เส้นทางมือปราบพระกาฬ “ชลอ เกิดเทศ”  ตอนที่ 41มาเฟียใหญ่เปิดตัวโต้ข่าว

 

“ชลอ… หน้าที่คุณต้องตามจับไอ้หยองให้ได้ และผมขอให้ผู้กำกับทุกจังหวัดในพื้นที่ตำรวจภูธรเขต 1 ทำงานประสานกัน ช่วยกันสอดส่องหาหนทางในการจับกุมไอ้หยองให้ได้โดยเร็ว เพราะมันมีทั้งคดีฆ่าคนตาย ทำร้ายร่างกายและลักทรัพย์”

พลตำรวจตรีประจันต์ พราหมณ์พันธุ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรเขต 1 กล่าวต่อในที่ประชุมด้วยเสียงที่บ่งบอกถึงความเครียดอยู่ไม่ใช่น้อย

“หากจับนายสมชายช้า อาจจะทำให้มีมือที่ 3 เข้าแทรก หรือไปยุยงให้กลุ่มชาวบ้านที่รวมตัวกันต้านอิทธิพล “ไบคาน”เกิดการไขว้เขวเข้าใจผิด อาจจะทำให้เกิดเรื่องใหญ่โตตามมาภายหลัง…….”

พูดจบ ผู้บังคับการตำรวจภูธรเขต 1 หันหน้ามาทางผู้กำกับหนุ่มเมืองละโว้อีกครั้ง ก่อนเอ่ยปากซัก

“อีกเรื่องหนึ่ง คดีที่ไอ้หยองส่งคนไปฆ่า นายประกอบ สิงหสกุลไกร คู่อริที่จังหวัดตาก ตอนนั้นคุณเป็นผู้กำกับ เป็นหัวหน้าตำรวจจังหวัด ทำไมถึงไม่เร่งรัดจับกุม จนตอนนี้ครอบครัวเขาต้องไปร้องที่กรมตำรวจ….”

คู่อริเพลย์บอยทายาทไบคาน ตอบผู้บังคับบัญชาทันทีตามสไตล์

“ตอนนั้นตำรวจภูธรจังหวัดตาก ไม่ได้ปล่อยปละละเลย ผมลงไปควบคุมการสืบสวนทุกขั้นตอนด้วยตัวเอง กระทั่งจับมือปืนได้ 2 คน พร้อมของกลาง ทั้งปืนที่ใช้และรถจักรยานยนต์ ตามแนวทางสืบสวนแน่ชัดแล้วว่า ไอ้หยองเป็นคนว่าจ้างสังหารผู้ตายอย่างแน่นอน แต่การสอบสวนยังไปไม่ถึง เพราะพยานโดยเฉพาะครอบครัวของผู้ตาย ในขณะนั้นยังไม่กล้ายืนยัน แต่เมื่อตอนนี้ลูกชายคนตายเข้าให้ข้อมูลการสืบสวนสอบสวนแล้ว คดีก็รุดหน้าขึ้นมาก ถึงตอนนี้หากจับไอ้หยองได้ ก็สามารถแจ้งข้อหาในคดีนี้ได้อีกคดีหนึ่ง………..”

พอได้ฟังชลออธิบายแล้ว พลตำรวจตรีประจันต์ถามต่อ

“เอาล่ะ….แล้วตอนนี้เบาะแสมันหลบอยู่ที่ไหน….”

“ ในข้อเท็จจริง ไบคานเคยบอก จะพามามอบตัวในวันพรุ่งนี้ แต่ล่าสุดผมได้ข่าวมันหลบไปกบดานกับพวกมันในพื้นที่ภาคใต้ น่าเชื่อว่าจะเป็นที่ยะลา ส่วนความเคลื่อนไหวของชาวบ้านหนองเต่า มีประธานลูกเสือชาวบ้าน เขตอำเภอเมืองลพบุรี นัดชุมนุมลูกเสือชาวบ้านทั้งจังหวัด ที่บ้านหนองเต่า เพื่อแสดงพลังข่มขวัญไบคาน ในส่วนนี้ผมให้ พันตำรวจตรีสำเริง มุยคำ หัวหน้าสถานีตำรวจภูธรชัยบาดาล นำกำลังตำรวจไปคอยป้องกันเหตุร้ายไว้แล้ว….

พลตำรวจตรีประจันต์พยักหน้าฟังอย่างพอใจ ก่อนหันมาทางนายตำรวจนักเขียนมือทอง 1 ใน 10  ตำรวจที่มีชื่อเสียงในแวดวงวรรณกรรม พันตำรวจเอกจินดา ดวงจินดา ผู้กำกับการตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ก่อนสั่งให้ช่วยติดตามจับกุมสืบเสาะหาข่าวนายธงชัย พงษ์สว่าง หรือน้อย หน้าด่าง พี่ชายต่างแม่ของ ไอ้หยอง ที่มีข่าวหนีมากบดานอยู่ในเขตพื้นที่ เพราะหากได้ตัว อาจจะมีข่่าวดีเกี่ยวกับที่หลบซ่อนของไอ้หยองก็เป็นได้…

“ชลอ…ยังไงก็แล้วแต่ คุณช่วยเร่งรัดตามจับไอ้หยองมาให้เร็วที่สุด ส่งข่าวให้ผมทุกระยะ”

ผู้บังคับการตำรวจภูธรเขต 1 บอกกับชลอ ผู้รับผิดชอบคดีอิทธิพลสะท้านประเทศ ก่อนสั่งเลิกประชุม

ขณะที่ นายตำรวจหนุ่มนักบู๊รู้ดีว่า การที่พลตำรวจตรีประจันต์เรียกประชุมในวันนี้ เพราะถูกสื่อมวลชนหลายฉบับ รวมทั้งชาวบ้านหนองเต่าออกมาโจมตี หลังจากออกมาให้สัมภาษณ์ทำนองว่า ทั้ง “ไบคาน”และชาวบ้าน ต่างร้ายกาจพอกัน ตำรวจจะต้องปราบปรามทั้ง 2 ฝ่าย เพราะเป็นเรื่องของการขัดผลประโยชน์ โดยยุแหย่่ให้ชาวบ้านลุกฮือขึ้นสู้ เหมือนชาวบ้านตกเป็นเครื่องมือของกลุ่มผู้เสียผลประโยชน์

แค่นั้นก็ทำให้แกนนำชาวบ้าน โดยเฉพาะนายเทียม สดับจิตร อดีตกำนันตำบลชัยนารายณ์ และอดีตสมุนของ เสี่ยหยอง ออกมาตอบโต้ผ่านหน้าหนังสือพิมพ์จนทำให้พลตำรวจตรีประจันต์ถึงกับเละเป็นโจ๊กในสายตาของผู้ติดตามข่าวการสยบอิทธิพลไบคาน มาเฟียต่างชาติครั้งนี้

“ท่านผู้การ เคยไปแต่เยี่ยมไอ้หยอง  ทำไมไม่ลองมาเยี่ยมชาวบ้านบ้าง  เสียใจจริงๆที่ได้ยินเจ้าหน้าที่ระดับสูงพูดแบบนี้ ทั้งที่ความเป็นจริงอิทธิพลไบคาน ก่อความเดือดร้อนให้กับพวกเรา แต่พลตำรวจตรีประจันต์ไม่เคยเห็น แต่เมื่อชาวบ้านทนไม่ไหวรวมตัวกันต่อต้าน  พลตำรวจตรีประจันต์กลับมองเห็น และประณามว่าเป็นเรื่องชั่วช้าผิดกฎหมาย”

“พวกเราผิดหรือเพราะสู้กับไอ้หยอง หรือว่า ผิดเพราะไม่ทนให้เขารังแกต่อไป พวกเราพร้อมจะยอมให้ตำรวจจับ หากพบว่าเรามีพฤติกรรมผิดกฏหมายอย่างที่ถูกกล่าวหาจริง….”

อดีตลููกน้องไอ้หยอง สับ ผู้การตำรวจภูธรเขต 1 ต่อ

“อิทธิพลที่เกิดขึ้นทุกวันนี้ เพราะเจ้านายไม่วางตัวเป็นกลาง เข้าคลุกกับผลประโยชน์ ไม่เคยมองเห็นความทุกข์ของชาวบ้าน ภัยมืดที่เกิดขึ้นก็เพราะเหตุนี้ บ้านเมืองน่าจะสงบลงได้ ถ้าเจ้านายมองปัญหานี้มาตั้งแต่ต้น ไม่เข้าหนุนอิทธิพลชั่วจนชาวบ้านทนไม่ได้…”

ชลอได้แต่นึกเรื่องนี้อยู่ในใจ ขณะนั่งรถออกจากกองบังคับการตำรวจภูธรเขต 1 ความจริงบางเรื่อง ก็ไม่น่าเอามาพูด ผู้การไม่น่าปากไวไปตอบนักข่าวอย่างนั้นเลย…..

————————————————————-

ขณะเดียวกัน ที่บ้านพัก ไบคาน พงษ์สว่าง หรือ บาคาน อาซาเด  แขกปากีสถานที่เข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภาร ทำมาหากินเลี้ยงชีพจนกลายเป็นมาเฟียใหญ่ มีความเคลื่อนไหวเพราะมีบรรดากระจิบข่าวจากหลายสำนัก ไปขอสัมภาษณ์ถึงเรื่องลูกชายที่กำลังหลบหนีตำรวจอย่างหัวซุกหัวซุน

ท่ามกลางสายตาของตำรวจที่จับตาความเคลื่อนไหวอยู่ทุกระยะ เพราะยังไงเสียเชื่อว่า คนเป็นพ่อ ย่อมน่าจะรู้ว่า ลูกชายสุดรักสุดสวาทอย่าง ไอ้หยอง-สมชาย  และไอ้น้อย-ธงชัย ตอนนี้ทั้งคู่หลบไปกบดานอยู่ที่ไหน

สำหรับ เจ้าพ่อตัวจริงอย่าง ไบคาน วงการตำรวจรู้ดีว่า เคยถูกพลตำรวจตรีรุจน์ การธราชว์ อดีตผู้บังคับการตำรวจภูธรเขต 1 เสนอให้กรมตำรวจสั่งเนรเทศนายไบคาน โดยระบุว่า เป็นบุุคคลที่เฺป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศชาติ และเป็นภัยสังคม รวมข้อหาอื่นอีกหลายกระทง และมีผู้ร้องทุกข์แจ้งความไว้เป็นหลักฐานอีก 10 กว่าคดี

แต่เมื่อเรื่องถึงกรมตำรวจในสมัยที่จอมพลประภาส จารุเสถียร เป็นอธิบดีกรมตำรวจ กลับถูกดองเงียบหายไว้ จนมาถึงยุคที่ลูกชายสุดที่รักของ ไบคาน ก่อวีรกรรมกับชาวบ้านซ้ำจนกลายเป็นข่าวใหญ่ขึ้นอีกครั้ง

จากเหตุการณ์กระทบกระทั่งระหว่างลูกชายทั้ง 2 คน ของไบคาน กับชาวบ้าน จนกลายเป็นข่าวใหญ่โตระดับประเทศ  ไบคานได้ออกมาเปิดเผยกับบรรดาสื่อมวลชนที่มาขอสัมภาษณ์ โดยเปิดห้องรับแขกที่ใหญ่โตหรูหราโอ่อ่าสมศักดิ์ศรีมหาเศรษฐีมาเฟีย ภายหลังสมุนไบคาน ตรวจสอบหลักฐานของนักข่าวแต่ละคนว่าเป็นนักข่าวจริงหรือไม่

“ต้นเหตุมาจากกำนันเทียม เพียงคนเดียว มันยุงยงปลุกปั่นชาวบ้าน ทั้งที่จริงก่อนหน้านี้ชาวบ้านก็ไม่เห็นมีีอะไร…”

ไม้ใหญ่ไบคานในวัยย่าง 60 ปี เริ่มเปิดฉากโจมตี กำนันเทียม หรือนายเทียม สดับจิตร อดีตลูกน้องเก่า

แต่เมื่อนักข่าวถามว่า รู้บ้างหรือไม่ว่าลูกน้องในไร่ออกไปข่มเหงชาวบ้าน สร้างคดีฆาตกรรมสะเทือนขวัญไว้มากมาย โดยเฉพาะนายสมชาย พงษ์สว่าง หรือเสี่ยหยอง ลูกชายคนโปรด

“ไม่จริงหรอก สมชายเป็นเด็กดี”

“แล้วเด็กดี ทำไมถึงมีข่าวพัวพันฆ่าแม่เลี้ยงตัวเองกับญาติพี่น้องถึง 5 ศพ”

เสียงนักข่าวส่วนกลาง ที่มาจากกรุงเทพฯของหนังสือพิมพ์ไทยรัฐย้อนถามจี้จุด

“เรื่องนี้ สมชายไม่ได้เกี่ยวข้องด้วยเลย คนมันกล่าวหากัน ฉันเองที่เป็นคนไปจับตัวสมชายมามอบให้กับตำรวจ หลังจากที่เรื่องนี้เกิดขึ้น ตอนนี้ไม่มีอะไรแล้ว สมชาย มันเป็นคนรักน้องมาก ไม่ว่าจะร่วมท้องหรือคนละแม่ แม่เลี้ยงทุกคน สมชายก็ให้ความเคารพ….”

“แล้วเรื่อง วันดี นางเอกภาพยนต์คนดัง ภรรยาเสี่ยหยองที่เสียชีวิตอย่างมีปริศนาล่ะครับ…”

นักข่าวคนเดิมถามต่อ

“เรื่องวันดีก็ถูกลือว่าถูกวางยาพิษตาย แผลสักนิดหนึ่งก็ไม่มี หมอและตำรวจเขาก็ลงความเห็นว่าป่วยตาย คือวันดีนี่จริงๆแล้ว พอเขาคลอดลูกเขาก็ผอมลงเรื่อยๆ แล้วก็ตายไป วันดี ฉันรักยิ่งกว่าลูกชายฉัน ทุกวันตรุษไม่ว่าจะเป็นวันออกบวชออกฮัจน์ วันดี จะต้องมาสลามฉันที่บ้านก่อนคนอื่น โดยจะมาคอยจนกว่าฉันจะตื่น และไม่ยอมให้ใครมาปลุก…….”

“สำหรับโซเมดา ลูกสาวที่เกิดจากวันดี และนายสมชาย ตอนนี้อยู่กับฉัน  ทำหนังสือเดินทางเรียบร้อยจะให้ไปเรียนต่อที่ปากีสถาน หากแม่วันดีมารับตัวตามข่าว ฉันไม่ให้เด็ดขาด เพราะฉันรักของฉัน เลี้ยงมันมาตั้งแต่เล็กเป็นหลานปู่ ฉันจะเลี้ยงโซเมดาให้ดีที่สุด….”

“เรื่องขุดศพวันดีเหมือนกัน ฉันก็ไม่ยอม ตอนวันดีตาย ตำรวจมาชันสูตรบันทึกหลักฐานไว้เรียบร้อย นี่ก็ฝังไป4-5 ปีแล้ว จะเหลืออะไรที่จะเป็นประโยชน์อีก เรื่องอื่นฉันรับและนำมาพิสูจนได้ แต่เรื่องขุดศพข้ึนมา ฉันขัดข้องทุกด้าน เพราะเป็นการรบกวนผู้ตาย อีกทั้งทางด้านศาสนา ห้ามไม่ให้ขุดศพที่ฝังไปแล้วขึ้นมาอีก….”

แล้วที่ว่า ไบคาน มีความสัมพันธ์กับนายตำรวจระดับสูงหลายคน

“ฉันไม่เคยรู้จักกับตำรวจเลยสักคน ถ้าพลตำรวจระดับเล็กๆละก็รู้จัก   “ลมพิษ”ฉันก็ไม่เคยไปหา “

“ลมพิษ”ของไบคาน หมายถึงพลตำรวจตรีลินพิชญ์ สัจจพันธ์ ผู้ช่วย ผบช.ภ.1 ที่เคยถูกกล่าวหาว่าสนิทสนมกับ ไบคาน จนเจ้าตัวออกมาให้สัมภาษณ์ถูกปล่อยข่าวว่าสนิทสนมกับมาเฟียรายนี้เพราะมีคนริษยา

“แล้วกับพลตำรวจตรีประจันต์ พราหมณ์พันธุ์ ล่ะครับ…..”

นักข่าวหนุ่มจากสำนักพิมพ์หัวเขียว คนเดิมยังยิงคำถามแบบไม่ให้ตั้งตัว

“ก็รู้จักกันตามธรรมดา เพราะเขาเคยเป็นผู้กำกับตำรวจจังหวัดสระบุรี….”

ระหว่างสัมภาษณ์ ไบคานนั่งขยับไม้เท้าคู่ในใจมือ แววตาจ้องเขม็งไปยังนักข่าวทีละคน บางคนจิตใจอ่อนไหวไม่มั่นคง พอสบตามาเฟียใหญ่ตัวจริง ถึงกับสะดุ้งเฮือกหลบตาลงต่ำ ขณะที่ ไบคานพูดต่ออีก

“ฉันเป็นคนรักสงบ เข้าสุเหร่าวันะละ 5  เวลา เพื่อทำละหมาด แต่เรื่องที่เกิดขึ้น มาจากการโกหกของคนที่มุ่งร้ายบางคน ฉันเชื่อว่าพระอัลเลาะห์จะต้องลงโทษคนที่โกหกตอแหลใส่ฉันคอยดูสิ…”

เหยี่ยวข่าวหนุ่มจากไทยรัฐ ที่เป็นพระเอกในการสัมภาษณ์ไบคานในวันนี้ เพราะถามอยู่คนเดียว ตั้งคำถามใหม่มาเฟียใหญ่อีก

“แล้วการที่ชาวบ้านจับกลุ่มรวมตัวสู้ อีกทั้งตำรวจกำลังขุดคุ้ยคดี เป็นเพราะพระอัลเลาะห์ลงโทษไบคานอยู่ใช่ไหม……”

คำถามนี้ เล่นเอาวงนักข่าวถึงกับมองหน้ากันเลิ่กลั่ก ขณะที่ ลูกน้องบางคนของไบคาน เริ่มมองหน้านักข่าวหนุ่มจากส่วนกลางสังกัดหัวเขียวอย่างไม่วางตา ส่วนไบคาน แม้จะไม่แสดงสีหน้าใด แต่ก็ขยับตัวเข้ามาหาอย่างช้าๆ และยกมือที่ใหญ่และสากหนา บีบลงที่ไหล่เหยี่ยวข่าวปากกล้า ไม่หนักและไม่เบา พร้อมกับจ้องลึกลงไปในดวงตาเหยี่ยวข่าวคนนี้้

“ฉันเป็นคนดี ลูกหลานฉันก็เป็นเด็กดีทุกคน แต่ถูกไอ้พวกชาวบ้านมันแกล้ง พระเจ้าจะต้องลงโทษพวกมัน….”

พูดจบ ไบคานปล่อยมือที่จับไหล่นักข่าวก่อนถอยตัวออกไปนั่งเก้าอี้ใหญ่ตามเดิม

นักข่าวหนุ่มคนเดิมไม่ลดละยิงคำถามตรงๆซ้ำไปอีกข้อ

“ถ้าไบคานบอกเป็นคนดี ละหมาดวันละ 5 ครั้งทุกวัน ไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ไม่พูดเท็จ และไม่ลักขโมย แล้ว ไบคาน มีทัศนะต่อการฆ่าคนตายอย่างไรบ้าง”

มาเฟียใหญ่ต่างชาติที่มีนามสกุลเป็นไทยยกมือลูบหนวด และมองหน้าคนถามคนเดิมก่อนตอบว่า “ฉันไม่เห็นด้วย ไม่มีอะไรที่จะฆ่ากัน เกิดประโยชน์อะไรบ้าง ที่คนๆหนึ่งจะไปฆ่าคนอีกคนหนึ่ง…..”

บรรยากาศเริ่มที่จะดีขึ้นทันทีที่นักข่าวหนุ่มที่ไม่รู้ไปกินดีหมีหัวใจเสือมาจากที่ไหนขอถามคำถามสุดท้าย

“ แล้วตอนนี้นายสมชาย ลูกชายไบคาน ไปอยู่ไหน….”

“ไม่รู้เหมือนกัน ว่าหายไปไหน ฉันกำลังตามหาตัวเขาอยู่เหมือนกัน”

RELATED ARTICLES