สืบนครบาลใส่หมวกซานต้าล่าบัญชีม้าหลอกเหยื่อ

 

.
ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ให้ปราบปรามกลุ่มเครือข่ายองค์กรอาชญากรรมที่กระทำความผิดทุกรูปแบบในห้วงการระดมปราบปรามอาชญากรรมในช่วงเทศคริสต์มาสและขึ้นปีใหม่ ประจำปี 2567 มี  พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล พ.ต.อ.นิวัฒน์ พึ่งอุทัยศรี รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล  พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล  พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผู้กำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บกองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล พ.ต.ท.พัชรพงษ์ กาญจนวัฏศรี รองผู้กำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บกองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล  พ.ต.ท.นิธิ ปิยะพันธุ์ รองผู้กำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บกองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล  สั่งการให้ พ.ต.ท.ธีวร์ราธิป ชูดวง สารวัตรกองกำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล ร.ต.ท.พีระเกียรติ ศิริฤทัยวัฒนา รองสารวัตรกองกำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล ร.ต.ท.ไพโรจน์ บุรีรักษ์ รองสารวัตรกองกำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล ร.ต.ท.ณรงค์ศักดิ์ สนิทไทย รองสารวัตรกองกำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล สวมหมวกซานาครอสในช่วงเทศกาลคริสต์มาสตีเนียนออกตามล่าคนร้าย

กระทั่งจับกุม นายอภิชัย หรือแอ็ด คุณพันธ์ อายุ 37 ปี อยู่ที่ 121 หมู่ที่ 16 ตำบลพังตรุ อำเภอพนมทวน จังหวสัดกาญจนบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงนนทบุรี ที่ 515/2566 ลงวันที่ 20 ตุลาคม 2566
กระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกง” ได้บริเวณโรงงานเหล็ก ถนนแสงชูโต ตำบลตะค้ำเอน อำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี ตรวจสอบหมายจับในฐานระบบยังมีหมายจับติดตัวอีก 1 หมาย ของศาลจังหวัดตราด หมายจับที่ 112/2566 ลงวันที่ 3 พฤษภาคม 2566 ต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและโดยทุจริตโดยหลอกลวงนำเข้าสู่คอมพิวเตอซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมหรือเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน ”

พฤติการณ์กล่าวคือ ผู้เสียหายได้ถูกมิจฉาชีพหลอก อ้างเป็นนายหน้าเเรงงานที่จะมาทำงานที่ทางผู้เสียหายได้ประกาศรับสมัครพนักงานปั้มเเก๊ส เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินให้มิจฉาชีพเข้าบัญชีชื่อผู้ต้องหาไป 20,000 บาท จากนั้น ผู้เสียหายไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย และมีผู้เสียหายอีกรายพบประกาศขายรถหัวลากในเฟซบุ๊ก เมื่อผู้เสียหายติดต่อขอซื้อก็ได้โอนเงินเข้าบัญชีชื่อผู้ต้องหา มัดจำไปจำนวน 5,000 บาท พอได้รับเงินแล้วปิดเฟซหนีจากระบบ ในชั้นจับกุมผู้ต้องหาสารภาพว่า เมื่อ ต้นปี 2566 ขายบัญชีธนาคารจำไม่ได้ว่าธนาคารอะไรจำนวน 2 บัญชี ให้แก่มิจฉาชีพในราคาบัญชีละ 500 บาท ไม่ทราบว่ามิจฉาชีพเอาไปหลอกผู้ใด หรือไปกระทำผิดกับใคร
ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาลฝากแจ้งเตือนภัยไปยังประชาชนว่ าในสังคมปัจจุบัน มิจฉาชีพมีเล่เหลี่ยมกลโกงมากมายหลายรูปแบบ ขอให้ประชาชนได้โปรดใช้สติในการใช้ชีวิตในสังคม อย่าหลงเชื่อกลโกงต่างๆ ของมิจฉาชีพที่มีอยู่มากมาย อีกทั้งแจ้งเตือนให้ระมัดระวังการถูกหลอกให้เปิดบัญชีม้า อย่าให้บัญชีธนาคาร หรือเปิดบัญชีให้บุคคลอื่นนำไปใช้เด็ดขาด เนื่องจากอาจเป็นช่องทางให้คนร้ายนำบัญชีไปใช้ในการก่ออาชญากรรมที่มีผลกระทบต่อประชาชนส่วนใหญ่ในสังคมอย่างมหาศาล ตลอดจนโทษกรณีการเปิดบัญชีม้าปัจจุบัน มีอัตราโทษหนัก คือ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (บัญชีม้า) นอกจากนี้ ผู้เป็นธุระจัดหา จ้างผู้อื่นมาเปิดบัญชีม้าก็มีโทษหนักเช่นเดียวกัน คือ จำคุกตั้งแต่ 2 ปี ถึง 5 ปี และปรับตั้งแต่ 200,000 บาท ถึง 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (คนจัดหาบัญชีม้า) หากไม่แน่ใจ หรือสงสัยว่าบุคคลที่เข้ามาเสนอผลประโยชน์ นั้นจะเป็นมิจฉาชีพ หรือไม่ ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบ หรือแจ้งเบาะแสการกระทำความผิด มายังเพจ “สืบนครบาล IDMB” ได้ตลอด 24 ชั่วโมง แม้จะเป็นคดีที่มีความเสียหายไม่มาก แต่หากเป็นคดีที่ประชาชนเดือดร้อน เราทำทันที ตามนโยบายของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

RELATED ARTICLES