นายปรีดา ปรัตถจริยา ผู้ใช้สติปัญญา ความคิด ใช้ใจซื้อใจมากกว่าเงินทุนทำงานเพื่อส่วนรวม มีบทบาททำหน้าที่ภาคประชาชนตรวจสอบอำนาจรัฐ ในฐานะ ประธานคณะกรรมการตรวจสอบและติดตามการบริหารงานตำรวจ สน.จักรวรรดิ(ประธาน กต.ตร.สน.จักรวรรดิ) พร้อมเป็นโซ่ข้อกลางประสานความเข้าใจซึ่งกันและกันระหว่างประชาชนกับตำรวจ ด้วยการใช้หัวใจแลกใจ ดำรงตำแหน่งประธานมาแล้ว 1 สมัย หรือ 2 ปี ได้เข้ามาเปลี่ยนแนวคิด พฤติกรรมของโรงพัก ของตำรวจ เพื่อให้เกิดการยอมรับ เข้าใจเข้าถึง ระหว่างตำรวจกับประชาชนในพื้นที่ มีความเข้าใจระบบงานและพื้นที่รับผิดชอบเป็นอย่างดี เนื่องจากเข้ามาคลุกคลีเป็นกรรมการโรงพักตั้งแต่แรกเริ่มวัยหนุ่ม ก่อนที่จะมาเป็นการทำงานในรูปแบบ กต.ตร.เสียอีก และเป็นคนพื้นที่เกิดและเติบโตที่เยาวราช
“ผมรู้สึกภูมิใจที่มีโอกาสได้ตอบแทนรับใช้สังคม เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้สังคมมีความสงบสุข ถึงแม้ผมจะไม่มีบทบาทอะไรมากมาย แต่อย่างน้อยก็ได้มีส่วนร่วม และเป็นสื่อกลางระหว่างตำรวจกับประชาชนให้เข้าใจกันมากที่สุด สิ่งไหนที่ทำแล้วได้ประโยชน์ต่อส่วนรวม ผมทำแน่นอน การที่เข้ามามีบทบาทของประธาน กต.ตร ผมทำงานคนเดียวไม่ได้ เพราะต้องมีทีมงานที่ดี เข้าใจซึ่งกันและกัน ไม่เอาประโยซน์ส่วนตัวเป็นที่ตั้ง แต่จะเน้นส่วนรวมเป็นใหญ่ ผมเป็นประธานมา 2 ปี ก็พยายามเปลี่ยน พัฒนาปรับปรุง ให้มีแต่สิ่งที่ดีขึ้น สุดความสามารถเท่าที่จะทำได้ และดีที่สุด โดยเฉพาะภาพลักษณ์ของโรงพัก เช่น การสูบบุหรี่ในที่สาธารณะหรือสถานที่ราชการ โดยเฉพาะโรงพัก จะทำความเข้าใจ ขอความร่วมมือไม่ใส่เครื่องแบบสูบบุหรี่ให้ประชาชนเห็นควรที่จะไปสูบในที่ลับ หรือแม้แต่ช่วงลงพื้นที่ออกตรวจชุมชน ก็ควรหามุมลับตาคนสูบบุหรี่ หากหลีกเลี่ยงที่จะสูบไม่ได้ ขณะเดียวกันต้องเป็นมิตรกับชาวบ้านทุกคน พูดคุยทักทายด้วยรอยยิ้ม เอาหัวใจเขามาใส่ในหัวใจเรา ทำให้ประชาชนมานั่งในใจเราให้ได้” นายปรีดา กล่าว
ประธาน กต.ตร.สน.จักรวรรดิ อธิบายว่า สาเหตุที่ทำให้ผันตัวเองมาคลุกคลีในวงการตำรวจ ทำงานร่วมกับตำรวจ เกิดจากความเกลียดไม่ชอบตำรวจ เข้าใจว่ามีความเหลื่อมล้ำระหว่างตำรวจกับชาวบ้าน มีความไม่ชอบธรรมเกิดขึ้นในหลายๆอย่าง จึงอยากพิสูจน์ให้รู้ว่ามันเป็นอย่างนั้นจริงไหม เมื่อไม่ชอบก็ต้องเข้ามาดู ให้รู้ให้เห็นกับตา ให้ได้ยินกับหู เมื่อมาเห็นเข้าจริงๆแล้ว จากความเกลียด ไม่ชอบ กลับกลายเป็นน่าเห็นใจ อยากช่วยเหลือ เปลี่ยนทัศนคติที่ไม่ดีเลย เพราะเห็นสภาพความเป็นอยู่ในแฟลตโทรมๆ อาวุธปืนประจำกายเป็นปืนลูกโม่เก่าๆ ในขณะที่โจรผู้ร้ายใช้ปืนออโตเมติก จึงรู้ว่าหน้าที่ของเขาสุ่มเสี่ยงและอันตรายมาก นอกจากนี้ยังทำให้รู้ว่าการทำงานของตำรวจมีหลายส่วน มีฝ่ายสืบสวน ฝ่ายปราบปราม ฝ่ายสอบสวน งานธุรการ งานจราจร โดยเฉพาะได้เห็นการทำงานของตำรวจมวลชนสัมพันธ์ จึงได้เปลี่ยนแนวคิดชัดเจน อยากลองช่วย ลองเห็นใจ และอธิบายให้ชาวบ้านเข้าใจการทำหน้าที่ของตำรวจ
เขายังว่า ตำรวจต้องมีหัวใจเป็นประชาชน เพราะประชาชนเป็นตำรวจคนแรก เวลาเกิดเรื่องเกิดเหตุอะไร ประชาชนเป็นคนแรกที่เห็นก่อนตำรวจ จากนั้นตำรวจค่อยไปถึงที่เกิดเหตุไปถามเอาข้อมูลจากประชาชน หากไม่ได้รับความร่วมมือจากประชาชนแล้ว ตำรวจจะเอาข้อมูลเบาะแสจากที่ไหน ดังนั้นจึงต้องมีตำรวจมวลชนสัมพันธ์ หรือ ตชส. และกต.ตร.ก็เป็นทีมเดียวกับ ตชส. ทำงานมวลชนร่วมกัน สร้างพันธมิตรเข้าถึงชาวบ้าน สิ่งแรกถ้าอยากได้ใจใครเราต้องให้ใจเขาก่อน ให้รู้ให้เห็นว่าเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนเขาจึงไว้ใจ ทุกวันนี้ชาวบ้านไว้ใจ กต.ตร. เข้าใจตำรวจ สายตรวจไปไหนต้องรู้จักชุมชน รู้จักผู้นำ รู้จักคนพื้นที่ เข้าซอยนี้รู้จักทักทาย ไปซอยนั้นรู้จักซักถามพูดคุย อนึ่งตำรวจเป็นสีกากี สีของแผ่นดิน ทุกคนต้องมีส่วนร่วม การทำงานต้องร่วมกับ ชาวบ้าน วัด ชุมชน โรงเรียน ทหาร ฯ ทุกอย่างคือองค์ประกอบที่จะขับเคลื่อนไปในทางที่ดี
แน่นอนว่าการพัฒนาปรับปรุง หรือแม้แต่การทำโครงการต่างๆเพื่อมาพัฒนาชุมชน พัฒนาสถานที่ พัฒนาบุคคล จำเป็นต้องใช้เงินทุน ใช้งบประมาณ แต่ลำพังงบของราชการคงไม่เพียงพอ ประธาน กต.ตร.ยอมรับว่า ส่วนใหญ่แล้วจะควักเงินส่วนตัวของ กต.ตร.เองมาลงขันร่วมทุน ซึ่งทุกคนก็เข้าใจ และยินดี มีบ่นบ้างบางคนบางครั้ง แต่เมื่อเห็นผลงานก็รู้สึกชื่นใจ ที่เป็นส่วนหนึ่งร่วมพัฒนาให้มันเกิดขึ้นจริง ที่สน.จักรวรรดิกับคณะกต.ตร.และที่ปรึกษา ทำอยู่มีหลายโครงการไม่ว่าจะเป็นโครงการตามนโยบายของกองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) และของรัฐบาล รวมทั้งที่ สน.คิดเอง อาทิ ครูแดร์ ที่เน้นเด็กเยาวชนห่างไกลยาเสพติด การออม ซึ่งมีทางธนาคารออมสินเข้ามามีส่วนร่วมทำให้ประชาชนในชุมชนรู้จักการออม คุณค่าของการออม โครงการสถานีประชาชน บ้านสีขาว ประชารัฐร่วมใจ เซฟตี้โซน ถ.เยาวราช ที่เน้นความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยวต่างชาติ และพี่น้องประชาชนคนไทย มีสายตรวจเดินเท้า สายตรวจจักรยาน และการติดตั้งกล้องวงจรปิดเพิ่มเติม โครงการอาหารอิ่มละ 10 บาท และน้ำหมักชีวภาพ เนื่องจากพื้นที่จะมีเศษผักผลไม้เยอะ ก็ต้องนำมาทำประโยชน์ ดีกว่าเป็นขยะเน่าเหม็น ใช้ในโรงพัก ในแฟลตตำรวจ 3 เดือนไม่ต้องเรียกรถ กทม.มาดูดสิ่งปฏิกูล ทำให้ประหยัดได้เยอะ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมชุมชนอาทิตย์ละครั้งก็จะนำไปแจกจ่ายให้กับชาวบ้านด้วย
นายปรีดา กล่าวด้วยว่า การเป็น กต.ตร. ต้องไม่โง่ คือ ต้องหาความรู้ใหม่ๆ ปรึกษา ศึกษาจากผู้รู้ให้เข้าใจ ต้องไม่ฉลาด คือ ไม่อวดเก่ง รู้ไปหมด ต้องรับฟังคนอื่น ไม่ใช่เก่งคนเดียว มีเพื่อน มีเป้าหมายที่ดี รู้จักฟังเป็น กล้าคิด กล้าแสดงความเห็น ทัศนคติ ซึ่งคณะ กต.ตร.และที่ปรึกษา มีการช่วยเหลือกันและเข้าใจกันมาโดยตลอด เอาสมอง สติปัญญามาก่อนเงิน ชวนเพื่อนมาระดมสมองคิดงานคิดโครงการ วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย หากมีเงินทุนอย่างเดียวทำอะไรไม่สำเร็จ คนที่จะมาทำงานนี้ไม่ชอบก็เกลียดตำรวจ แต่พอมารู้จักมาสัมผัส จะรักและรู้จักจิตใจตำรวจมากขึ้น หรืออย่างน้อยต้องมีความอยากช่วยเหลือเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ มีจิตอาสาภายในใจ และคณะทำงานต้องมีผู้รู้ผู้ช่วยชาญในด้านต่างๆ ไม่ใช่มีเงินมาอย่างเดียว เช่นด้านวิชาการ ด้านบริหาร ด้านบริการ พัฒนาสังคมฯ ขณะเดียวกันก็ต้องบำรุงขวัญกำลังใจเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทุ่มเทปฏิบัติหน้าที่ มอบรางวัล เจ็บป่วยช่วยเหลือ ส่งเสริมทุนการศึกษาบุตรหลานตำรวจ เทศกาลงานสำคัญก็จัดให้มีส่วนร่วมระหว่างตำรวจกับชาวบ้าน อย่างเช่น งานวันเด็ก ปีใหม่ สงกรานต์ เพื่อรักษาขนบประเพณี เชื่อมความสัมพันธ์อันดี
“ที่สำคัญคุณสมบัติของคนที่มารับหน้าที่เป็น กต.ตร. นั้น ต้องเป็นบุคคลที่รู้จักเสียสละแบบไม่มีเงื่อนไข ทั้งเวลา กำลังกาย สติปัญญา และกำลังทรัพย์ ไม่เห็นแก่ผลประโยชน์ส่วนตัว มุ่งเน้นเห็นแก่ส่วนรวมเป็นหลัก ไม่เป็นบุคคลทำธุรกิจเทาและดำ เป็นสื่อกลางระหว่างตำรวจกับประชาชนอย่างแท้จริง เพื่อให้มีความเข้าใจซึ่งกันและกัน ใช้ใจแลกใจ ไม่เอาเงินมาเป็นตัวตั้ง คณะทำงานทั้ง กต.ตร.และตำรวจ ต้องมองโรงพักเป็นบ้าน และมองประชาชนเป็นครอบครัว อยากให้มอง กต.ตร.เป็นสมอง ไม่ใช่นายทุน และความสามัคคีกลมเกลียวในการทำงานเป็นสิ่งสำคัญ เมื่อครบวาระก็ไม่ไปไหน ยังทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษา เพื่อให้การดำเนินงานสานต่อเกิดความต่อเนื่องมีคุณภาพอย่างยั่งยืน”นายปรีดา ปรัตถจริยา ประธาน กต.ตร.สน.จักรวรรดิ กล่าวทิ้งท้าย
