ตม.รวบตัวการใหญ่ขนต่างด้าวชาวบังกลาเทศส่งมาเลเซีย

วันที่18 ม.ค.67 พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รองผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ร่วมกันสั่งการให้ พล.ต.ต.ประพันธ์ศักดิ์ ประสานสุข ผู้บังคับการสืบสวนตรวจคนเข้าเมือง พล.ต.ต.ทรงโปรด สิริสุขะ ผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมือง6 พ.ต.อ.ชินวุฒิ ตั้งวงษ์เลิศ ผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสงขลา พ.ต.อ.พูลศักดิ์ แก้วศรีขาว ผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดนราธิวาส พ.ต.อ.เด่นชาย เจริญยุทธ ผู้กำกับการ6 กองบังคับการสืบสวนตรวจคนเข้าเมือง6 พ.ต.อ.ธวัชชัย นรินรัตน์ ผู้กำกับการ1กองบังคับการสืบสวนตรวจคนเข้าเมือง พ.ต.ท.กฤตกรอิชณน์ คงขำ สารวัตรตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดปัตตานี พ.ต.ท.พงษ์ศิริ พิทักษ์ สารวัตรตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสงขลา นำกำลังเข้าจับกุม จับกุม Mr.Asraf Hossain (นายอัสราฟฯ) อายุ 46 ปี สัญชาติบังกลาเทศ ตามหมายจับของศาลจังหวัดนาทวี ที่ 481/2566 ลงวันที่ 14 ธันวาคม 2566 และ Mr.Abu Sayem Khan (นายอะบูฯ) อายุ 47 ปี สัญชาติบังกลาเทศ บุคคลตามหมายจับของศาลจังหวัดนราธิวาส ที่ 1073/2566 ลงวันที่ 28 ธันวาคม 2566 ข้อหา“ร่วมกัน ให้เข้าพักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใด ๆ แก่คนต่างด้าวที่เดินทางเข้ามาผิดกฎหมายเพื่อให้พ้นจากการจับกุมของพนักงานเจ้าหน้าที่” โดยจับกุมทั้งคู่ได้ที่บริเวณริมถนนในพื้นที่ อำเภอเมืองปัตตานี จังหวัดปัตตานี

สืบเนื่องจากเมื่อประมาณเดือน มกราคม – มีนาคม 2566 เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองสามารถจับกุมขบวนการขนต่างด้าวสัญชาติบังกลาเทศหลบหนีเข้าเมืองจำนวนรวม 41 คน เพื่อเดินทางไปยังประเทศมาเลเซีย โดยเหตุเกิดต่างท้องที่กัน รวม5คดี และขยายผลจับกุมผู้ให้การช่วยเหลือได้อีก 10 คน เป็นคนไทย 8 คน ชาวบังกลาเทศ 1 คน และชาวปากีสถาน 1 คน ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนขยายผลจนทราบถึงตัวการใหญ่ของขบวนการนี้ คือ นายอัสราฟฯ และนายอะบูฯ จึงรวบรวมพยานหลักฐานขอศาลออกหมายจับ กระทั่งเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมสืบทราบว่า ผู้ต้องหาทั้งสองได้กบดานอยู่ในพื้นที่ อำเภอเมืองปัตตานี จึงนำกำลังติดตามจับกุมตัวได้ดังกล่าว

สอบสวน นายอัสราฟฯ และนายอะบูฯ เบื้องต้นให้การปฏิเสธ จึงนำตัว นายอัสราฟฯ ส่ง พงส.สภ.ควนมีด จว.สงขลา และนายอะบูฯ ส่ง พงส.สภ.เมืองนราธิวาส จว.นราธิวาส ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไปผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า จากแนวทางการสืบสวน นายอัสราฟ สัญชาติบังกลาเทศ ประกอบอาชีพนักธุรกิจบริษัท นำเข้า – ส่งออกสินค้าต่างประเทศ แต่เบื้องหลังทำหน้าที่ติดต่อหาคนต่างด้าวทั้งหมดกับนายหน้าที่ประเทศบังกลาเทศและประเทศกัมพูชา เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการเดินทางในประเทศไทย ร่วมกับผู้ต้องหาทั้ง 10 คน ที่ถูกจับไปก่อนหน้านี้ เก็บค่าหัว 100,000-150,000 บาท/คน และพบว่าเครือข่ายนายอัสราฟ มีเงินหมุนเวียนในขบวนการกว่า 117 ล้านบาท

RELATED ARTICLES