เมื่อกองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์บินไปศึกษาดูงานสาธารณรัฐเกาหลี
พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง นำคณะนายตำรวจประกอบด้วย พล.ต.ต.พฤทธิพงศ์ นุชนารถ ผู้บังคับการตำรวจน้ำ พ.ต.อ.สุรพงษ์ ชาติสุทธิ์ รองผู้บังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ต.อ.มารุต กาญจนขันธกุล รองผู้บังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ต.อ.ทนงศักดิ์ ปันไชย ผู้กำกับการ 1 กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ต.อ.รัชภูมิ กุสุมาลย์ ผู้กำกับการ 4 กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ต.อ.กึกก้อง ดิศวัฒน์ ผู้กำกับการ 5 กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ต.ท.ก่อเกียรติ วุฒิจำนงค์ รองผู้กำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม พ.ต.ท.จักรี กันธิยะ รองผู้กำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม พ.ต.ท.ธัช โพธิ์สุวรรณ รองผู้กำกับการ 1 กองบังคับการตำรวจทางหลวง
วัตถุประสงค์เพื่อประชุมศึกษาหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายของประเทศเกาหลีใต้
มี พ.ต.ท.หญิง มัณฑนา ยาวิละ สารวัตรฝ่ายวิชาการสถาบันฝึกอบรมระหว่างประเทศว่าด้วยการดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย ปฏิบัติหน้าที่นายตำรวจประสานงานตำรวจเกาหลีใต้ ร่วมเข้ารับฟังข้อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นแต่ละหน่วยด้วย
นอกจากประชุมกับสถานเอกอัครราชทูตไทยประจำสาธารณรัฐเกาหลีและเครือข่ายช่วยเหลือสตรีไทยในแดนโสมเกี่ยวกับสถานการณ์แรงงาน “ผีน้อย”ในปัจจุบัน
แม่ทัพสอบสวนกลางถือโอกาสนำคณะพบปะเจ้าหน้าที่สำนักงานอัยการสูงสุด กองบัญชาการตำรวจนครบาลโซล และสำนักงานตำรวจแห่งชาติเกาหลีใต้
พล.ต.ท.จิรภพบอกว่า เป้าหมายหลักนอกจากดูงานแล้วยังได้กระชับความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าหน้าที่ทั้งของไทยและประเทศเกาหลีใต้ให้เกิดความร่วมมือกัน มีข้อมูลที่แชร์กันมากขึ้น และเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาด้านการค้ามนุษย์
“คนไทยมาทำงานที่ประเทศเกาหลีใต้เยอะมาก มีประมาณเกือบ 2 แสนคน ผสมกันไประหว่างถูกกฎหมายและผิดกฎหมาย สิ่งที่เราเป็นห่วง คือ เรื่องของความปลอดภัย การถูกบังคับ ถูกหลอก ถูกทรมาน ถึงอยากจะมาทำความรู้จักกับเจ้าหน้าที่ทางเกาหลีจะสามารถป้องกันไม่ให้มีเหตุเกิดขึ้น หรือถ้าเหตุเกิดขึ้นแล้ว ต้องสามารถช่วยเหลือได้โดยเร็ว” พล.ต.ท.จิรภพว่า
ยืนยันสถานการณ์แรงงานไทยปัจจุบัน ค่อนข้างไม่ได้เลวร้าย อยู่ในเกณฑ์โอเค จะมีปัญหาอยู่บ้าง แต่ได้หารือแนวทางกันในการป้องกันและแก้ไขปัญหา ส่วนใหญ่มักพบถูกเบี้ยวค่าแรง เพราะนายจ้างรู้จุดอ่อนที่เข้ามาไม่ถูกกฎหมายหลายคนจะถูกกดขี่ หลอกลวง เช่นว่า จะให้เงิน แต่ไม่ให้อ้างติดหนี้ไว้ก่อน ทำให้แรงงานผีน้อยไม่กล้าไปโวยวาย
ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลางได้หารือในส่วนของสถานเอกอัครทูตไทยประจำกรุงโซล และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องอยากจะเน้นประชาสัมพันธ์ให้แรงงานทุกคนเข้ามาให้ถูกกฎหมาย แล้วจะได้สิทธิคุ้มครองด้วยกฎหมายน่าจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่ต้องการมาทำงานที่เกาหลีใต้ไม่น้อย
“ จริงๆ แล้ว เกาหลีใต้ต้องการแรงงานและเปิดกว้างที่จะให้คนไทยมาทำงานที่นี่ เพียงแต่ว่า บางคนไม่ยอมไปเข้าสู่กระบวนการ ไปเข้าสู่ระบบ ที่ทำให้มีความเสี่ยง ถ้าเจอเจ้านายที่ดีก็ดี แต่ถ้าเจอเจ้านายที่ไม่ดีจะถูกเอาเปรียบ”
เจ้าตัวยังอยากให้ส่วนราชการไทยมาดูกระบวนการยุติกรรมของประเทศเกาหลีใต้ที่ถือเป็นจุดแข็ง เนื่องจากตำรวจ อัยการ ผู้พิพากษา และราชทัณฑ์วางแนวไปในทิศทางเดียวกัน มีระบบตรวจสอบที่น่าเชื่อถือ โดยเฉพาะอัยการมีอำนาจการสอบสวนไปพร้อมกับตำรวจ และมีความร่วมมือกันตลอดเวลา ตั้งแต่เริ่มการรับคดี มีระบบแชร์ข้อมูลกันเกือบจะเรียลไทม์
“เมื่อทุกอย่างเข้าสู่ระบบ ทุกสำนวนคดีไม่สามารถบิดพลิ้วได้ และเห็นความคืบหน้าของคดีไปได้พร้อม ๆ กัน สามารถตรวจสอบได้ ทั้งตำรวจและอัยการจะจับมือกันตลอดเป็นเนื้อเดียวกัน”
หากเมืองไทยทำแบบนี้ได้จะทำกระบวนการยุติธรรมเป็นที่พึ่งของประชาชนได้อย่างแท้จริง
