คนข่าวสาวสวยน้องใหม่ “ค่ายสปริงนิวส์”
“โบ” ชัชชญา ธนีสันต์ เกิดกรุงเทพฯ จบมัธยมปลายนวมินทราชูทิศ กรุงเทพมหานครไปต่อคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต เพราะความที่อยากเป็นนักข่าว ผู้ประกาศข่าว ด้วยเป็นคนมีนิสัยช่างพูด ชอบตั้งคำถาม
ฝึกงานสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 ชิมลางการทำงานทีวี ดูสคริปต์รายการข่าว เขียนข่าวบ้าง แต่ไม่ได้มีโอกาสลงสนาม เนื่องจากเป็นช่วงวิกฤติบ้านเมือง กลับไปเรียนต่ออีกเทอมจบปริญญาตรีใช้เวลาเรียนเพียง 3 ปีครึ่ง
ตระเวนหางานได้ไปเป็นผู้ประกาศทางช่องเคเบิล “ไอเอ็น ทีวี” เริ่มจากเป็นผู้ประกาศข่าว เธอเล่าว่า เป็นช่องเคเบิลไม่ได้ใหญ่อะไร มีรายการวาไรตี้ มีข่าว คิดว่า ต้องการไปหาประสบการณ์เฉยๆ เพราะตอนนั้นถ้าไม่ช่องใหญ่ก็ต้องช่องเคเบิ้ล ยังไม่มีช่องดิจิตอล แต่ไม่ได้คิดที่จะทำงานด้านหนังสือพิมพ์ เพราะไม่ถนัด ทำได้ 6 เดือนก็ย้ายช่องไปอยู่ไอดีทีวี อ่านข่าวอีก 3-4 เดือนโยกไปเอ็มวีทีวี เริ่มอ่านข่าวการเมือง และรับจัดการรายการวิเคราะห์ข่าวการเมืองออกวิทยุกรมประชาสัมพันธ์เป็นฟรีแลนซ์ช่วงหยุดเสาร์-อาทิตย์
“ทำเพราะมีโอกาส เขาให้โอกาส ประกอบกับตอนนั้นในหัวมีแต่การเมือง เพราะช่วงนั้นเป็นช่วงที่การเมืองมีความขัดแย้งมาก ก่อนการปฏิวัติ หลายคนอาจมองเครียด แต่เรามองว่ามันสนุก ท้าทาย เราได้สัมภาษณ์นักการเมือง สัมภาษณ์คนที่กำลังเป็นข่าว มีประเด็นข่าวมาออก และไม่ได้เลือกข้าง อยู่ฝ่ายไหนก็ได้ แค่เราหยิบเอาข่าวมาวิเคราะห์ว่าจะไปในทิศทางไหน”
อยู่ประมาณ 1 ปี ย้ายค่ายเข้าสู่สปริงนิวส์ เจ้าตัวว่า ตัดสินใจอยู่สักพัก เพราะสปริงนิวส์มีเงื่อนไขว่า ห้ามไปทำงานที่อื่น เลยออกจากฟรีแลนซ์มาอยู่ที่นี่ และเหมือนมันเป็นจุดเปลี่ยนพอดี อ่านข่าววันสุดท้าย หลังจากไม่นาน มีคนอ่านแทน ช่องก็ปิด เป็นช่วงที่มีทหารยึดอำนาจมาเฝ้าสถานี เป็นจุดเปลี่ยน ที่เราได้งานแล้วไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง ได้งานแล้วเลยยังไม่ได้ไปสมัครที่อื่น
โบบอกว่า รับหน้าที่เป็นผู้สื่อข่าวครั้งแรก ไม่เคยทำข่าวเลย ไม่มีประสบการณ์ ใจจริงอยากทำข่าวการเมือง แต่ได้มาอยู่สายสังคม ส่วนมากจะวิ่งงานกระทรวง เน้นสกู๊ปเกี่ยวกับคุณภาพสังคม ช่วยเหลือประชาชน ปากท้องประชาชน ปรับตัวได้บ้างแล้ว “2-3 วันแรกที่เข้าไป มีความรู้สึกว่าไม่สนุกเลย เรามีความรู้สึกว่าการเมืองมันดูมีสาระ แต่อยู่ไปเรื่อยๆ ข่าวสังคมมันก็สนุกนะ แต่ต้องไม่ใช่ประเภทรูทีน หรือว่าเป็นข่าวพีอาร์ ประชาสัมพันธ์โครงการ พอได้เข้าไปทำแบบเจาะเป็นเรื่องๆ เลยรู้สึกว่ามันสนุกดีนะ”
ทำได้ 11 เดือนแล้ว เธอยอมรับว่า ได้อะไรเยอะ คิดว่ามาถูกทางแล้ว เป็นผู้สื่อข่าวเต็มตัว ส่วนผู้ประกาศข่าวก็ยังอยากเป็นอยู่ ทุกวันนี้เหมือนจะเริ่มไต่ใหม่ ตอนที่มาสมัครที่สปริงนิวส์ เขาก็บอกว่า ผู้ประกาศข่าวจะต้องเป็นผู้สื่อข่าวมาก่อน เพราะต้องจับประเด็นเก่ง ดูการตกผลึกของข่าวก็ยังไม่รู้ว่าจะยังไงต่อไป แต่คิดว่าหากทำไปนานๆ แล้วก็คงจะต้องขยับขยาย เรื่องงานก็คงจะทำแบบนี้ อยู่จุดนี้ไปก่อน ถ้ามีโอกาสที่ดี ก็ไป
“แต่ตอนนี้ก็ยังโอเคอยู่ สปริงนิวส์ ก็อยู่ได้ เราภูมิใจที่ได้มาทำตรงนี้” สาวผู้มาดมั่นวงการข่าวทีวีแสดงตัวตนชัดเจน
