พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชากรตำรวจนครบาล พล.ต.ต.วสันต์ เตชะอัครเกษม, พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชากรตำรวจนครบาล สั่งการ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชากรตำรวจนครบาล พ.ต.อ.ธีรศักดิ์ จันทราพิพัฒน์ รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชากรตำรวจนครบาล พ.ต.อ.อดุลย์ ดอกพวง ผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน4กองบังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชากรตำรวจนครบาล พ.ต.ท.รัฐนันท์ สมวงศ์, พ.ต.ท.ปกรณ์ ทองช่วง รองผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน4กองบังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชากรตำรวจนครบาล พ.ต.ต.นิทัสน์ มีทอง สารวัตรกองกำกับการสืบสวนสอบสวน4กองบังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชากรตำรวจนครบาล นำกำลังเข้าจับกุม นายสราวุธ ชัชยานุกร อายุ 29 ปี จ.กาญจนบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับหมายจับศาลอาญา ที่ 1929/2567 ลงวันที่ 26 เม.ย.67 น.ส.นรีพร กิ่งทัพหลวง อายุ 19 ปี อยู่ที่บ้าน ม.2 ต.หนองปรือ อ.หนองปรือ จ.กาญจนบุรี ตามหมายจับหมายจับศาลอาญา ที่ 1928/2567 ลงวันที่ 26 เม.ย.67 ข้อหา “ร่วมกันมีเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่และร่วมกันจำหน่ายเครื่องกระสุนปืนเพื่อการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน” จับกุม นายสราวุธ ได้ที่หน้าบ้านหมู่ที่ 7 ต.ศรีมงคล อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี จับกุม น.ส.นรีพร ได้ที่หน้าบ้านพื้นที่หมู่2 ตำบลหนองปรือ อำเภอหนองปรือ จังหวัดกาญจนบุรี
พฤติการณ์แห่งคดี ประมาณต้นเมษายน 67 ที่ผ่านมา สืบนครบาลพบว่า แพลตฟอร์มจำหน่ายสินค้าออนไลน์รายหนึ่ง ลักลอบจำหน่ายเครื่องกระสุนปืนชนิดต่างๆ โดยประกาศแบบแอบแฝงขายเป็นกล้องฟิล์ม 22LR เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับจาก AI ของแพลตฟอร์มนั้น ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงลงพื้นที่สืบสวนพบว่า ผู้ที่ลักลอบจำหน่ายเครื่องกระสุนปืนออนไลน์ดังกล่าวคือ นายสราวุธ และ น.ส.นรีพร ผู้ต้องหาทั้ง 2รายนี้ จึงรวบรวมหลักฐานขอศาลอาญาอนุมัติออกหมายจับ กระทั่งติดตามจับกุมได้ดังกล่าว
สอบสวน น.ส.นรีพร ให้การรับสารภาพว่า ทำหน้าที่เปิดร้านค้าผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ เพื่อจำหน่ายสินค้า จากนั้นได้ร่วมกับนายสราวุธ ในการจำหน่ายสินค้าให้แก่ลูกค้า สวนนายสราวุธ ให้การต่อว่า ตนเป็น อาสาสมัครกรมการปกครองจังหวัดกาญจนบุรี เปิดร้านผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ประกาศขายเป็นกล้องฟิล์ม 22LR เพื่อหลบการตรวจจับของ AI แต่จริงแล้วเป็นเครื่องกระสุนขนาด .22LR ซ่งตนได้ซื้อกระสุนในราคาถูกย่านวังบูรพา โดยอาศัยบัตรเจ้าพนักงงานอาสาสมัคร เริ่มต้นแบ่งขายให้คนรู้จัก ต่อมาจึงชักชวนแฟนสาวทำการเปิดร้านผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า จากการตรวจสอบได้จำหน่ายให้แก่ลูกค้าไปแล้วกว่า 200 กล่อง รวมประมาณกว่า 1,000 นัด ก่อนนำตัวส่ง สถานีตำรวจนครบาลพญาไท ดำเนินคดี
พล.ต.ต.ธีรเดช หรือผู้การจ๋อ กล่าวว่า ฝากเตือนผู้ที่คิดจะขายอาวุธปืน หรือกระสุนปืนนั้น โดยไม่ได้รับอนุญาตนั้น ท่านจะมีความผิดฐาน “จำหน่ายอาวุธปืน หรือเครื่องกระสุนปืนสำหรับการค้า โดยไม่ได้รับอนุญาต” ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 2 – 20 ปี และปรับตั้งแต่ 4,000 – 40,000 บาท ส่วนผู้ซื้ออาวุธปืน กระสุนปืนออนไลน์ จะมีความผิดฐาน “ซื้ออาวุธปืน หรือเครื่องกระสุนปืน โดยไม่ได้รับอนุญาต” ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1 – 10 ปี และปรับตั้งแต่ 2,000 – 20,000 บาท ตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน อีกทั้งยังมีประวัติความผิดติดตัวอีก
