได้ชี้ช่อง เบาะแสของธุรกิจ ธุรกรรมที่ผิดกฎหมาย สีเทา-สีดำ เพื่อที่จะได้ให้มีการดำเนินการเสียตั้งแต่ต้น
จะได้ไม่มีการเพาะบ่ม “จมปลัก” อยู่จนกระทั่งมีการสร้างอิทธิพลมีคนเป็นอันธพาลครองเมืองขึ้น
เดิมทีไม่มีหน่วยงานนี้ประชาชนมักไม่กล้าที่จะให้เบาะแสกับตำรวจโดยตรงจะด้วยไม่ไว้วางใจหรืออย่างไรก็ตามที
แต่หน่วยงานนี้จะเกิดขึ้นได้จำเป็นจะต้องมีกรรมการข้าราชการตำรวจผู้ทรงคุณวุฒิ (ก.ตร) กำหนดให้ต้องมีภายใน 180 วันนับตั้งแต่ประกาศใช้พระราชบัญญัตินี้เสียก่อน
ที่มาของ ก.ตร. จะมาจากการเลือกตั้งโดยให้ข้าราชการตำรวจระดับรองผู้กำกับการขึ้นไปเป็นผู้มีสิทธิ์เลือก และกำหนดให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เป็นผู้รับผิดชอบในการจัดการเลือกตั้ง
ถึงขณะนี้ยังไม่ปรากฏว่ามีการออกประกาศหลักเกณฑ์ และวิธีการในการจัดการเลือกตั้งเลย
คงต้องรอให้ถึง 179 วันก่อนละมั้ง คำว่าภายใน 180 วัน คือ วันนี้ พรุ่งนี้ ทำเสร็จเร็วยิ่งดี ทราบกันบ้างไหมล่ะครับว่าทุกครั้งที่เกิดปัญหา
ประชาชนเขาจะถามว่าพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติฉบับใหม่เปลี่ยนแปลงอะไรให้ดีขึ้นบ้าง ทำอะไรได้บ้าง หน่วยงานตำรวจมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีเกิดขึ้นให้เห็นเป็นรูปธรรมบ้าง
เรื่องการคัดเลือกและแต่งตั้งก็ถูกดึงถูกรั้งให้ใช้หลักเกณฑ์เดิมโดยใช้บทเฉพาะกาลออกไปอีก 180 วัน แล้วยังไม่พอ ในส่วนที่ไม่มีบทเฉพาะกาลก็ยังไม่มีการขับเคลื่อนให้เป็นรูปธรรม ขับเคลื่อนให้เป็นรูปธรรมโดยเร็วให้สมกับที่ประชาชนรอคอยมาเป็นเวลานาน
หากไม่แล้วประชาชนก็คงจะรู้สึกผิดหวัง (หรือไม่รู้สึกผิดหวังเพราะไม่ได้หวังอะไรเลย) กันอีกต่อไป