นักเทคนิคการแพทย์สาวเมืองอุบลราชธานี
คุณกิ๊ก-ธีรารัตน์ ถนอมสิน ภรรยา พ.ต.ท.กิตติพงษ์ ถนอมสิน รองผู้กำกับการปราบปราม สถานีตำรวจภูธรขามสะแกแสง จังหวัดนครราชสีมา นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 54
ลูกพันเอกพิเศษอดีตนายทหารตุลาการศาลพระธรรมนูญ เริ่มเรียนอนุบาลอุบลราชธานีแล้วไปต่อชั้นมัธยมต้นโรงเรียนนารีนุกูล มัธยมปลายโรงเรียนเบ็ญจะมะมหาราช จากนั้นไปสอบเข้ามหาวิทยาลัยขอนแก่น
เจ้าตัวเล่าว่า ตอนเด็กๆ ก็อยากมาทางสายแพทย์ แต่จริงๆ ก็กลัวเลือด ลังเลอยากไปเรียนสายศิลป์ แต่พ่อไม่ให้เรียน กลัวหางานทำยาก เป็นคนชอบเรียนภาษาอังกฤษ ก่อนตัดสินใจเรียนเทคนิคการแพทย์ เพราะชอบวิทยาศาสตร์ด้วย เรียนจนจบก็ทำงานทันทีเป็นลูกจ้างชั่วคราวอยู่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ เมืองอุบลราชธานี แล้วสอบบรรจุไปอยู่โรงพยาบาลน้ำยืนนาน 8 ปีขอย้ายกลับมาโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ตามเดิม
เพราะแต่งงานมีครอบครัวแล้ว
ชีวิตรักกับนายตำรวจหนุ่ม เริ่มต้นจากมีเพื่อนเรียนวิศวะ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ทำหน้าที่แม่สื่อแนะนำให้รู้จักกัน เป็นช่วงเธอเลิกรากับแฟนพอดี ขณะที่ฝ่ายชายก็โบกมือลาแฟนเก่าเหมือนกัน คุณกิ๊กรับว่า ตอนนั้นไม่ได้ชอบตำรวจ แต่ก็คุยกัน คุยไปคุยมารู้สึกถูกคอ คุยกันนานอยู่ ตอนหลังเขาก็มาหาที่บ้านที่อุบลฯ ครั้งแรกก็ยังไม่ค่อยเจอ เขาก็ส่งรูปมา แล้วเราก็ส่งรูปไปทางจดหมาย คบกันนานหลายเดือนกว่าจะยอมเป็นแฟน ด้วยความไว้ใจ
ขณะนั้นฝ่ายชายเป็นรองสารวัตร สถานีตำรวจภูธรบ้านเขว้า จังหวัดชัยภูมิ นับว่าระยะทางการเดินทางไกลกันพอสมควรเลยต้องใช้วิธีโทรศัพท์หากันบ้า ส่งจดหมายบ้าง คุยกันเรื่อยมา ใช้เวลา 5 ปี ประตูวิวาห์ก็เปิดรับรักหวานที่สุขงอมเต็มที “คิดว่า น่าจะฝากชีวิตกับเขาไว้ได้ พ่อ แม่ เราก็โอเค แต่งงานตอนนั้นอยู่โรงพยาบาลน้ำยืน พอมีลูกคนคนโตเลยขอย้ายกลับมาอยู่เมืองอุบลราชธานี” นักเทคนิคการแพทย์ว่า
ทั้งเขาและเธอมีพยานรักเป็นลูกชาย 2 คนวัยกำลังซน คือ น้องกูเกิ้ล-กรวิชญ์ ถนอมสิน วัย 6 ขวบ เรียนอยู่ชั้นประถม 1 โรงเรียนอนุบาลอุบลราชธานี และน้องเกื้อกูล-เธียรวิชญ์ ถนอมสิน อายุ 5 ขวบ อยู่ชั้นอนุบาล 1 โรงเรียนเดียวกัน เธอบอกว่า เป็นครอบครัวตำรวจ รู้สึกเหนื่อยด้วยเงื่อนไขของเวลา เราทำงานด้วย เลี้ยงลูกด้วย สามีย้ายมาอยู่โคราช วนๆ อยู่ก็ไกลเรา เวลาเจอกันจะนั่งรถไฟมาบ้าง ช่วงหลังๆ ก็ขับรถมาบ้าง แต่งงานแล้วก็ยังไม่ได้อยู่ด้วยกัน
“ ลำบากเหมือนกัน ก็เป็นอุปสรรคความรัก แต่อาศัยความไว้ใจ ตอนมีลูกก็เหนื่อย บริหารชีวิตกัน แต่ดีที่มีคุณแม่ช่วยเลี้ยงหลานทั้ง 2 คน ยอมรับว่า เด็กผู้ชายซนมาก สามีจะกลับมาบ้าน 2 อาทิตย์ครั้ง ไม่อย่างนั้นเราก็ต้องกะเตงลูกไปหา ใช้หลักอดทน คิดว่าเราต่างต้องทำงาน ต้องไว้ใจ เชื่อใจกัน เขามีอะไรเราก็ต้องให้เกียรติว่า เขาไปทำงาน เราก็มีหน้าที่ทำงานและเลี้ยงลูก ต้องทำหน้าที่ให้ดี ถ้าเราว่าง เราก็ไปหาเขา เขาว่างก็จะมาหาเรา”
คุณกิ๊กว่า ลูก ๆ ก็จะชินนั่งรถไฟ ถือว่า รถไฟปลอดภัย ใช้เวลา 4 ชั่วโมง จากอุบลราชธานีมานครราชสีมา ส่วนอนาคตถ้าลูกอยากเป็นตำรวจก็แล้วแต่เขา ไม่บังคับ ส่วนใหญ่ไม่ค่อยทะเลาะกัน แต่ถ้าทะเลาะก็จะเคลียร์ให้จบภายในวันนั้น คืนนั้น สาเหตุก็แล้วแต่ ไม่ค่อยมีสาระอะไรเท่าไหร่ แต่จะเคลียร์ให้จบภายในวันนั้น ชีวิตจะว่าไปแล้วเรียบๆ เรื่อยๆ เรียบง่าย คิดว่าโอเคอยู่ แต่งงานมาครบรอบ 7 ปีแล้ว ครอบครัวก็มีความสุขดี
คุณแม่ยังสาวบอกอีกว่า ลูกสองคนก็ทำให้เราไม่เครียดไม่เหงา เพราะซน ต้องให้เวลาดูแล ซนมาก คิดถึงความหลัง ตอนแรกไม่ชอบตำรวจก็ไม่รู้เหมือนกันเพราะอะไร อาจเป็นเพราะอาชีพนี้ อีโก้สูง ๆ แรกไม่ได้อะไรมาก ก็คุยกันไป พอดีคุยกันถูกคอ รู้สึกว่า มีปฏิภาณ ไหวพริบดี เขาพูดเก่ง แต่ถ้าคนที่ไม่สนิทเขาจะไม่คุย บางทีกับพ่อตา แม่ยาย เขาก็จะไม่คุย เขาขับรถไป เราไม่ชวนเขาคุย เขาก็ไม่คุย ขับรถไปเรื่อยๆ