เห็นตำรวจภูธรภาค 4 ไล่บี้ “เคลียร์หนี้นอกระบบ” ตามยึดโฉนดที่ดินคืนแก่ชาวบ้านเพียงเพื่อเอาใจนักการเมืองลงพื้นที่เป็นผลงานแก่ตัวเอง
สงสารและเห็นใจตำรวจชั้นผู้น้อยของจังหวัดเลยมากที่สุด
หลายคนตกอยู่ในภาวะหนี้เน่าใกล้ล้มละลาย ตอนแรกคิดว่า จะมีนายเป็น “อัศวินม้าขาว” เข้ามาปัดเป่าบรรเทาทุกข์ จัดตั้งกองทุนเข้าสหกรณ์ออมทรัพย์ระดมทุนให้กู้เงินไปปิดสถาบันการเงิน
แล้วหว่านล้อมชักชวนลงเงินเข้าโครงการบริหารหนี้ในสหกรณ์ออมทรัพย์เพื่อแบ่งเงินปันผลเป็นกำไรไว้ใช้จ่ายในอนาคต
สุดท้าย “ผีซ้ำด้ามพลอย” เมื่อคนเป็นนายหอบเงิน 229 ล้านบาท หายไปพร้อมกับโบนัสการเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้นเข้าไปอยู่ในสำนักงานกำลังพล
ฟ้องร้องเป็นคดีความกันมานานหลายเดือน เรื่องราวอืดเป็นเรือเกลือ คนเป็นนายรับปากจะทยอยผ่อนจ่ายคืนให้ทุกคน
อลวนอลเวงเหมือนน้ำท่วมทุ่ง
ผัดวันประกันพรุ่งเอาตัวรอดไปได้จนถึงวันนี้
มิหนำซ้ำผู้บังคับบัญชาระดับสูงยังเมินเฉยเรื่อยเปื่อยตั้งกรรมการ “ฟันผิดวินัย” หรือต้องให้นักการเมือง “บัญชาเกม” สะกิดมา
ทั้งที่มีตำรวจ 192 นายร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับ พล.ต.ต.สุทิพย์ ผลิตกุศลธัช รองผู้บัญชาการสำนักงานกำลังพล อดีตผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเลยคนดัง กับพวกเข้าข่ายความผิด “ฉ้อโกงประชาชนลักษณะแชร์ลูกโซ่”
เชื่อมโยงคดีผัวเมียหลอกลวงชาวบ้านหลายจังหวัดพื้นที่ภาคอีสานนำเงินมาลงทุนตลาดหลักทรัพย์และธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
พล.ต.ต.สุทิพย์ ผลิตกุศลธัช นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 39 เพื่อน พล.ต.ต.สรไกร พูลเพิ่ม รองผู้บัญชาการสำนักงานกำลังพล ไม่สะทกสะท้านคดีความที่เกิดขึ้น และรับปากจะนำเงินคืนอดีตลูกน้องวันละ 30 ล้านบาทตั้งแต่วันที่ 14 มิถุนายน 2561 จนครบยอด 229 ล้านบาท
ปรากฏมีการจ่ายเงินช่วยเหลือเยียวยาคนละ 2,500-2,800 บาทที่ไปกู้ฉุกเฉินคนละ 50,000 บาท มาจากสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจภูธรจังหวัดเลยเพียงครั้งเดียว
หลังจากนั้นเบี้ยวนัดมาตลอด
คณะกรรมการสอบสวนสืบสวนข้อเท็จจริงของตำรวจภูธรภาค 4 ไม่ประวิงเวลาให้จึงแจงข้อหา “นายพลระดับรองผู้บัญชาการ” กับพวก
ตำรวจที่ตกเป็นหนี้ท่วมหัวจนแทบเอาตัวไม่รอด 192 นาย เริ่มทำใจว่า อาจไม่ได้เงินคืน และไม่รู้จะไปฟื้นฝอยรอคอยความช่วยเหลือจากผู้บังคับบัญชาชั้นผู้ใหญ่ได้มากน้อยแค่ไหน
นับถอยหลังวันล้มละลาย ชีวิตครอบครัวใกล้พังทลาย
พวกเขาเจ็บปวดใจที่เห็น “ผู้เป็น” นายกระตือรือร้นตามทวงหนี้นอกระบบ ทำหน้าที่ “คนกลาง” ใช้ความเป็นคนเครื่องแบบจน “นายทุนเงินกู้” เจ้าพ่อ –เจ้าแม่ ทั้งหลายหัวหดยอมคืนเงินแก่ชาวบ้าน ทำนักการเมืองลงพื้นที่ยิ้มบานไม่หุบ
ส่วนลูกน้องในสายบังคับบัญชาตัวเองกลับปล่อยบรรเลงชะตากรรมกันตามมีตามเกิด