อะไรที่ทำให้ตัดสินใจคิดผิด

ตำรวจสืบเมืองกรุงเก่าฉาวอีกจนได้

ปืนหลวงหายจากคลังกองกำกับการตำรวจสืบสวนภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา 11 กระบอก เล่นเอาหัวร้อนกันเป็นแถว

ความแตกเมื่อตำรวจสายตรวจสถานีตำรวจนครบาลวังทองหลางตรวจคนรถฟอร์จูนเนอร์ต้องสงสัยบริเวณถนนศรีวราตัดถนนประดิษฐ์มนูธรรม แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง กรุงเทพมหานคร

คุมตัวนายอาทิตย์ หาญพาณิชกิจ อายุ 25 ปี พร้อมปืน .38 ยี่ห้อเทารัส 1 กระบอก และปืน 9 มิลลิเมตร์ ยี่ห้อ ซิกซาวเออร์ รุ่น P 320SP ทะเบียนตราโล่ T60113287 อีกจำนวน 1 กระบอก ไปดำเนินคดีข้อหา มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ปืนผิดมือ และพกพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร

ผู้ต้องหาอ้างว่ารับจำนำปืนมาจากชายชื่ออาร์มอยู่จังหวัดสุพรรณบุรี

ปืน 9 มิลลิเมตร์ ยี่ห้อ ซิกซาวเออร์ รุ่น P 320SP ทะเบียนตราโล่ T60113287 เป็นโครงการสวัสดิการที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติจัดซื้อทดแทนปืนรุ่นเก่ามอบให้ตำรวจไว้ใช้ปฏิบัติหน้าที่ และเป็นขอถูกส่งไปยังกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา

กระทั่งมีการขยายผลตรวจสอบคลังอาวุธปืนของกองสืบเมืองกรุงเก่าถึงรู้ว่า ยังมีปืนที่หายไปอย่างไร้ร่องรอยอีก 10 กระบอก

รวมปืนหายไปทั้งสิ้น 11 กระบอก

พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รับผิดชอบพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 1 ได้ลงมาควบคุมการสอบสวนด้วยตัวเอง มอบหมายให้ พล.ต.ต.โชคชัย งามวงศ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ไปแจ้งความไว้ที่สถานีตำรวจภูธรพระนครศรีอยุธยา

มี พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 พล.ต.ต.สุภธีร์ บุญครอง ผู้บังคับการสืบสวนตำรวจภูธรภาค 1 ร่วมกันสืบสวนข้อเท็จจริงเพื่อหา “ไอ้โม่ง” ดอดฉกปืนหลวง ในคลังอาวุธของตำรวจกรุงเก่า

เรียก ด.ต.นิกร ศิริเลี้ยง และด.ต.นิพล รักษาสนิท จ่ากองผู้ดูแลห้องคลังอาวุธของหน่วยมาสอบปากคำเบื้องต้นอ้างว่า ไม่รู้ปืนต้นสังกัดหาย เพราะคลังไม่ได้ถูกงัด กุญแจอยู่ในสภาพเรียบร้อย ลูกกุญแจคลังอาวุธมี 3 ดอก ต้องไขพร้อมกัน ทั้งคู่เก็บไว้คนละดอก

อีกดอกอยู่กับ พ.ต.อ.ภัทรภัทร นุชยวง ผู้กำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา

เรื่องนี้ตำรวจมั่นใจเป็นฝีมือคนในร้อยเปอร์เซ็นต์  

ผ่านมาเกือบครึ่งเดือนนับตั้งแต่วันที่ตรวจค้นรถพบปืนหลวงอยู่ในความครอบครองของนายทุนรับจำนำปืนในคืนวันวาเลนไทน์

สุดท้าย ส.ต.ท.สันติ จับเทียน ผู้บังคับหมู่กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ถูกควบคุมตัวตามพยานหลักฐานที่สืบสวนสอบสวนพบเป็นผู้ขโมยปืนหลวงของสังกัดตัวเอง ก่อนขยายผลยึดปืนคืนมาได้อีก 3 กระบอก

ก่อนหน้าเมื่อปลายเดือนธันวาคม 2557 เจ้าตัวเคยถูกตั้งกรรมการดำเนินคดีทางวินัยข้อหาละทิ้งหน้าที่ ขาดราชการ แม้จะชี้แจงเหตุผลเกิดจากโรคประจำตัว อาการกำเริบ

แต่ไม่เป็นผล ถูกคำสั่งลงโทษ “กักขัง” 

ครั้งนั้นเขาโพสต์เฟซบุ๊กระบายความในใจ

“นี่คือ สิ่งสำคัญและเหตุผลที่ผมเป็นอยู่ อารมณ์ ความรู้สึก น่าจะอธิบายได้ทุกอย่าง เพิ่งรู้นะที่เขาเรียกว่า รางวัลของคนทำงาน”

เที่ยวนี้สิบตำรวจโทนักสืบยอมจำนนรับสารภาพว่า ขณะปฏิบัติหน้าที่เป็นสิบเวรได้พบกุญแจวางเอาไว้ที่โต๊ะ จึงเอากุญแจไปไขห้องขโมยเอาปืนสวัสดิการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติจำนวน 11 กระบอก ทยอยเอาออกไปขายและจำนำ

เนื่องจากช่วงนี้มีปัญหาเรื่องเงิน

อยู่ระหว่างขยายผลหาผู้เกี่ยวข้องที่เหลืออีก 2-3 คน

แต่น่าแปลกตรงความหละหลวมของคลังอาวุธหน่วย เกิดจากความห่วยของผู้บังคับบังคับบัญชา หรือว่ามีเจตนาแอบแฝง

ในเมื่อ “จ่ากอง” บอกกุญแจต้องไขพร้อมกัน 3 ดอก

แล้วอีกดอกสำคัญใน “มือผู้กำกับ” ทำไมมากองรวมอยู่บนโต๊ะสิบเวรด้วยล่ะ

 

 

RELATED ARTICLES