พล.ต.ต.พฤทธิพงศ์ นุชนารถ ผู้บังคับการตำรวจน้ำ พ.ต.อ.ธรากร เลิศพรเจริญ รองผู้บังคับการตำรวจน้ำ พ.ต.อ.อินทรัตน์ ปัญญา ผู้กำกับการ5กองบังคับการตำรวจน้ำ ร่วมแถลงข่าวเปิดยุทธการ “เด็ดปีก อ่าวไทย” ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยสามารถจับกุมคนร้ายไว้ได้รวม 3 คดี
พล.ต.ต.พฤทธิพงศ์ เปิดเผยว่า คดีแรก จับกุมบุหรี่ผิดกฎหมายยึดของกลางบุหรี่ยี่ห้อ TEXAS, CANYON , Mond, Gold mount และ SMS รวมทั้งสิ้น 20,600 ซอง และรถยนต์ ยี่ห้ออีซูซุสีดำ หมายเลขทะเบียน ยก 9600 ขอนแก่น จับได้ที่ บริเวณสวนทุเรียน หมู่ที่ 5 ต.ไม้รูด อ.คลองใหญ่ จ.ตราด นำของกลางตรวจยึดส่งพนักงานสอบสวน สภ.ไม้รูด เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
พล.ต.ต.พฤทธิพงศ์ กล่าวต่อว่า คดีที่สองตำรวจน้ำประจวบคีรีขันธ์ สกัดจับเรือประมงเวียดนาม 5 ลำ พร้อมลูกเรือ 23 คน ลักลอบทำการประมงในน่านน้ำไทย ห่างจากฝั่ง 50 ไมค์ทะเล โดย พ.ต.อ.พยงค์ เอี่ยมสกุล ผกก.4 บก.รน. และ พ.ต.อ.วัชชิรานนท์ นนท์นา ผกก.2 บก.รน. ร่วมกัน นำเรือตรวจการณ์ 630 และเรือ RHIB 01 ออกจับกุมเรือประมงต่างชาติ ลักลอบทำการประมงในเขตสิทธิการทำประมงของไทยบริเวณทะเลอ่าวไทย พบข้อมูลการเคลื่อนไหวของกลุ่มเรือประมงสัญชาติเวียดนามที่เข้ามาลักลอบทำการประมงในเขตการทำประมงของไทยและจากการสืบสวนได้รับแจ้งจากสายลับว่ามีเรือประมงไม่ทราบสัญชาติเข้ามาทำการประมง จากการตรวจสอบพบเรือประมงต่างชาติ สัญชาติเวียดนาม ลักลอบเข้ามาทำการประมงในน่านน้ำไทยในบริเวณพื้นที่ทางทะเลอ่าวไทยตอนบนหน้าจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จำนวน 5 ลำ พร้อมลูกเรือ รวมจำนวน 23 ราย ห่างจากชายฝั่ง 50 ไมค์ทะเล โดยเมื่อเจ้าหน้าที่แสดงตัวเข้าจับกุม ผู้ต้องหาได้ขับเรือหลบหนีการจับกุม เจ้าหน้าที่ต้องใช้เรือเล็กไล่ตาม กระทั่งจับกุมได้ทั้งหมด โดยเป็นการลักลอบทำการประมงแบบผิดกฎหมายในช่วงฤดูประกาศปิดอ่าวของประเทศไทยด้วย
โดยแจ้งข้อกล่าวหาว่า ร่วมกันทำการประมงพาณิชย์ในน่านน้ำไทยโดยไม่ได้รับอนุญาตตาม พ.ร.ก.ประมง พ.ศ.2558 ร่วมกันใช้เรือไร้สัญชาติทำการประมง ( พ.ร.ก.ประมง พ.ศ.2558 ม.10 ประกอบ ม.123 วรรค 3) ฝ่าฝืนใช้เรือที่มีสัญชาติต่างประเทศ เรือเป็นของคนต่างด้าวทำการประมงในเขตการประมงไทย พ.ร.บ.ว่าด้วยสิทธิการประมงในเขตการประมงไทย พ.ศ.2482 พ.ร.บ.เดินเรือในน่านน้ำไทย พ.ศ.2456 รวมทั้งมีและใช้เครื่องวิทยุโทรคมนาคม โดยไม่ได้รับอนุญาต พ.ร.บ.วิทยุโทรคมนาคม พ.ศ.2498 นำส่ง พนักงานสอบสวน สภ.บางสะพาน อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
พล.ต.ต.พฤทธิพงศ์ กล่าวอีกว่า คดีสุดท้าย พ.ต.อ.นิรัตน์ ช่วยจิตน์ ผกก.6 บก.รน. สนธิกำลัง เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภาค8 เข้าจับกุม นายวิเชษฐ์ เทศนอก อายุ 70 ปี , นายนิติกร เสียมไหม อายุ 55 ปี , นายจรัส อะเส็ม อายุ 54 ปี , นายสุรศักดิ์ มากนวล อายุ 32 ปี พร้อมของกลาง ยาไอซ์ จานวน 80 กก. , อาวุธปืนสั่นกึ่งอัตโนมัติ จำนวน 1 กระบอก กระสุนปืน จำนวน 13 นัด, รถยนต์จำนวน 2 คัน
สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการ6กองบังคับการตำรวจน้ำ สืบทราบว่า กลุ่มผู้ต้องหามีพฤติกรรมเป็นนายหน้าและพ่อค้าจำหน่ายยาเสพติดรายใหญ่ ในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี จึงติดตามเฝ้าระวังพฤติกรรมมาโดยตลอดจนทราบว่า ผู้ต้องหากลุ่มนี้ได้มาเปิดรีสอร์ทในพ้ืนที่ อ.ดอนสัก จ.สุราษฎร์ธานี กระทั่งพบรถกระบะต้อง ขับเข้ามาที่รีสอร์ทดังกล่าว พร้อมบรรทุกกระสอบต้องสงสัย จากนั้นกลุ่มผู้ต้องหาได้เดินมาที่รถกระบะ เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าจับกุมได้พร้อมของกลางดังกล่าว ก่อนควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรดอนสัก พร้อมสืบสวนขยายผลหาตัวผู้ร่วมขบวนการ เบื้องต้นจึงแจ้งข้อหา ร่วมกันจำหน่ายซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) โดยไม่ได้รับอนุญาต และ มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต.
