วันที่ 11 พ.ย.66 พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง สั่งการ พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผู้บังคับการ กองบังคับการปราบปราม , พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย, พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น รองผู้บังคับการ กองบังคับการปราบปราม, พ.ต.อ.ศราวุธ จันต๊ะวงค์ ผู้กำกับการ2 กองบังคับการปราบปราม, ร.ต.อ.สฤษดิ์ ชำนิไกร์ รองสารวัตร กองกำกับการ2 กองบังคับการปราบปราม, ร.ต.อ.เมทัส มณีเมือง รองสารวัตร (สอบสวน) กองกำกับการ2 กองบังคับการปราบปราม, สนธิกำลังร่วมกับ กองกำกับการ1 กองบังคับการตำรวจทางหลวง นำโดย พ.ต.ต.ปภินวิทย์ อุดมพร สารวัตรใหญ่สถานีตำรวจทางหลวง1 กองกำกับการ1 กองบังคับการตำรวจทางหลวง, นำกำลังกันจับกุม น.ส.จนานาจ อิทธิทรัพย์ อายุ 44 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดธัญบุรี ที่ 641/2566 ลงวันที่ 14 กันยายน 2566 ฐานความผิด “ร่วมกัน ฉ้อโกงทรัพย์ ปลอมและใช้เอกสารราชการปลอม และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ข้อมูลอันเท็จ” ได้ที่บริเวณสะพานกลับรถ กม.9 ถนนสายเอเซีย ตำบลคลองจิก อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
พฤติการณ์ น.ส.จนานาจ ผู้ต้องหารายนี้ ได้ปลอมใบอนุญาตค้าไม้ทำให้ดูหน้าเชื่อถือ และได้นำไปหลอกหลวงบริษัทแห่งหนึ่งให้ร่วมลงทุนค้าไม้ด้วย เมื่อบริษัทหลงเชื่อจึงได้โอนเงินมัดจำไปให้ผู้ต้องหาจำนวน 50,000 บาท ต่อมาผู้ต้องหาได้หลอกให้บริษัททำการปล่อยเงินเพื่อซื้อไม้ ทางบริษัทจึงทำการปล่อยเงินกู้ให้อีก เป็นจำนวน 1,417,794 บาท แต่ทางบริษัทผู้เสียหายไม่ได้รับสินค้า จึงได้ติดต่อไปยังผู้ต้องหา ปรากฏว่าไม่สามารถติดต่อได้จึงทราบว่าถูกหลอกได้เข้าแจ้งความเพื่อดำเนินคดีจนมีการออกหมายจับไว้
กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้สืบสวนจนทราบว่า ผู้ต้องหาหลบหนีมาอาศัยอยู่ในพื้นที่ ต.คลองสอง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ได้พบเห็นรถยนต์ของผู้ต้องหาและกำลังขับหลบหนี เจ้าหน้าที่ตำวจจึงขับตามและประสานกับเจ้าหน้าที่ทางหลวงให้สกัดจับผู้ต้องหา ได้ที่บริเวณบนสะพานกลับรถ กม.9 ถ.สายเอเซีย ต.คลองจิก อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา
สอบสวน น.ส.จนานาจ ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา จึงนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.คลองหลวง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
