ตำรวจสืบนครบาลจับนายหน้าสาวหลอกต่อวีซ่าต่างด้าวหมายจับอื้อ

 

ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ให้ปราบปรามจับกุมผู้ที่กระทำความผิดทุกรูปแบบที่สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนผู้สุจริตจำนวนมาก กระทั่ง ชุดลาดตระเวนออนไลน์ กองกำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล ตรวจสอบพบบุคคลตามหมายจับที่มีหมายติดตัวถึง 14 หมาย  มีพฤติการณ์ไปหลอกลวงแรงงานต่างด้าวช่วยต่อวีซ่าได้ เสียค่าบริการรายละ 3,000 ถึง 12,000 บาท เสียหายกว่า 10 ราย

ทั้งนี้ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.นพศิลป์ พูนสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล มอบหมาย พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผู้กำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล พ.ต.ท.พัชรพงษ์ กาญจนวัฏศรี  พ.ต.ท.นิธิ ปิยะพันธุ์ รองผู้กำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล สั่งการให้ พ.ต.ท.พิทักษ์ ศรีกะแจะ สารวัตรกองกำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล  ร.ต.อ.เอกภพ พันธุ รองสารวัตรกองกำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล ร.ต.ท.นุรุต ฐิติชรัล รองสารวัตรกองกำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล ร.ต.ต.ประสงค์ วงษ์มิตรแท้ รองสารวัตรกองกำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล จับกุมตัว น.ส.วรรวิภา หรือ เจ๊สายลม ดียิ่ง
อายุ 42 ปี ที่อยู่ 63 หมู่ 10 ตำบลห้วยเตย อำเภอกุดรัง จังหวัดมหาสารคามอายุ 42 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ 14 หมายจับของศาลจังหวัดสมุทรสงครามในคดีฉ้อโกงได้ที่ บริเวณต้นซอยหัวหิน 5/2 ถนนเพชรเกษม ตำบลหัวหิน อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

พฤติการณ์ กล่าวคือ ขณะที่ผู้เสียหายซึ่งเป็นแรงงานต่างด้าวอยู่บ้านพัก ผู้ต้องหามาหลอกว่า จะดำเนินการทำวีซ่าให้ มีค่าดำเนินการอยู่ที่ 3,000 บาท  มอบเงินให้ไปแลกกับการออกใบเสร็จรับเงินให้ ต่อมาวีซ่าและพาสปอร์ตของผู้เสียหายหมดอายุ ผู้ต้องหายังไม่ได้ดำเนินการต่อให้ และติดต่อไม่ได้จึงเข้าพบพนักงานสอบสวนแจ้งความร้องทุกข์ ส่วนรายอื่นๆก็จะโดนก่อเหตุในลักษณะเดียวกัน แต่บางรายเสียค่าดำเนินการ 5,500 บาท ถึง 12,000 บาท แล้วหนีหายไป

สอบสวนให้การว่า พื้นเพเป็นคนมีนบุรีจบการศึกษาระดับ ปริญญาตรี ในช่วงกลางปี 2565 ไปทำงานตำแหน่งพนักงานฝ่ายสรรหาและว่าจ้าง หรือฝ่ายบุคคล ที่ร้านเบเกอรี่ อำเภอเมืองสมุทรสงคราม ทำหน้าที่สรรหาแรงงาน’ต่างด้าว’ เข้ามาทำงานยังบริษัท แต่ไม่ได้ตามจำนวนที่ทางบริษัทต้องการกลับแก้ไขด้วยวิธี”สรรหาบุคลากร”จากบริษัท Outsource  ดิวงานว่าจ้างให้จัดหาคนต่างด้าวให้  คิดค่านายหน้ากับต่างด้าว เมื่อรับเงินมาเท่าไหร่ได้โอนกลับไปยังบริษัทที่รับงานตามยอดที่ชาวต่างด้าว โอนเงินมายังบัญชี ไม่มีการรับเงินมาแต่อย่างใด แต่เจ้าหน้าที่ชุดจับไม่ได้ปักใจเชื่อ


ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาลกล่าวแจ้งเตือนภัย ขอให้ประชาชนได้โปรดใช้สติในการใช้ชีวิตในสังคม อย่าหลงเชื่อกลโกงต่างๆของมิจฉาชีพ ซึ่งแฝงตัวมา  ให้เลือกบริษัทที่มีความน่าเชื่อถือ หากไม่แน่ใจหรือสงสัยว่าบุคคลที่เข้ามาเสนอผลประโยชน์ นั้นจะเป็นมิจฉาชีพ หรือไม่ ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบ หรือแจ้งเบาะแสการกระทำความผิดมายังเพจ “สืบนครบาลIDMB” ได้ตลอด 24 ชั่วโมงแม้จะเป็นคดีที่มีความเสียหายไม่มาก แต่หากเป็นคดีที่ประชาชนเดือดร้อน เราทำทันที ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

RELATED ARTICLES