ที่กองบังคับการปราบปราม พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พล.ต.ท.สันติ ชัยนิรามัย จเรตํารวจ(สบ 8) ปฏิบัติราชการกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผู้บังคับการปราบปราม พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการปราบปราม พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ต.อ.วิวัฒน์ จิตโสภากุล ผู้กำกับการ 3 กองบังคับการปราบปราม นายกมลสิษฐ์ วงศ์บุตรน้อย ผู้ช่วยเลขาธิการ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ร่วมกันแถลงผลปฎิบัติการ “ชัตดาวน์เครือข่ายอั้งยี่ มาเฟียพนันออนไลน์ เป็นต่อกรุ๊ป หรือเครือข่ายสารวัตรซัว ครั้งที่ 4 ” หลังกระจายกำลังเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย 39 จุดทั่วประเทศ จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ข้อหา “อั้งยี่, ร่วมกันจัดให้มีการเล่นพนันฯ, สมคบฟอกเงิน และ ร่วมกันฟอกเงิน” ได้เพิ่มเติมอีกจำนวน 30 ราย
คดีดังกล่าวดำเนินการมาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2566 มีการกวาดล้างจับกุมเครือข่ายพนันออนไลน์ทั้งหมด 4 ครั้ง จับกุมผู้ต้องหาได้ 57 ราย คงเหลือผู้ต้องหาบางส่วนที่หลบหนีต่างประเทศ 19 ราย พร้อมตรวจยึดทรัพย์สิน เงินสด จํานวน 33 ล้านบาท ที่ดินจํานวน 1,298 ไร่ มูลค่าประมาณ 6,000 ล้านบาท บัญชีธนาคาร 236 บัญชี มูลค่า 760 ล้านบาท รถยนต์หรู 15 คัน มูลค่าประมาณ 52,844,000 บาท และเหรียญสกุลเงินดิจิทัลกว่า 100 ล้านบาท รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ตรวจยึดได้ทั้งหมดรวมกว่า 7,000 ล้านบาท จากปฏิบัติการที่ผ่านมาจะพบว่าเครือข่ายสารวัตรซัว หรือ พ.ต.ท.วสวัตติ์ มุครสกุล อดีตตำรวจสังกัดกองโยธา่ธิการ สำนักงานส่งกำลังบำรุง ถือเป็นองค์กรอาชญากรรมชนาดใหญ่
ตลอด 3 เดือนที่ผ่านมา กองบังคับการปราบปรามเร่งดำเนินการมาตลอดจนพบว่าเป็นเครือข่ายเว็บพนันรายใหญ่ของประเทศ มีการก่อตั้งบริษัทที่เกี่ยวข้องตั้งแต่ ปี 2559 จนถึงปัจจุบัน รวมกว่า 61 บริษัท ในจํานวนนี้ มี 7 บริษัท ที่เกี่ยวข้องกับการประกอบธุรกิจการพนันและผลิตเว็บการพนันออนไลน์ อาทิ บริษัท ไวคอมเมิร์ช อินเตอร์เนชั่นแนล จํากัด บริษัท พีที ซอฟแวร์ บายเป็นต่อกรุ๊ป จํากัด บริษัท โกไลฟ์ จํากัด บริษัท สน๊อคโค จํากัด บริษัท สน๊อคโค เทคโนโลยี จํากัด บริษัท ชาโดว์ฮิวโก้ เอเจนซี่ จํากัด บริษัท เป็นต่อกรุ๊ป โฮลดิ้ง จํากัด ตำรวจมีหลักฐานความเชื่อมโยงค่อนข้างชัดเจนว่า เป็นการเปิดบริษัทขึ้นมาเพื่ออําพรางปกปิดวิธีการดําเนินการ สร้าางรายได้มาจากธุรกิจการพนันกว่า 10,000 ล้านบาท
“เมื่อตรวจสอบรายได้ของบริษัทพบว่าบริษัทไม่มีกำไรแต่กลับมีทรัพย์สินถือครองมากเกือบหมื่นล้าน สอดคล้องกับข้อมูลสืบสวนที่พบว่าเครือข่ายเว็บพนันดังกล่าว จะนำเงินที่ได้จากเว็บการพนัน เข้าสู่ระบบบัญชีม้าตามลำดับ ก่อนโอนเข้าบัญชีคนในเครือข่ายเพื่อนำไปแปลงเป็นทรัพย์สิน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ อาทิ ที่ดินสวนทุเรียนในจังหวัดจันทบุรี กว่า 300 ไร่ สนามกอล์ฟในจังหวัดกาญจนบุรี 400 ไร่ ที่ดินติดริมทะเล บนพื้นที่เกาะกูด เกาะทะลุ เกาะสมุย และจังหวัดภูเก็ต เพนท์เฮาส์รามอินทราที่จากการตรวจสอบจะพบว่าส่วนใหญ่ผู้ถือครองจะเป็นกลุ่มคีย์แมนในเครือข่ายเว็บการพนันออนไลน์ของสารวัตรซัวและเป็นบุคคลที่ถูกออกหมายจับทั้งหมด” พ.ต.อ.วิวัฒน์ จิตโสภากุล ผู้กำกับการ 3 กองบังคับการปราบปรามให้ข้อมูล
ด้าน พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลางกล่าวว่า สำหรับผู้ต้องหารายสำคัญอย่างสารวัตรซัว และคีย์แมนอีก 3 คน ยังหลบหนีอยู่ในต่างประเทศ ขณะนี้ได้มีการติดตามแหล่งที่อยู่ของผู้ต้องหารายสำคัญทั้งหมด และพยายามแกะรอยซึ่งทราบว่าอยู่ที่ไหน แต่ในเรื่องของการประสานการจับกุมต้องเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ยังต้องใช้เวลาแต่สิ่งที่สามารถดำเนินการได้ในขณะนี้คือติดตามยึดทรัพย์สิน ที่ได้มาจากเครือข่ายเว็บพนันทั้งหมดส่งให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ดำเนินตรวจสอบความผิดเกี่ยวกับการฟอกเงินต่อไป
