ตราพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติฉบับใหม่ (5)

มีการพูดถึงประเด็นการแต่งตั้งโยกย้ายที่ไร้คุณธรรม เป็นการทำลายขวัญกำลังใจคนทำงานตลอดหลายปีที่ผ่านมา

กำหนดกฎเหล็กหลักเกณฑ์การพิจารณามากมาย

สุดท้ายพ่าย “หลักของกู”

หมวด 3 การบรรจุ การแต่งตั้ง และการเลื่อนชั้นเงินเดือน ของร่างพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติฉบับ “ขรัวเฒ่า” นักกฎหมายรุ่นลายครามประเทศไทยระบุไว้ในมาตรา 69 ถึงเรื่อง การประเมินการแต่งตั้งโยกย้ายตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไข ไว้ในมาตรา 68

เริ่มต้นที่ ความอาวุโสในการดำรงตำแหน่ง โดยให้ผู้ดำรงตำแหน่งนานที่สุด มีอาวุโสสูงสุด ได้รับคำแนน 50 คะแนน และผู้มีอาวุโสลำดับถัดไปให้ได้รับคำแนนลดลงปีละ 5 คะแนน

ส่วนในกรณีอาวุโสเท่ากันให้ได้รับคะแนนเท่ากัน ทั้งนี้ให้นับตั้งแต่วันที่ดำรงตำแหน่งจนถึงวันที่มีการประเมิน

ตามด้วย ความรู้ความสามารถที่มีผลต่อการปฏิบัติงาน มีคะแนนเต็ม 20   คะแนน ประเมินตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่คณะกรรมการตำรวจแห่งชาติกำหนด

ท้ายสุดเป็น ความพึงพอใจในการบริการที่ประชาชนได้รับ มีคะแนนเต็ม 30 คะแนน

กรณีที่คะแนนประเมินเท่ากัน และไม่สามารถแต่งตั้งผู้ได้รับคะแนนเท่ากันทั้งหมด ให้แต่งตั้งตามความรู้ความสามารถอันเป็นที่ประจักษ์ตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการตำรวจแห่งชาติกำหนด

สำหรับข้าราชการตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ในหน่วยงานที่มิได้มีภารกิจในการบริการประชาชนโดยตรงตามที่คณะกรรมการตำรวจแห่งชาติกำหนด ให้มีการประเมินผลสัมฤทธิ์ของภารกิจแทนการประเมินความพึงพอใจของประชาชน

การประเมินความพึงพอใจในการบริการประชาชน มาตรา 70 ระบุไว้ ให้ประเมินความพึงพอใจในการบริการประชาชนที่ได้รับจากสถานีตำรวจ กองกำกับการ หรือหน่วยงานอื่นเทียบเท่า เมื่อหน่วยงานได้รับความพึงพอใจเป็นจำนวนเท่าใด ให้ถือว่า ผู้ที่ปฏิบัติหน้าที่ในหน่วยงานนั้นได้รับคะแนนนั้นเท่ากัน

แต่การประเมินความพึงพอใจในบริการที่ประชาชนได้ระดับกองบังคับการ ให้ถือเอาคะแนนความพึงพอใจในบริการที่ประชาชนได้รับของทุกสถานีตำรวจ กองกำกับการ หรือหน่วยงานที่เทียบเท่าที่อยู่ในสังกัดมาเฉลี่ย

ได้จำนวนเท่าใดให้ถือเป็นคะแนนความพึงพอใจในการบริการที่ประชาชนได้รับของกองบังคับการนั้น และให้ถือว่า ผู้ปฏิบัติหน้าที่ในกองบังคับการนั้นได้รับคะแนนนั้นเท่ากัน

ขณะที่ คะแนนความพึงพอใจในบริการที่ประชาชนได้รับของหน่วยงานในระดับกองบัญชาการ มีลักษณะเช่นเดียวกัน คือ ให้ถือเอาคะแนนความพึงพอใจในบริการที่ประชาชนได้รับชชองทุกกองบังคับการที่อยู้ในสังกัดมาเฉลี่ย ได้จำนวนเท่าใดให้ถือเป็นคะแนนความพึงพอใจในบริการที่ประชาชนได้รับของกองบัญชาการนั้น และให้ถือว่า ผู้ปฏิบัติหน้าที่ในกองบัญชาการนั้นได้รับคะแนนนั้นเท่ากัน

สำหรับการสำรวจความพึงพอใจ กำหนดให้ สำนักงานสถิติแห่งชาติ เป็นผู้สำรวจความคิดเห็นของประชาชน อย่างน้อยต้องครอบคลุมมิติความมีประสิทธิภาพ ความเป็นธรรม การไม่เลือกปฏิบัติ และความสะดวกในการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรม

เมื่อผลสำรวจเป็นประการใดต้องประกาศให้ประชาขนและแจ้งใหหน่วยงานที่ถูกประเมินทราบด้วย

มีอีกมาตราที่น่าสนใจ

มาตรา 72 การแต่งตั้งข้าราชการตำรวจในสายงานสอบสวน ให้ดำรงตำแหน่งสูงขึ้นให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขดังต่อไปนี้

ผู้บัญชาการสอบสวน จะได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าแต่งตั้งจากข้าราชการตำรวจยศพลตำรวจตรี และเคยดำรงตำแหน่งรองผู้บัญชาการสอบสวนมาแล้วไม่น้อยกว่าสามปี

รองผู้บัญชาการสอบสวน จะได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าแต่งตั้งจากข้าราชการตำรวจยศพลตำรวจตรีและเคยดำรงตำแหน่งผู้บังคับการสอบสวนมาแล้วไม่น้อยกว่าสามปี

ผู้บังคับการสอบสวน จะได้ทรงจะได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าแต่งตั้งจากข้าราชการตำรวจยศพันตำรวจเอกที่ได้รับอัตราเงินเดือนพันตำรวจเอก (พิเศษ) และเคยดำรงตำแหน่งผู้กำกับการสอบสวนมาแล้วไม่น้อยกว่าสี่ปี

รองผู้บังคับการสอบสวน ให้แต่งตั้งข้าราชการตำรวจยศพันตำรวจเอก หรือพันตำรวจเอกที่ได้รับอัตราเงินเดือนพันตำรวจเอก(พิเศษ) และเคยดำรงตำแหน่งผู้กำกับการสอบสวนมาแล้วไม่น้อยกว่าสี่ปี

ผู้กำกับการสอบสวน ให้แต่งตั้งข้าราชการตำรวจยศพันตำรวจโท หรือพันตำรวจเอก และเคยดำรงตำแหน่งรองผู้กำกับการสอบสวนมาแล่วไม่น้อยกว่าสี่ปี ส่วน รองผู้กำกับการสอบสวน ให้แต่งตั้งจากข้าราชการตำรวจยศพันตำรวจโท และเคยดำรงตำแหน่งสารวัตรสอบสวนมาแล้วไม่น้อยกว่าสี่ปี

สารวัตรสอบสวน ให้แต่งตั้งจากข้าราชการตำรวจยศร้อยตำรวจเอกขึ้นไปแต่ไม่สูงกว่าพันตำรวจโท เคยดำรงตำแหน่งรองสารวัตรมาแล้วไม่น้อยกว่าเจ็ดปี ในระหว่างเวลาดังกล่าวต้องดำรงตำแหน่งรองสารวัตรสอบสวนไม่น้อยกว่าสามปี

รองสารวัตรสอบสวน แต่งตั้งจากข้าราชการตำรวจยศร้อยตำรวจตรีขึ้นไปแต่ไม่สูงกว่าร้อยตำรวจเอก สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีจากโรงเรียนนายร้อยตำรวจ หรือที่สำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาตรีทางกฎหมาย หรือผู้ที่ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยพนักงานสอบสวนมาแล้วไม่น้อยกว่าสามปี

ทั้งนี้ ผู้ช่วยพนักงานสอบสวน แต่งตั้งจากข้าราชการตำรวจชั้นประทวนที่มียศจ่าสิบตำรวจ หรือดาบตำรวจ และเคยดำรงตำแหน่งผู้บังคับหมู่มาแล้วไม่น้อยกว่าสามปี

ดีหรือไม่ลองถามใจตัวเองดู

RELATED ARTICLES