บทเรียนแลกชีวิตในเครื่องแบบ

 

ความลับไม่เป็นความลับอีกต่อไป

แต่เรื่องลี้ลับ “ซ่อนเกมกล” ยังวนเวียนอยู่ในเมืองนครสวรรค์ แดนสวรรค์แห่งลุ่มปากน้ำโพ

ความจริงที่ถูกเปิดเผยจากคลิปวิดีโอ บทพิสูจน์เรื่องราวสร้างเรื่องฉาววงการสีกากี ทั้งที่เป็น ความผิดของคนกลุ่มเดียว แต่กำลังโดนเหมารวมไปท่วมทั่วทุ่งปทุมวัน

“ตำรวจเลว ตำรวจชั่ว” เสียงสาปส่งสาดเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย

แผลเก่าตกสะเก็ดถูกสะกิดนิดเดียวก็เลือดพุ่งกระจาย

เสมือนบทเรียนราคาแสนแพงแลกด้วยอนาคตชีวิตในเครื่องแบบของ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองนครสวรรค์ นายตำรวจหนุ่มนักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 57 ที่อยู่ใน “กลุ่มดาวรุ่ง” นำรุ่นต้องจบเห่รวดเร็วก่อนวัย

เซฟเฮาส์กับเรื่องราว “ความลับแตก” ไม่เท่าบรรยากาศ “แตกความสามัคคี”ภายในโรงพัก

นายตำรวจรุ่นน้องมองข้ามหัวนายตำรวจรุ่นพี่ พยายามสร้างบารมีเหนือกว่าด้วยความเป็นผู้บังคับบัญชา ทุบโต๊ะเปลี่ยน “หัวเบี้ย” กระทั่งเกิดชนวนขัดแย้งร้าวลึกฝังใจ อาศัยรู้จักผู้หลักผู้ใหญ่ไม่สนใครจะ “หมั่นไส้”

ชะล่าใจจนทำให้เดินเกมชีวิตผิดพลาด

“มังกรพลัดถิ่น ฤาจะสู้กับงูดินเจ้าที่” บางคนแสดงทัศนะ

ในที่สุดสมุนงูดิน “พ่นพิษ” เปลี่ยนชีวิตเสวยสุขบนกองเมืองสวรรค์ร่วงตกลงนรกไปในพริบตา

“ผู้บังคับบัญชาในอดีตสอนไว้เสมอ การที่จะมาเป็นผู้นำหน่วยต้องบริหารความขัดแย้ง และบริหารผลประโยชน์ทั้งในและนอกระบบให้สมดุลกัน ไม่อย่างนั้นจะเกิดปัญหา” ทัศนะจากคนเดิมว่า

ปัญหาของ แผ่นดินสี่แคว โดนแชร์ไปสนั่นโลกโซเชียล แถมเที่ยวดึงบุคคลไม่เกี่ยวข้องเข้ามาอยู่กลางสนามร้อนของ “ผู้กำกับไฮโซคนดัง”

“กรุณาอย่าลากลูกสาวผมเข้าไปได้ไหม” พล.ต.ท.อภิชาติ ศิริสิทธิ์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 อยากระบายความในใจวอนฝากถึงสังคมออนไลน์ เจ้าตัวยืนยันไม่เคยปกป้องแฟนหนุ่มของลูกสาว ทันทีที่มีข่าวถูกกล่าวหาได้รีบตัดสินใจเซ็นคำสั่งย้ายให้ไปช่วยราชการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรภาค 6 เพื่อเปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายสอบสวนข้อเท็จจริง

ล่าสุดมอบให้ พล.ต.ต.เอกรักษ์  ลิ้มสังกาศ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 หอบหลักฐานไปขอหมายจับข้อหาฉกรรจ์ที่ศาลจังหวัดนครสวรรค์

“ใครจะทำเลว เป็นเรื่องส่วนบุคคล องค์กรไม่เกี่ยว” หลายคนพูดตรงกัน

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไม่ได้ส่งเสริมตำรวจทำชั่ว

โรงเรียนนายร้อยตำรวจ ไม่เคยสอนให้ตำรวจทำเลว

เพื่อนร่วมรุ่นในรั้วพรานไม่ได้เป็น “มาร” เหมือนกันหมด

“อย่าเหมารวมได้ไหม”

พฤติกรรมของนายตำรวจหัวหน้าโรงพักหนุ่มกำลังพาองค์กรสีกากี “เปียกชุ่ม” ไปด้วยน้ำลายจากเสียงวิพากษ์วิจารณ์บน “แป้นคีย์บอร์ด” แบบไร้เหตุผล

“ฝากเป็นอุทาหรณ์ให้เพื่อนข้าราชการตำรวจทุกนายดูไว้เป็นตัวอย่าง” พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข แม่ทัพใหญ่เข้าใจโลกมากกว่าใคร เพราะผ่านเรื่องราวทำนองเดียวกันมาเยอะ ตั้งแต่คลุกฝุ่นอยู่ในสนามนักสืบวัยหนุ่ม

เขาไม่รีรอลังเลใจให้เสียเวลาเมื่อปรากฏภาพหลักฐานชัดเจนเป็นเหตุผลต้องสะบัดปากกาเซ็นคำสั่งให้ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล ออกจากราชการ พร้อมตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรง สั่งดำเนินคดีเอาผิดในคดีอาญาทุกข้อกล่าวหา

“ทำอะไรไว้ไม่ดี ไม่มีทางหนีพ้นไปได้ และสิ่งที่ตามมามันเกิดความเสียหาย หากนิ้วไหนไม่ดีก็ต้องตัดทิ้ง ส่วนตัวมั่นใจว่า ตำรวจส่วนใหญ่ยังดี คนไม่ดีก็ต้องรับผลกรรมที่ทำไว้ เราไม่สามารถเอาคนแบบนี้ไว้ได้ เพราะคนที่เหลือจะเดินไม่ได้”

 เป็นตำรวจก็ต้องรักษากฎหมาย เพราะถ้าประชาชนไม่เชื่อมั่นศรัทธาก็อยู่กันไม่ได้

กระทบต่อภาพลักษณ์ของตำรวจโดยตรง

“ดังนั้นตำรวจกว่า 2แสนที่เหลือ ต้องช่วยกันทำองค์กรให้ดี ให้ได้”  เป็นแรงปรารถนาของ “พิทักษ์ 1”

RELATED ARTICLES