ญาติของ วีรบุรุษอีโอดี ที่ยังมีลมหายใจขอเป็นตัวแทน ขอบคุณนักข่าวและผู้มาทำข่าวเกี่ยวกับครอบครัว “หมวดท็อป” ที่ได้เล่าถึงเหตุการณ์ และชีวิตปัจจุบันความเป็นอยู่ที่แท้จริง
ทุกวันนี้ต้องใช้ชีวิตและความเป็นอยู่อย่างไร
เรื่องราวของ “หมวดท็อป” คงเลือนหายไปจากหยักความทรงจำของใครหลายคน นายตำรวจหนุ่มอนาคตไกลกำลังไปได้สวยบนเส้นทางชีวิตรับราชการกลับต้องมาเผชิญวิบากกรรมบาดเจ็บสาหัสจากแรงระเบิดของผู้ก่อความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
แถมภรรยาสาวกำลังท้องแก่ใกล้คลอด
เมื่อเช้าวันที่ 14 กันยายน 2560 ร.ต.ท.ยุทธนา เทพสถิตย์ สังกัดกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 14 ช่วยราชการหน่วยเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ ไปปฏิบัติหน้าที่ในภารกิจพื้นที่อำเภอกาบัง จังหวัดยะลา
เสียงระเบิดครั้งนั้นคร่าชีวิต ดาบยักษ์-ด.ต.อนิรุทธ จันทะวงษ์ เพื่อนร่วมสมรภูมิร้อนที่ต้องพลีร่างสังเวยความรุนแรง ส่วนเขาบาดเจ็บสาหัสนำส่งโรงพยาบาลศูนย์ยะลา ก่อนลำเลียงไปรักษาต่อที่ห้องไอซียู โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดยะลา
ย้ายมาพักรักษาตัวอยู่โรงพยาบาลตำรวจเพื่อฟื้นฟูร่างกายนานหลายเดือน เนื่องจากสะเก็ดระเบิดฝังเข้าไปในสมอง เส้นประสาทตาถูกทำลาย ร่างกายซีกซ้ายพังยับเยิน
เกือบ 2 ปี ที่ วีรบุรุษนักกู้ระเบิดจมอยู่ในโรงพยาบาลแทบไม่เห็นแสงสีข้างนอก ไม่ได้เที่ยวเหมือนคนปกติ แต่ได้ญาติพี่น้องใกล้ชิดคอยดูแล ร่วมทุกข์ ร่วมสุข มี “น้องเอวา” ลูกสาววัยน่ารักแวะเวียนมานอนอยู่ในอ้อมกอดของพ่อ
กลายเป็นกำลังใจชั้นดีที่ทำ “หมวดท็อป” ไม่เคยท้อ พยายามสู้ ขยันทำกายภาพทุกเช้าเย็นอย่างอดทน และได้ พยูร เทพสถิตย์ ผู้เป็นแม่ที่ยอมลาออกจากงานมาเฝ้าลูกชายตลอดกว่า 2 ปีที่เหตุการณ์ร้ายมาเยือนครอบครัว กระทั่งได้รับเลือกเป็น “แม่ดีเด่นแห่งชาติ” ประจำปี 2561
อาการของผู้หมวดกระดูกเหล็กดีขึ้นตามลำดับ แม้จะไม่สมบูรณ์ร้อยเปอร์เซ็นต์ แพทย์โรงพยาบาลตำรวจอนุญาตให้กลับไปรักษาตัวต่อที่บ้านเกิดของพ่อในอำเภอสามชุก จังหวัดสุพรรณบุรี ทำกายภาพบำบัดทุกวัน
ท่ามกลางความหวังของเจ้าตัวที่จะหายเป็นปกติ พลิกฟื้นชีวิตคืนไปทำหน้าที่ตำรวจนักกู้ระเบิดในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้อีกครั้ง
ทว่าเวลาผ่านไป 4 ปี เขากลับยังวนเวียนอยู่ในโลกที่เหมือนไม่เคยรู้จัก
“อยากให้มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแลและถามถึงสารทุกข์สุกดิบบ้าง” ญาติของเขาระบายความอัดอั้น
“ฮีโร่…ไม่ควรถูกลืม”
มองว่า ปัจจุบันคำนี้แทบจะทำให้หน่วยงานและสังคมลืม “หมวดท็อป” ที่ทำหน้าที่เพื่อปกป้องประเทศชาติผืนแผ่นดินไทยของประเทศไทย
แต่ชีวิตที่เหลืออยู่ต้องสู้เพื่อครอบครัว เพื่อพ่อและแม่
“ทุกวันนี้ หมวดท็อป พ่อและแม่ เหนื่อยมาก แต่ต้องสู้ในทุกๆๆอย่างเพราะตัวหมวดท็อป พ่อและแม่อยากให้เดินได้ เพราะอนาคตพ่อกับแม่ก็อายุเยอะมาก และต้องรับภาระดูแลลูกชาย”
ลูกชายที่ทำหน้าที่ปกป้องประเทศชาติ
คนใกล้ชิดจะรู้ดีว่าพ่อ แม่ และ “หมวดท็อป” เหนื่อยแค่ไหน
“อย่าให้ฮีโร่หมวดท็อปที่ทำหน้าที่ปกป้องประเทศชาติต้องกลายเป็นวีรบุรุษ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ถูกลืม”
พวกเขาอยากฝากถึงหน่วยงาน ผู้บังคับบัญชา สำนักข่าว นักข่าว และผู้ที่เกี่ยวข้องช่วยดูแลครอบครัว “หมวดท็อป” พ่อ และแม่ให้ถึงที่สุด รวมถึงผู้เสียสละตัวเองในอีกหลานครอบครัว ในเหตุการณ์ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
“หมวดท็อปไม่เคยเสียใจและร้องไห้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น การที่ตัวเองต้องสูญเสียและใช้ชีวิตที่ไม่เหมือนคนปกติเลยสักครั้ง เพราะใจท็อปสู้”
อย่าทอดทิ้งคนที่เสียสละเพื่อปกป้องประเทศชาติอย่างที่ “หมวดท็อป” ได้เขียนไว้ออกมาจากความรู้สึกถึงผู้บังคับบัญชา
“ฮีโร่..ไม่ควรถูกลืม”