“ถ้ามันสู้ เราต้องป้องกันตัวเองได้” พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลางมองภาพในอนาคต
เนื่องจากแนวโน้มอาชญากรรมทวีความรุนแรงมากขึ้น
“กราฟมันจะพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ คนร้ายจะกลัวตำรวจน้อยลง สู้กับตำรวจมากขึ้น เพราะฉะนั้นตำรวจก็ไม่ต้องรอให้เกิดเหตุก่อน เราต้องรีบฝึกยุทธวิธี ถ้าเราทำตามยุทธวิธี โอกาสการสูญเสียจะน้อยลง” นายพลหนุ่มว่า
เขายังเห็นว่า ที่ผ่านมา บ่อยครั้งตำรวจไทยไม่เคยเรียนรู้ยุทธวิธี ยกตัวอย่างไปตรวจค้น เคาะประตูห้องเดินเข้าไปเลย อาศัยว่า คนร้ายจะไม่สู้อย่างเดียว
พล.ต.ต.จิรภพจำเป็นต้องให้ผู้ใต้บังคับบัญชาฝึกทบทวนยุทธวิธีตามแนวนโยบาย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ก่อนมอบหมาย พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผู้บังคับการปราบปราม พ.ต.อ.วิจักขณ์ ตารมย์ ผู้กำกับการสนับสนุน กองบังคับการปราบปราม นำ หน่วยปฏิบัติการพิเศษหนุมาน เข้ารับการอบรมเข้มข้นจากวิทยากรผู้ชำนาญการของประเทศอิสราเอล
นายเอมิต ฮิลเลล เจ้าหน้าที่ตำรวจด้านความมั่นคงสาธารณะ ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และ นายโยเอล ดี อาจารย์ด้านความมั่นคงและการต่อสู้ ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ถูกรับเชิญมาเป็นครูฝึกให้ความรู้ในด้านยุทธวิธีเกี่ยวกับการยิงปืนที่สนามยิงปืน โรงเรียนนายร้อยตำรวจ อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม
มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการเพิ่มทักษะในการยิงปืนขั้นสูงตามมาตรฐานหลักสูตรจากหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายของต่างประเทศ และเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำหน่วยหนุมานกองปราบสามารถนำความรู้ที่ได้จากการฝึกอบรมไปประยุกต์ใช้กับการปฏิบัติหน้าที่ในสถานการณ์จริง
หลักสูตรดังกล่าวจะมีการฝึกอบรมตั้งแต่พื้นฐานการใช้อาวุธปืนที่ถูกต้อง การแก้ไขอาวุธปืนติดขัด รวมไปถึงลักษณะการยืนยิง ท่าทางต่างๆ หลังจากนั้นเป็นการฝึกในระดับที่สูงขึ้น ฝึกการใช้อาวุธปืนในการตอบโต้อย่างฉับพลัน
การแยกแยะระหว่างพลเมืองกับคนร้าย
การยิงปืนในสภาวะกดดัน การยิงปืนในระบบต่อสู้ การใช้อาวุธปืนสั้นและปืนกลเบาภายใต้สภาวะกดดัน การสลับอาวุธปืนเมื่อเกิดการติดขัดหรือกระสุนหมด การเลือกใช้อาวุธปืนให้เหมาะสมกับสถานการณ์ต่างๆ การควบคุมการยิงปืนภายใต้สภาวะกดดันและเหน็ดเหนื่อย
“ความรู้ และเทคนิคต่างๆ ที่ได้จากการฝึกอบรมจากเจ้าหน้าที่ตำรวจประเทศอิสราเอลล้วนเป็นประโยชน์ต่อการปฏิบัติหน้าที่ในสถานการณ์จริง เพราะบางครั้งเจ้าหน้าที่ต้องเผชิญกับสภาวะกดดันต่างๆ หรือจะต้องเผชิญกับสภาวะความเหน็ดเหนื่อยระหว่างการปฏิบัติหน้าที่” พล.ต.ต.จิรภพว่า
หน่วยปฏิบัติการพิเศษหนุมาน กองปราบปราม เป็นหน่วยงานที่ตั้งขึ้นเพื่อปฏิบัติหน้าที่บังคับใช้กฎหมายด้วยความเป็นมืออาชีพ มีความเป็นกลาง เป็นหน่วยปฏิบัติการพิเศษที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่เคียงข้างประชาชนมาโดยตลอด
เห็นได้จากการปฏิบัติหน้าที่สนับสนุนการจับกุมคดีสำคัญต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น คดีเสี่ยบรรยิน ตั้งภากรณ์ อุ้มฆ่าพี่ชายผู้พิพากษา คดีฆ่าโบกปูน คดีผู้อำนวยการโรงเรียนฆ่า 3 ศพชิงทองกลางเมืองลพบุรี คดีจ่าทหารคลั่งกราดยิงที่จังหวัดนครราชสีมา
ล้วนเกิดจากการปฏิบัติหน้าที่อย่างรัดกุมและมีประสิทธิภาพของเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนาย
สำหรับประเทศอิสราเอล แม้เป็นประเทศเล็ก แต่มีประสบการณ์ความชำนาญด้านยุทธวิธีมากมาย เนื่องจากต้องเผชิญสถานการณ์สู้รบมาตลอด เป็นประเทศที่ยอดฝีมือ วิทยาการ เทคโนโลยีระดับชั้นนำของโลก
“วิธีการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่อยู่ในเกณฑ์ระดับท็อปไฟว์ของโลก ไม่ว่าจะเป็นการต่อสู้ป้องกันตัว การใช้อาวุธ การใช้เทคโนโลยี การออกภาคสนาม สนามรบ การทำงานต่างๆ เรียกว่า เป็นแนวหน้าของโลก เป็นประสบการณ์จริง ใช้จริง” รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลางให้เหตุผลที่เลือกครูฝึกจากประเทศอิสราเอลมาช่วยเสริมอิทธิฤทธิ์ หน่วยปฏิบัติการพิเศษหนุมาน
พล.ต.ต.จิรภพยืนยันว่า เราต้องฝึกให้เข้ากับสถานการณ์จริง ให้คุ้นเคยในสภาวะกดดัน ฝึกให้ใกล้เคียงที่สุด สมมติว่า อาจต้องวิ่งไปก่อนจะจับคนร้าย อาจต้องมีการฟัดกันก่อน ต้องให้มันสมจริง ไม่ใช่ยิงเป้าอย่างเดียวแล้วจะไม่คุ้นเคย
เขายังมีโครงการฝึกอีกหลายหลักสูตรและเชิญวิทยากรอีกหลายประเทศมาให้ความรู้ เหตุผลเพราะสังคมเปลี่ยนแปลงไปมาก แนวโน้มสถานการณ์การก่อเหตุร้ายใช้ความรุนแรงมากขึ้น
“ในอดีตคำว่า ตำรวจ คนร้ายจะต้องยอมยอมหมด คนร้ายจะหยุด พอบอกว่า ตำรวจ อนาคตผมมองว่า คนร้ายจะหันมาต่อสู้เมื่อเจอตำรวจ ที่กำลังมีให้เห็นอยู่เรื่อยๆ แต่การจะป้องกันตัวเองได้อย่างไร ล้วนเกิดจากการฝึกฝน”
เมื่อเผชิญหน้ากับเหตุการณ์จริง